ให้ความรู้เอฟซี “หมอฟรัง นรีกุล” โชว์ทดสอบวัดค่าน้ำตาลในเลือด หลังดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า-เบียร์-ไวน์-โซจู 30 นาที เป็นอย่างไรบ้าง?
คนอะไรทั้งสวย ทั้งเก่ง “หมอฟรัง” หรือ แพทย์หญิง นรีกุล เกตุประภากร เจ้าแม่คอนเทนต์สายสุขภาพอารมณ์ดี และอดีตนักแสดงเจ้าบทบาท “ออย” ในซีรีส์ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น โพสต์ติ๊กต่อก ให้ความรู้เอฟซีสายปาร์ตี้เนื่องในโอกาสวันเบาหวานโลก (14 พ.ย.) ว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ละชนิด มีผลต่อค่าน้ำตาลในเลือดอย่างไรบ้าง พร้อมทดลองเจาะเลือดปลายนิ้วให้ดูแบบสด ๆ
หมอฟรังกล่าวว่าวิธีการทดลองคือจะเจาะเลือดก่อนเริ่มดื่ม เหล้า, ไวน์, เบียร์ และโซจู เพื่อเช็กค่าน้ำตาลแรกเริ่มตามลำดับเครื่องดื่ม ในปริมาณมาตรฐาน 1 ดริ๊ง (10 Ml.) จากนั้นจะจับเวลา 30 นาทีหลังดื่มเพื่อเจาะเลือดหาค่าน้ำตาลอีกครั้งหนึ่ง โดยมีลิสต์ข้อมูลผลการทดลองแยกอันตามดังนี้
ค่าน้ำตาลก่อน-หลังดื่ม “เหล้า” 30 นาที
- ค่าน้ำตาลแรกเริ่ม : 99
- ค่าน้ำตาลหลังดื่มเหล้า 30 นาที : 102 (เพิ่มขึ้นมา 3)
ค่าน้ำตาลก่อน-หลังดื่ม “ไวน์” 30 นาที
- ค่าน้ำตาลแรกเริ่ม : 102
- ค่าน้ำตาลหลังดื่มไวน์ 30 นาที : 102 (คงที่)
ค่าน้ำตาลก่อน-หลังดื่ม “เบียร์” 30 นาที
- ค่าน้ำตาลแรกเริ่ม : 106
- ค่าน้ำตาลหลังดื่มเบียร์ 30 นาที : 103 (ลดลง 3)
ค่าน้ำตาลก่อน-หลังดื่ม “โซจู” 30 นาที
- ค่าน้ำตาลแรกเริ่ม : 103
- ค่าน้ำตาลหลังดื่มโซจู 30 นาที : 147 (เพิ่มขึ้นมา 44)
ผลสรุปการทดลอง : โซจูมีค่าน้ำตาลหลังดื่มมากที่สุด 147 มิลลิกรัม ขณะที่น้อยสุดคือไวน์ ที่หลังดื่มแล้วค่าน้ำตาลยังคงที่เท่าเดิม
อย่างไรก็ดี หมอฟรังระบุว่าการทดลองดังกล่าวอาจได้ผลที่ไม่เป๊ะ เนื่องจากเป็นการทดลองของเธอคนเดียว และรอบเดียว รวมถึงแอลกอฮอล์ยังมีฤทธิ์ยับยั้งการผลิตน้ำตาลจากตับอีกด้วย ฉะนั้นการที่ค่าน้ำตาลดูต่ำ อาจไม่ได้แปลว่าดีเสมอไป เพราะต้องดูบริบทอื่นควบคู่ เช่น อายุ, เพศ, การผลิตเม็ดเลือดขาว, ความถี่ของการออกกำลังกาย ฯลฯ
ทว่าสิ่งที่น่าแปลกใจคือค่าน้ำตาลหลังดื่มเบียร์ (ค่าน้ำตาลลดลง 3) เพราะเบียร์เกิดจากการหมักข้าว ทำให้อาจมีคาร์โบไฮเดรต แต่พอมีแอลกอฮอล์ มันเลยอาจจะไปกดการผลิตน้ำตาลก็เป็นได้
@frungnarikunnn คลิปสำเร็จละคับทุกคนนน5555555 14 พ.ย. เป็นวันเบาหวานโลก แต่ถ้าโลกของเธอมีเราอ่ะ หวานทุกวันนะ!
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง