ข่าว

สายไหมส่อไม่รอด บิ๊กเต่า เผยพยานอุปโลกน์ข้อมูล บอสพอลร่วมมือดี ลุ้นฟันผิด “เอกภพ”

บิ๊กเต่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เผยพยานปากสำคัญของนายเอกภพ ทีมงานสายไหมต้องรอด สารภาพแล้วสร้างเรื่องอ้างบุคคลระดับสูงทางการเมือง รับผลประโยชน์หมื่นล้าน เสียหายหลายหน่วยงาน ยันเอาเรื่องเข้าที่ประชุมก่อนลุ้นฟันผิดผู้ก่อตั้งเพจสายไหมหรือไม่ ชี้บอสพอลให้ความร่วมมือดีวานทนายหอบหลักฐานเอาผิดก๊วนนักร้องเรียน ความจุหลักฐาน 512 MB

ผลพวงจากที่ร่วมกันเปิดโปงข้อมูลความไม่ชอบมาพากลของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปจำกัด กันสนั่น ความผิดส่อเค้าเชื่อมโยงบุคคลในหลายกลุ่มหลาย ๆ หน่วยงาน แต่ข้อมูลแฉที่ทยอยกันมาแถลงข่าวตลอดจนยื่นหนังสือไปจนเอกสารร้องเรียนให้ตรวจสอบเอาผิดกับบอสพอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ทำท่าจะยังไม่ช่วยให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปักใจในข้อเท็จจริงได้ทั้งหมด

Advertisements

โดยเฉพาะกรณีล่าสุดที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ออกมาชี้แจงด้วยตัวเองต่อหน้าสื่อมวลชนกรณีพยานปากสำคัญที่ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นำตัวมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ อ้างเป็นบุคคลสำคัญและสามารถเป็นพยานในเรื่องของการรับผลประโยชน์ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด อ้างถึงบุคคลระดับสูงทางการเมือง รับผลประโยชน์กว่า 10,000 ล้านบาท

ถึงตอนนี้ อ้างอิงจากรายงานของมติชน หลังได้มีการสอบและซักถามข้อมูลจากพยานคนดังกล่าวของนายเอกภพ ปรากฏจากคำยืนยันที่ออกมาเองจากปากของบิ๊กเต่า ระบุชัดเจน “บุคคลดังกล่าว” ที่มากับนายเอกภพ สารภาพแล้วว่าเป็นข้อมูลที่สร้างเรื่อง ปรุงแต่งเรื่องราวขึ้นมาโดยไม่มีที่มาที่ไป เป็นการอุปโลกน์ขึ้นมา โดยอ้างว่าเป็นการถามจากเพื่อนและเสิร์ชหาทางเว็บไซต์โดยปราศจากข้อเท็จจริง

นอกจากนี้ การกระทำดังกล่าวยังทำให้เกิดความเสียหายต่อหลายองค์กรที่มีการพาดพิงถึง ทั้งนี้ “บิ๊กเต่า” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ อธิบายแนวทางถัดจากนี้จะต้องพิจารณาพร้อมกับนำเรื่องเข้าที่ประชุมหารือว่าจะต้องดำเนินการทางกฎหมายถึงขั้นไหนและอย่างไร

ส่วนตัวของนายเอกภพในฐานะผู้อ้างว่าพาพยานปากสำคัญมาไขปริศนาของคดีดิไอคอนจะโดนหางเลขด้วยหรือไม่ ประเด็นนี้ต้องรอผลการสรุปจากที่ประชุมอีกครั้ง โดยคาดว่าที่บุคคลดังกล่าวออกมากระทำการเช่นนี้เพราะอยากเรียกร้องความสนใจ โดยย้อนกลับไปตอนก่อนจะถูกนำตัวเข้าพบกับดีเอสไอนั้น พยานอุปโลกน์ข้อมูลรายนี้ พาดพิงว่ามีขบวนการช่วยเหลือด้านธุรกิจ โดยมีหน่วยงานทางภาครัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง 4 หน่วยงาน ได้แก่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ), ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) , สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.)

ทั้งนี้ เมื่อ 21 ต.ค. นายเอกภพเคยโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ เอกภพ สายไหม โดยระบุว่า “555555 โชคโคตรเข้าข้าง ในที่สุดผมก็หาคุณจนเจอ #ชายผู้อยู่เบื้องหลังบอสพอล สนุกหละ”

Advertisements
เอกภพ สายไหม โพสต์เฟซบุ๊กอ้างรู้ตัวผู้อยู่เบื้องหลังบริษัทดิำอคอน เมื่อวันที่ 21 ต.ค.2567
แฟ้มภาพ

ขณะเดียวกัน รอง ผบช.ก. ยังกล่าวถึงบอสพอลด้วยว่าตอนนี้ผู้ต้องหาที่อยู่ในฐานะเจ้าของบริษัทให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี หลังจากมีการให้ทนายนำหลักฐานซึ่งเป็นข้อมูลการเรียกรับเงินจากกลุ่มบุคคลที่อ้างตัวเป็นนักร้องเรียนยื่นมือมาช่วยผู้เสียหาย แต่อาศัยช่องว่างแอบสูบเงินใต้โต๊ะด้วยการเรียกรับเงิน ซึ่งข้อมูลล่าสุดที่ได้มา นายตำรวจผู้สวมหัวโขนดูแลตรวจสอบหาหลักฐานทั้งหมดก็ยืนยันหลักฐานชุดนี้ที่ได้มามีประโยชน์ต่อรูปคดีในเรื่องของการสืบสวน

หลักฐานที่เป็นไฟล์ความจุ 512 MB มีทั้งวิดีโอและภาพนิ่ง ทำให้ตำรวจไซเบอร์ชุดตรวจสอบทำงานง่ายขึ้นในการจะขยายผลไปถึงทุกคนที่มาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นนักร้องเรียนหรือเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการ โดยจะบังคับใช้กฎหมายเพื่อนำตัวมารับโทษต่อไป.

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button