ชายวัย 48 ป่วยโรคปอด อยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์ สาเหตุจากการทำงานตัดเคาน์เตอร์ครัว
คนงานหนุ่มวัย 48 ปี ได้รับแจ้งว่าเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่สัปดาห์ หลังป่วยเป็นโรคปอดที่เกิดจากการทำงานตัดเคาน์เตอร์ครัวมาหลายปี
ชายค้นเรื่องมีชื่อว่า มาเร็ก มาร์เซก พ่อลูกสามวัย 48 ปี ที่ป่วยเป็นโรคปอดซิลิโคซิส (Silicosis) กล่าวว่าเขารู้สึกโกรธมากกับผลกระทบจากฝุ่นมรณะ ที่เกิดจากการตัดเคาน์เตอร์ควอตซ์
ในตอนนี้ เขาทำได้แค่นอนรอความตายเพียงเท่านั้น เพราะอาการของเขานั้นหนักเกินกว่าที่จะเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายปอด ซึ่งเป็นทางเดียวในการยื้อชีวิตของเขา เจ้าตัวจึงตัดสินใจที่จะร้องเรียนที่ทำงานสุดเลยร้ายของเขา ด้วยความหวังว่าจะป้อนกันไม่ให้คนอื่นต้องมาตายเพียงเพราะแค่มาทำงาน
บริษัทกฎหมายลีห์ เดย์ กำลังเป็นตัวแทนของมาร์เซก พร้อมกับอดีตคนงานหินรายอื่นๆ ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคซิลิโคซิสเช่นกัน และกำลังเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงมาตรการความปลอดภัยอย่างเร่งด่วน
มาร์เซก เดิมทีเป็นคนโปแลนด์ ก่อนที่จะได้เข้ามาทำงานกับบริษัทผู้ผลิตหินเทียมหลายแห่งในทางเหนือของกรุงลอนดอน และเฮิร์ตฟอร์ดเชียร์ ประเทศอังกฤษ มาตั้งแต่ปี 2012 สุดท้ายเขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคซิลิโคซิสในเดือนเมษายนที่ผ่านมา และเป็นเรื่องที่น่าเศร้า เพราะนับตั้งแต่นั้นอาการของเขาทรุดลงอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบัน มาร์เซก กำลังได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลวิตติงตัน ทางตอนเหนือของลอนดอน และอยู่ภายใต้การดูแลของ ดร.โจ เฟียรี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอดจากการทำงานชั้นนำจากโรงพยาบาลรอยัล บรอมป์ตัน
ทั้งนี้ โรคซิลิโคซิสของเขา เป็นโรคปอดเรื้อรังที่เกิดจากการสูดฝุ่นผลึกซิลิกาในปริมาณมาก ซึ่งได้ลุกลามถึงขั้นรุนแรงมากแล้ว จนแพทย์แจ้งว่าเขาเหลือเวลามีชีวิตอยู่เพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น
การศึกษาล่าสุดพบว่า คนงานหินเช่นเดียวกับมาร์เซกได้พัฒนาเป็นโรคซิลิโคซิสแบบเฉียบพลัน ซึ่งทำให้เกิดอาการหายใจลำบากอย่างมากและทุพพลภาพรุนแรง โดยการผ่าตัดเปลี่ยนปอดมักเป็นทางเดียวที่จะรักษาได้ แต่น่าเสียดายที่มาร์เซกมีอาการป่วยหนักเกินกว่าจะเข้ารับการผ่าตัดดังกล่าว และตอนนี้กำลังได้รับการดูแลแบบประคับประคองในระยะสุดท้ายของชีวิต
โรงพยาบาลได้เผยคำพูดของ มาร์เซก โดยเขาบอกว่าเขาต้องทนทุกข์กับความเจ็บปวดที่แสนสาหัส และไม่สามารถหายใจได้ เพียงเพราะการทำงานของผม พร้อมกล่าวว่า “ผมมาถึงสหราชอาณาจักรด้วยความหวังที่จะสร้างชีวิตที่ดีกว่า และต้องการให้แน่ใจว่าลูกสาวตัวน้อยของผมจะมีความมั่นคงทางการเงิน”
“แต่แทนที่จะเป็นเช่นนั้น เพราะงานตัดเคาน์เตอร์ควอตซ์ที่ผมทำ มันกลับทำให้ผมไม่สามารถหายใจได้ และต้องทนทุกข์กับความเจ็บปวดที่แสนสาหัส”
“ผมไม่สามารถบอกได้ว่าผมโกรธแค่ไหนที่ผมถูกปล่อยให้ทำงานในสภาพแวดล้อมแบบนี้ และชีวิตของผมต้องสั้นลงเพียงเพราะทำงานของผม”
“ผมไม่ใช่คนเดียวที่ชีวิตต้องตกอยู่ในความเสี่ยงจากฝุ่นมรณะนี้”
“ถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการดำเนินการเร่งด่วนเพื่อยุติสภาพการทำงานที่อันตรายที่ผมต้องเผชิญ ก่อนที่คนงานหินคนอื่นๆ จะต้องป่วยเป็นโรคร้ายนี้และเสียชีวิต”
ทีมกฎหมายของบริษัทลีห์ เดย์ กล่าวว่า จำเป็นต้องมีมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้นอย่างเร่งด่วน เพื่อหยุดยั้งจำนวนผู้ป่วยโรคซิลิโคซิสที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับการตัดหินเทียม โดยได้คร่าชีวิตคนงานหินไปแล้วอย่างน้อยหนึ่งราย
อีแวน แทนต์ ทนายความของมาร์เซกและหุ้นส่วนที่บริษัทลีห์ เดย์ เตือนว่า หากปราศจากมาตรการเหล่านี้ อาจมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยเขาได้กล่าวว่า “นี่เป็นกรณีที่น่าสลดใจอย่างยิ่ง ที่ลูกความของผมต้องมารับการดูแลแบบระยะสุดท้ายของชีวิต อันเป็นผลมาจากการทำงานกับหินเทียม ในสภาพที่เขากล่าวว่าเลวร้าย และไม่เหมาะสมต่อการทำงานอย่างสิ้นเชิง”
“ไม่ควรมีใครต้องเผชิญกับจุดจบที่เลวร้ายที่สุดเพียงเพราะการไปทำงาน”
“พวกเรามีความกังวลอย่างยิ่งว่า หากไม่มีการจัดการกับอันตรายจากการทำงานกับหินเทียมโดยปราศจากการป้องกันที่เหมาะสม เราอาจจะได้เห็นกรณีที่น่าสะพรึงกลัวแบบเดียวกันนี้ และอาจมีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นในอนาคตอันใกล้”
อ้างอิง : nypost.com
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง