ตากล้องนิวยอร์ค ถ่ายภาพนู้ดหมู่ คนแก้ผ้าเต็มสภาพ เนื้อหนังคนนับพันละลานตา
ช่างภาพคนดังนิวยอร์ค ถ่ายภาพชายหญิงนับพันถอดเสื้อผ้า เปลือยกายบนสะพานอันเป็นสัญลักษณ์ของบริสเบน เพื่อร่วมในการถ่ายภาพศิลปะ
สเปนเซอร์ ทูนิค (Spencer Tunick) ศิลปินชาวนิวยอร์กเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพอันน่าทึ่งนี้ โดยมีผู้คนนับพันที่เปลือยกายเดินผ่านเมืองบริสเบนก่อนจะมาโพสท่าบนสะพาน โดยกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาล Melt ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองวัฒนธรรมของกลุ่ม Queer และ LGBT
เว็บไซต์ของเทศกาล Melt ได้ประกาศเตรียมการสำหรับภาพอันแปลกตานี้ว่า “สเปนเซอร์ ทูนิค ศิลปินร่วมสมัยที่มีฐานอยู่ในนิวยอร์ก กำลังมองหาอาสาสมัครสำหรับการจัดวางศิลปะขนาดใหญ่ในการกลับมาเยือนบริสเบนปี 2567 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาล Melt ครั้งแรก อันเป็นเทศกาลใหญ่แห่งใหม่ของเมืองที่เฉลิมฉลองศิลปะและวัฒนธรรม Queer”
การจัดวางศิลปะสำหรับเทศกาล Melt จะจัดขึ้นบนสะพานสตอรี่ สถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ของบริสเบน ในวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2567
โดยสะพานจะถูกปิดเพื่อแสดงงานศิลปะในครั้งนี้ ซึ่งจะมีการแสดงที่ใช้ร่างกายเปลือยเปล่าของผู้คนนับพัน เพื่อเฉลิมฉลองความหลากหลาย ความเท่าเทียม การอยู่ร่วมกัน และชุมชน LGBTQIA+ ที่มีชีวิตชีวาของบริสเบน รวมถึงพันธมิตร
ภาพถ่ายจากวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น แสดงให้เห็นสะพานที่เต็มไปด้วยร่างกายเปลือยเปล่าแน่นขนัด ในภาพหนึ่ง ทุกคนคุกเข่าในท่าคลานสี่ขา โดยก้มศีรษะชิดอก ส่วนอีกภาพหนึ่งทุกคนนอนหงายราบกับพื้น โดยวางแขนแนบลำตัว
การถ่ายภาพที่สะพานสตอรี่นี้ เป็นการต่อยอดจากภาพถ่ายกลุ่มคนเปลือยจำนวนมากของทูนิคที่สถานที่สำคัญอื่นๆ รวมถึงหาดบอนได และโอเปร่าเฮาส์ซิดนีย์
ขณะที่ Brisbane Powerhouse กำลังจัดแสดงนิทรรศการของทูนิคชื่อ ‘Tide’ ซึ่งนำเสนอผลงานตลอดอาชีพอันยาวนานของเขาในการถ่ายภาพกลุ่มคนเปลือยจำนวนมาก
เว็บไซต์นิทรรศการระบุว่า “ในผลงานกลุ่มช่วงแรกของเขา บุคคลจำนวนมากที่อยู่ร่วมกันโดยปราศจากเสื้อผ้า เมื่อจับกลุ่มรวมกัน จะแปรเปลี่ยนเป็นรูปทรงใหม่”
“ร่างกายเหล่านั้นแผ่ขยายเข้าไปในและบนภูมิทัศน์ราวกับเป็นสสารชนิดหนึ่ง มวลกลุ่มเหล่านี้ ซึ่งไม่ได้เน้นย้ำเรื่องเพศ มักกลายเป็นนามธรรมที่ท้าทายหรือปรับเปลี่ยนมุมมองของคนเกี่ยวกับความเปลือยเปล่าและความเป็นส่วนตัว”
“ผลงานนี้ยังสื่อถึงประเด็นที่ซับซ้อนเกี่ยวกับการนำเสนอศิลปะในพื้นที่สาธารณะทั้งแบบถาวรและชั่วคราว”
สำหรับใครที่สนใจ สามารถรับชมนิทรรศการนี้ได้ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน ถึง 10 พฤศจิกายนนี้
อ้างอิง : nypost.com
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง