ปิดตำนาน 20 ปี คดีโฉนดถุงกล้วยแขก ไกล่เกลี่ยลงตัว วัดยอมจ่าย 1.9 ล้าน
ปิดตำนาน 20 ปี คดีโฉนดถุงกล้วยแขก หลังไกล่เกลี่ยลงตัว ทางวัดยอมจ่าย 1.9 ล้าน พร้อมเปิดรับบริจาค ด้านพระพยอมปลื้มใจ จบลงด้วยดี
นายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม และ ทนาย ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา รองประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม พร้อมด้วยพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ได้ร่วมกันตั้งโต๊ะแถลงข่าวปิดตำนานคดีถุงกล้วยแขก หรือคีดมหากาพย์ที่ พื้นที่ ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ของมูลนิธิสวนแก้ว ที่มีเนื้อที่ 1 ไร่ 1 งาน 55 ตารางวา ที่พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ได้ซื้อมาเมื่อปี 2547 ในราคา 10 ล้านบาท จากการแบ่งขายของนางวันทนา สุขสำเริง เจ้าของที่ดินตามโฉนด เลขที่ 55600 และต่อมาในปี 2563 มีบุคคลอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินตัวจริง และกล่าวว่านางวันทนาเป็นผู้ครอบครองที่ดิน ทำให้ผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าของที่ดินได้ยึดคืนพื้นที่ดังกล่าวและนำสังกะสีมาล้อมรั้วห้ามให้บุคคลภายนอกเข้าพื้นที่ จนถึงปัจจุบันที่ดินดังกล่าวก็ยังไม่มีใครได้ใช้ประโยชน์ และกลายเป็นข้อพิพาทมานานหลายปีนั้น
ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า ตนได้รับหนังสือร้องเรียนจากหลวงพ่อวันที่ 18 ส.ค.65 ให้เข้ามาแก้ไขปัญหาที่ดินกล้วยแขก เป็นเวลาผ่านมานานต่อสู้ประมาณ 20 ปี ขั้นตอนตอนนี้ผ่านกระบวนการทางศาลหมดแล้ว เมื่อเราใช้พระเดชพระคุณไม่ได้ จึงต้องใช้การไกล่เกลี่ยจึงจะแก้ไขปัญหานี้ ตนได้ไปไล่ไทม์ไลน์โฉนดมาเยอะ วันที่ 19 ต.ค.67 ตนได้มาวัดสวนแก้ว มาสอบถามว่าวัดมีปัญหาอะไร ได้มีการคุยกับหลวงพ่อ ซึ่งแต่ก่อนวัดเป็นวัดร้างมีที่ดินแค่ 3 ไร่ หลังจากที่หลวงพ่อมาดูแล หลวงพ่อได้ซื้อที่ดินมาเรื่อยๆจน มีที่ดิน 300 กว่าไร่ ใช้ทำสวน ใช้ประโยชน์ ตนถามหลวงพ่อว่าทำไมต้องมาแคร์เรื่องโฉนดกล้วยแขกตรงนี้เพียงแค่ 1 ไร่ จึงได้ทราบว่า ตอนนี้โฉนดตรงนี้ถูกเพิกถอนเป็นเจ้าของเดิมแล้ว ซึ่งเจ้าของที่ดินเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อพยอม
หลายท่านที่ร่วมกันสร้างที่นี่ขึ้นมา ซึ่งหลวงพ่อปกป้องเงินครูบาอาจารย์ หลวงพ่อซื้อมาด้วยความบริสุทธิ์ ได้ทำถูกต้องทุกอย่าง ทีแรกบอกว่าไม่มีปัญหา แต่หลังจากนั้นก็มีปัญหา เพราะเจ้าของเดิมมาทวงคืนว่าเป็นที่ดินมรดก ที่ปรปักษ์ โดยมีนางวันทนา สุขสำเริง บุคคลที่ 3 ได้มาร้องเรียนว่าเป็นที่ดินปรปักษ์ และมีตระกูลหิรัญประดิษฐ์มาร้องขอเพิกถอนว่าที่ดินเป็นกองมรดก
ทางวัดสวนแก้ว และตระกูลหิรัญประดิษฐ์ สุจริตทั้งสอง แต่มีบุคคลที่ 3 จึงมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้น มีการพิพากษาให้วัดคืนที่ดินและรื้อถอน ทางวัดสู้กันมา 18 ปี เรื่องที่ดิน มีคนเข้ามาช่วยหลวงพ่อเยอะมาก พอตนมาดูตนคิดว่ากรณีนี้ควรจะประณีประนอมเพื่อเป็นการไกล่เกลี่ยกับเจ้าของโฉนดที่ดินดังกล่าว จึงได้มีการคุยเรื่องค่าเสียหายกัน ให้ทางวัดชำระทั้งหมด 1.9 ล้านบาท โดยเป็นการผ่อนชำระ โดยเงินในส่วนนี้ได้มีการเปิดรับบริจาคผ่านหมายเลขบัญชี 1211180387 ธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชีวัดสวนแก้ว โดยเรียกว่าเป็นผ้าป่าปลดล๊อคแผ่นดิน ให้วัดสวนแก้ว
ตอนนี้ทุกอย่างจบด้วยดีแล้ว ตนจึงประสานหลวงพ่อมาปิดตำนานโฉนดที่ดินตรงนี้ด้วยกัน พร้อมรื้อทิ้ง และหลวงพ่อจะเปิดผ้าป่าหลังปิดตำนานที่กล้วยแขกเพราะจะหาเงิน โดยการตั้งผ้าป่าปลดล๊อควัดสวนแก้ว จึงอยากจะเชิญชวนญาติโยมให้ร่วมทำบุญ เพราะทางวัดสวนแก้วไม่มีเงินไปชำระค่าเสียหาย และตนอยากฝากถึงเจ้าของที่ดินว่า ทางวัดอยากซื้อที่ดินแปลงนี้เพื่อทำประโยชน์ที่ดิน
พระพยอม กล่าวว่า วันนี้เป็นข่าวปลื้มใจมาก และจะปลื้มอีกหลายฝ่าย ทางวัดจะทำการบำเพ็ญประโยชน์ ทางตระกูลเขาจะได้หมดระแหงแคลงใจ จบลงด้วยดี และตอนนี้ทางวัดมีทนายอนันตชัย ที่เข้ามาช่วยเหลือให้จบลงด้วยดี ไม่มีเรื่องให้แทงใจแน่นอน แต่ก่อนที่เคยมีคนเข้ามาจะบริจาคเงินจำนวนเยอะแต่ไม่เคยรับ แต่ตอนนี้ถ้าจะกลับมาบริจาคได้สามารถมาได้ เพราะตอนนี้หลวงพ่อรับบริจาคแล้ว เพื่อนำเงินไปจ่ายค่าเสียหาย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง