กบ ไมโคร นั่งโหนกระแส ชี้แจงกรณีเป็น แม่ข่าย ดิไอคอนกรุ๊ป หลงเชื่อจะเป็นอาชีพที่สองช่วงโควิด ยันไม่มีความรู้เรื่องธุรกิจ โต้ขึ้นเวทีใหญ่ชวนคนเข้าร่วม แค่เล่าประสบการณ์ขายออนไลน์เท่านั้น
จากกรณีที่ บอสพอล สั่งทนายความ เอาผิดแม่ข่าย 5 คนที่อ้างว่าตัวเองเป็นผู้เสียหายฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ซึ่ง 1 ในนั้นมี กบ ไมโคร นักร้องดังในตำนานอดีตแม่ข่ายของ ดิไอคอนกรุ๊ป และเป็นบุคคลแรก ๆ ที่บอกเล่าเรื่องราวธุรกิจเครือข่ายผ่านทางเฟซบุ๊กก่อนจะเป็นข่าวดังในวันนี้ โดยทางทนายความของ บอสพอล ยืนยันว่า แม่ข่ายทั้ง 5 คนที่อ้างตัวเป็นผู้เสียหายจะต้องได้เปลี่ยนสถานะมาเป็นผู้ต้องหา และต้องได้รับโทษในข้อหาเดียวกันกับ 18 บอสที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเท่านั้น
ล่าสุด (29 ต.ค. 67) กบ ไมโคร มีโอกาสได้มานั่งเคลียร์ทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป ในรายการโหนกระแส ช่วงแรกได้ชี้แจงเกี่ยวกับการเป็นแม่ข่ายของธุรกิจดิไอคอนกรุ๊ป ระบุว่า “ตนไม่เคยได้ยินคำว่า แม่ข่าย แต่เขาจะใช้คำว่า ‘สายงาน’ ตั้งแต่ระดับสูงไล่ลงมาเลย แต่ทีนี้เมื่อในแต่ละสายงานมันจะต้องมีลูกทีมขึ้นมา สังคมจะเรียกว่า แม่ข่าย ก็ต้องยอมรับไปในตรงนั้นเพราะมันไม่มีอะไรปฏิเสธได้ เพียงแต่เราไม่ได้จำกัดคำว่า แม่ข่าย ต้องมีกี่คนในสายงาน ซึ่งในส่วนของตนนั้นเข้าไปอยู่ในเครือข่ายของ บอสสวย แต่ก็ไม่ได้รู้โครงสร้างอย่างละเอียดทั้งหมด แล้วตัวเองก็มีดิลเลอร์เป็นลูกทีมอยู่ 8 คน เป็นคนที่รุ็จักกันในครอบครัว”
กบ ไมโคร กล่าวเพิ่มเติมว่า “ส่วนลูกข่ายที่เปิดบิลซื้อสินค้า 2,500 บาทตนมีอยู่ประมาณ 60 คน และคนที่ต้องการจะเข้าไปเรียนรู้ระบบธุรกิจและเรียนรู้ระบบออนไลน์ด้วยทุน 25,000 บาทอีก 7 คน ซึ่งจะเรียนว่าเป็น ‘ซุปเปอร์ไวเซอร์’ และมีผู้ที่เปิดบิล 250,000 อีก 8 คน ในระยะเวลา 1 ปี 4 เดือนที่เริ่มลงทุนตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายน 2565 จนถึงต้นเดือนสิงหาคม 2566 ด้วยเงินลงทุน 2,187,591 บาท ได้กลับมาประมาณ 450,000 บาท”
เมื่อ หนุ่ม กรรชัย พิธีกร ถามถึงจุดเริ่มต้นของการเปิดโปงเรื่องราวธุรกิจเครือข่าย ดิไอคอนกรุ๊ป ทางนักร้องดังเผยว่า “วันที่เลิก ตนเลิกด้วยเหตุผลที่ดิลเลอร์ 8 คนที่เป็นคนรู้จักกันสมัครเข้ามาเอง แล้วพยายามที่จะขายสินค้าแต่กลับขายไม่ได้ ตอนนั้นยอมรับว่าตนเองก็ยังไม่เข้าใจ ก็ได้กลับมานั่งคิดถึงเหตุผลว่า ‘ขายไม่ได้เพราะอะไร’ และสิ่งที่คิดอยู่ในใจ คือ ‘บาป’ เพราะเขาเปิดบิลมาอยู่กับเราแล้วแต่ขายของไม่ได้ จึงตัดสินใจบอกภรรยาว่าจะเลิก และทิ้งเงินลงทุนที่เหลือทั้งหมดไป แม้จะได้กลับมาแค่ 450,000 บาทก็ตาม ยอมขาดทุนไปเลย เพราะถ้าฝืนอยู่ต่อมันก็จะมีคนมาเปิดดิลเลอร์เพิ่มอีก แล้วมันก็จะกลับไปวนอยู่ในวงจรที่ขายของไม่ออกวนไปเรื่อย ๆ ก็เลยเลิกดีกว่า”
กบ กล่าวต่อว่า “หลังจากที่เลิกทำธุรกิจกับดิไอคอนกรุ๊ปด้วยความไม่รู้อะไรเลย ก็ได้มีเวลากลับมาย้อนศึกษาทำความเข้าใจ เพราะไม่เคยทำธุรกิจมาก่อน ตอนนั้นที่ทำก็ไม่รู้จะไปถามใครว่าขายของออนไลน์อะไรยังไง ทำไมถึงต้องยิงแอด ต้องรับคนเข้ามาเรียน”
ต่อมาได้มีการพูดถึงกรณี กบ ไมโคร ขึ้นพูดบนเวทีใหญ่ของดิไอคอนกรุ๊ป โดยเจ้าตัวเล่าเหตุการณ์ในตอนนั้นว่า “ตอนนั้นเข้าร่วมได้ประมาณ 4-5 เดือน มีความเชื่อโดยสุจริตใจเลยว่าจะเป็นอาชีพที่ 2 ให้กับตนได้ในวันที่ตกงานช่วงโควิด อีกใจหนึ่งก็อยากขายของออนไลน์ พอเริ่มทำตรงนี้ก็มีรายได้ขึ้นมา
หลังจากนั้น บอสสวย ก็มาเชิญชวนให้ขึ้นไปพูดเล่าประสบการณ์บนเวทีที่อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี โดยไม่ได้มีค่าจ้าง และไม่ได้มีให้พูดเชิญชวนให้เข้าร่วมธุรกิจนี้ แต่ด้วยความที่เราอินกับการขายของออนไลน์ และคิดว่าเป็นอาชีพที่สองที่เราจะฝากชีวิตเอาไว้ได้ จึงตัดสินใจขึ้นไปพูดเกี่ยวกับการขายของออนไลน์ 100%
วันนั้นยอมรับเลยว่าอินกับคำว่า “I am The Icon” มาก ๆ จนถึงขั้นตะโกนพูดคำนี้ออกมาบนเวที แต่ตอนนั้นยังไม่เข้าใจเนื้อหาของคำว่าธุรกิจอย่างแท้จริง”
กบ เล่าต่อว่า “คลิปที่ตนขึ้นพูดบนเวที จู่ ๆ ก็ถูกเผยแพร่อีกครั้งในรูปแบบของการโปรโมท ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ตนเลิกทำธุรกิจกับทางดิไอคอนกรุ๊ปไปแล้ว เมื่อทราบข่าวจึงได้มีการติดต่อไปยัง บอสสวย ให้ยุติการใช้คลิป ภาพ และเสียงของบริษัทที่มีตนอยู่ในนั้นทั้งหมดในทุกกิจกรรม ซึ่งแจ้งไปตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2567 แต่ก็ยังมีปรากฎอยู่ในโลกโซเชียล”
ทั้งนี้นักร้องดังยังยืนยันว่า “ได้เจอและพูดคุยเล็กน้อยกับ บอสพอล ไม่เกิน 3 ครั้ง แต่ละครั้งก็แค่ทักทายในฐานะนักดนตรีรุ่นพี่รุ่นน้อง ไม่ได้มีการไปนั่งประชุมหรือพูดคุยล้วงลึกถึงแก่นกลางของธุรกิจ เพราะนั่นจะเป็นในส่วนของคนที่อยู่สูงกว่าตนขึ้นไปเท่านั้น ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง”
ทนายแก้ว ถามถึงบทบาทและหน้าที่ของ กบ ไมโคร ขณะที่เข้าไปอยู่ในบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปต้องทำอะไรอย่างไรบ้าง ด้านนักร้องดังตอบว่า “ตนไม่ได้มีหน้าที่หรือบทบาทอะไร เนื่องจากไม่ได้อยู่ในส่วนที่เกี่ยวอะไรกับออฟฟิศ ยืนยันไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับเหล่าบอสทั้งสิ้น”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กบ ไมโคร รับเต็มปาก “เป็นแม่ข่าย” ดิไอคอนกรุ๊ป ลงทุน 2 ล้าน แต่ขายไม่ได้สักชิ้น
- บอสพอล สั่งทนาย กล่าวโทษ 5 แม่ข่าย ร่วมฉ้อโกง กบ ไมโคร โดนด้วย
- ภาพสำคัญ ‘กบ ไมโคร’ อาจไม่ใช่ผู้เสียหาย ‘ดิไอคอนกรุ๊ป’ แท้จริงทำงานในบริษัท
อ้างอิงจาก : รายการ โหนกระแส
