ทนายสายหยุด เผย เมียทนายตั้ม เครียดคิดถึงลูก ฝากบอสดิไอคอน ดูแลด้วย
ทนายสายหยุด เผย เมียทนายตั้ม เครียดคิดถึงลูก มีหลักฐานสู้กลับ ลั่นถ้าผิดจริงไม่ทำคดีให้แน่นอน ฝากกลุ่มบอสดิไอคอน ดูแลด้วย
นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของทนายตั้ม หรือ ษิทรา เบี้ยบังเกิด ให้สัมภาษณ์หลังเข้าเยี่ยม นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาของทนายตั้ม โดยเปิดเผยว่าภรรยาทนายตั้มมีความเครียด เป็นห่วงคนข้างนอก และคิดถึงลูก โดยภรรยาทนายตั้มได้ฝากข้อความไปบอกลูก และฝากตนว่าจะให้ใครเข้ามาเยี่ยมบ้าง รวมถึงมีการสอบถามเรื่องการประกันตัว แต่ตนก็ตอบกลับไปว่าขณะนี้ยังตอบไม่ได้เนื่องจากต้องรอให้พ้นฝากแรก 12 วันไปก่อน
โดยตนก็ได้บอกกับภรรยาของทนายตั้มไปว่า “ไม่ต้องกังวล ทำใจให้สบาย อย่าเจ็บป่วย และต้องอยู่ให้ได้” ซึ่งตนมาเยี่ยมคนบ่อย มีประสบการณ์ว่าข่าวคราวเรื่องอะไรที่ไม่ดีจากข้างนอกก็จะไม่แจ้งกับลูกความ เพราะลูกความจะมีความกังวลอยู่เป็นทุนเดิม
ส่วนเรื่องคดี ภรรยาทนายตั้ม ให้ข้อมูลกับตนเพียงอย่างเดียวว่า มีการตกลงกับทนายตั้มเอาไว้ในการแต่งงานว่าหากมีอะไรต้องโอนเป็นชื่อของตนเอง ซึ่งกรณีที่ทนายตั้มถูกแจ้งข้อกล่าวหา ภรรยาก็ไม่ทราบเลยว่าทนายตั้มไปทำอะไร รู้เพียงว่าตัวเองไปรับโอนที่ดิน โดยทนายตั้มเป็นคนซื้อแคชเชียร์เช็กไปในวันรับโอน
เมื่อถามว่าสามีภรรยาอยู่ด้วยกันจะไม่รู้ได้อย่างไร ทนายสายหยุด มองว่า บางคนก็ปกปิด ไม่จำเป็นจะต้องบอกทุกอย่างว่าไปทำอะไรมา ทนายตั้มก็เป็นทนายดัง การซื้อบ้านในราคา 30 ล้านปลาย ๆ ส่วนตัวมองว่าก็พอเป็นไปได้
นายสายหยุด ยืนยันว่า ขณะนี้มุ่งเน้นไปที่การประกันตัวภรรยาทนายตั้ม ส่วนตัวของทนายตั้มได้สั่งการไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะขออยู่ในเรือนจำจนกระทั่งพิจารณาคดี เนื่องจากทนายตั้มเป็นทนายความมา 20 ปี น่าจะพอทราบดีว่าส่วนของตัวเองนั้นขอประกันตัวได้ยาก
ส่วนก่อนหน้านี้ที่ตนเคยยื่นขอประกันตัวภรรยาทนายตั้มไปแล้วนั้น ศาลรับคำร้องแต่ไม่อนุญาตให้ประกัน ส่วนการยื่นขอประกันตัวในครั้งหน้าศาลจะอนุญาตหรือไม่ มองว่าต้องดูหลายอย่างประกอบกัน ทั้งการสอบสวน การรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน และพยานหลักฐานที่ฝ่ายตนเองจะนำมาประกอบคำร้องว่าภรรยาของทนายตั้ม ไม่น่าจะทราบว่าเงินที่ได้นั้นได้มาจากการกระทำความผิด
ซึ่งฝ่ายผู้กล่าวหาก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าภรรยาของนายตั้มรู้หรือควรรู้ว่าเงินที่ได้รับมาจากการกระทำผิด โดย นายสายหยุด ระบุว่า ตอนนี้ตนยังมีหลักฐานเท่าเดิมที่เคยให้สัมภาษณ์ไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เนื่องจากทำงานอื่นอยู่ด้วยก็เลยยังไม่ได้รวบรวมเพิ่มเติม
ส่วนของ ทนายตั้ม นั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้า (12 พ.ย. 67) ตนจะเข้าไปเยี่ยม ซึ่งหากยังต้องเยี่ยมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์อยู่ในช่วง 5 วันแรกก็คงจะถามในเรื่องส่วนทั่วไป เมื่อพ้น 5 วันไปแล้วถึงจะคุยเรื่องคดี เพราะมองว่าผ่านคอนเฟอเรนซ์แล้วไม่เป็นส่วนตัว
“ถ้าผมดูพยานหลักฐานของตำรวจแล้วชัดเจนว่าลูกความผมกระทำความผิดจริง ผมไม่รับทำแน่นอน ถ้าผมดูแล้วอย่างที่เป็นข่าวว่ามีอันนั้นอันนี้มาแตะเชื่อมโยง ฟังดูว่าเขาผิดแล้วให้ผมไปสู้คดีผมคงไม่รับ เพราะทำคดีแพ้ผมไม่อยากทำ” นายสายหยุด กล่าว
ทั้งนี้หลังจากที่ทนายสายหยุด ให้สัมภาษณ์เสร็จ ก็ได้เจอกับทนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสพอล ที่ออกมาจากเรือนจำหลังดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหา18 บอส ดิไอคอนเสร็จสิ้น ที่มารอให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน
ทนายสายหยุด ได้เดินเข้าไปจับแขนให้กำลังใจด้วยท่าทีเป็นกันเอง และทนายสายหยุด บอกกับทนายวิฑูรย์ ว่า ถ้าทนายตั้มเขา “เจอกับบอสดิไอคอน ก็ฝากฝั่งบอสให้ดูแลพี่ตั้ม ก็ให้ปรับทุกข์กันนะ ข้างนอกก็ลืมซะ”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ยึดทรัพย์ ‘ทนายตั้ม’ เงินสด 28 ล้าน ทรัพย์สิน 43 ล้าน รวม 71 ล้าน
- ‘ทนายตั้ม’ อยู่ระหว่างการปรับตัว สั่งเฝ้าระวังหวั่นคนรอจองกฐิน ยังไม่เจอกลุ่มบอส
- ประวัติ สายหยุด เพ็งบุญชู ทนายคู่ใจ ทนายตั้ม เคยลุยคดีวัดเสือ สั่นสะเทือนวงการ