ทนายเผย “เอก สายไหม” ไม่รอด ปมพยานเท็จ รอแค่สอบ บอสพอล ในเรือนจำ
ทนายวิฑูรย์ อัปเดตคดีดิไอคอน ดีเอสไอ ยังไม่ติดต่อแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่ พ.ร.บ.ขายตรงฯ กับ 18 ผู้ต้องหา กรณีเอาผิด เอก สายไหมต้องรอด เหลือแค่ไปสอบปากคำเรื่องนี้กับบอสพอลในเรือนจำ
เป็นการออกมาให้รายละเอียดในมุมของกลุ่มผู้ต้องหาและบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปที่วางแนวทางต่อสู้คดี โดยนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ “บอสพอล” ผู้ต้องหาในคดี บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยวันนี้ (5 พ.ย.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถึงกระบวนการและขั้นตอนเดินหน้าเคลียร์ข้อกล่าวหากับทางเจ้าหน้าที่
ทนายวิฑูรย์ กล่าวว่า ประเด็นที่ 18 บอสเตรียมถูกดีเอสไอแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่ กับ พ.ร.บ.ขายตรงฯ นั้น ตนมองว่าในจุดนี้คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับก๊วนผู้ต้องหา อย่างไรก็ดีต้องไม่ลืมรูปแบบเป็นการตั้งข้อกล่าวหามาก่อน จะผิดจริงหรือไม่ ? ต้องไปพิสูจน์กันต่อ
มือกฏหมายของดิไอคอนยังระบุ ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อมาจากเจ้าหน้าที่ของดีเอสไอว่าจะแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรงฯ กับผู้ต้องหาทั้ง 18 คนในเรือนจำฯ วันไหนบ้าง
ส่วนการต่อสู้คดีนั้นนักกฏหมายย้ำว่าตัวเองมีระบบของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปอยู่ในมือ สามารถเปิดดูได้ทั้งหมดว่าไม่ได้เป็นแชร์ลูกโซ่ตามข้อกล่าวหาของดีเอสไอ และไม่กังวลเรื่องนี้ ส่วนข้อหาฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เชื่อว่า สู้คดีได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามการแจ้งความดำเนินคดีกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ หรือ “เอก สายไหมต้องรอด” และพยานเท็จ นายวิฑูรย์ระบุว่าได้มีทีมทนายเข้าให้ปากคำไปแล้ว เหลือแค่ไปสอบปากคำในเรื่องนี้กับบอสพอลในเรือนจำ เพื่อนำมาประกอบสำนวนต่อไป
โดยก่อนหน้านี้ “นายเอกภพ” เคยออกมายกมือไหว้ขอโทษผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางและ “รองเต่า” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. จากใจจริง กรณีพาพยานเท็จเข้าไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ในคดีเกี่ยวกับดีเอสไอ โดยตอนนั้นเอกสายไหมกับพยานออกมาอ้างเงินจำนวนมหาศาลที่เป็นสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งพบเส้นเงินผิดปกติกว่า 247,911,936 USDT มูลค่ากว่า 8,223 ล้านบาท ถูกโอนออกไปก่อนที่ “โค๊ชแล็ป” ผู้ต้องหาหนึ่งใน 18 คนของดิไอคอนจะถูกจับเพียง 1 ชั่วโมง แต่ต่อมา “พล.ต.ต.จรูญเกียรติ” และทีมงานตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่าเป็นพยานอุปโลกน์ข้อมูลทั้งหมดขึ้นมา.
อ่านข่าวเพิ่มเติม