‘ท่าน ว.วชิรเมธี’ ติง ‘หนุ่ม กรรชัย’ เหี้ยม ทำตัวเป็นศาลเตี้ย ขาดความเป็นพิธีกร
ท่าน ว. วชิรเมธี ติง หนุ่ม กรรชัย เหี้ยม ทำตัวเป็นศาลเตี้ย ถามตอนนี้เป็นพิธีกรหรือฆาตกรต่อเนื่อง ชี้หลายคนไม่ผิดแต่ถูกส่งเข้าคุก
กลายเป็นประเด็นเดือดต่อเนื่อง หลังจากที่ พระเมธีวชิโรดม หรือ ท่าน ว.วชิรเมธี เคยเทศน์ในงานบุญของ ดิไอคอนกรุ๊ป ซึ่ง บอสพอล ลงเอาไว้ในติ๊กต็อกของตัวเอง โดยช่วงหนึ่งท่าน ว.วชิรเมธี กล่าวว่า “ถ้าลูกอยากได้เงิน ลูกจงไปฝึกตัวเอง จงทำอาชีพที่เห็นเงินทุกวัน เป็นนักขายซิลูก ทุกวันนี้หนูเป็นลูกจ้างเขา เขาให้เดือนเท่าไหร่ หนูก็ได้เท่านั้น ทั้งๆที่หนูอาจจะมีความสามารถมากกว่านั้น หน่วยก้านอย่างหนูไปหาคอร์สดีๆฝึก แล้วหนูลงทุกในเวลา แล้วหนูจะเก่ง สถานการณ์บีบเวลารอไม่ได้
หนูถามครูว่า สอนหนูวันเดียว 10 ชั่วโมงได้ไหม เพราะหนูอยากรวยเลยพรุ่งนี้ พระอาจารย์บอกลูกเอ้ย ทำอย่างนั้นก็ ดิไอคอนแล้ว อดทนและรอคอย และเมื่อดทนกับการรอคอยได้ เพราะปลายทาง ลงมือทำก็สำเร็จจริงๆ ถ้าไม่ดูถูกตัวเอง รวยได้ทุกคน” จนนำไปสู่การตั้งคำถามและกระแสวิพากษ์วิจารณ์นั้น
ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก ท่าน ว.วชิรเมธี ได้ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง โดยโพสต์ข้อความหัวข้อว่า “ขอพระอาจารย์พูดบ้าง ถึง หนุ่ม กรรชัย” โดยเนื้อหาในเอกสารนั้นระบุว่า “ตั้งแต่เกิดกรณีติไอคอน พอจ.ก็เป็นฝ่ายเงียบมาโดยตลอดโดยมีความเชื่อมั่นว่า “ความบริสุทธิ์ใจ ความจริง” จะปกป้องตัวมันเองเนื่องเพราะ
1. ทางบริษัทดิไอคอน ได้แถลงการณ์ขออภัยต่อ ทอจ.แล้ว ว่า พอจ.ไม่มีส่วนใดๆ ในบริษัททั้งสิ้น สาธารณชนอ่านแล้ว ก็เข้าใจ ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนที่จะต้องมานั่งตีความกันอีก
2. พอจ. ก็แถลงการณ์ขออภัยที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดไปแล้ว ซ้ำยังย้ำอีกว่าที่พูดในวันนั้น เป็น การพูดเชิงกระแทกแดกดัน หรือ “แซะ” คนในดีไอคอนว่าให้รู้จัก “อดทนให้ได้ ใจเย็นให้พอ และรอให้เป็น” แต่ถ้าไม่ยอมอดทนก็พูดแค่ว่า “ลูกเอ๋ย ถ้างั้นก็ติโอ ถ้างั้นก็ติไอคอนแล้ว” ส่วนที่เหลือ ก็เป็นการพูดกระเช้าเย้าหยอก ทั้งนั้นอารมณ์ก็ชำๆ ฮาๆ พูดจบแล้ว ก็ให้ศีลให้พร มีแค่นั้น
ส่วนที่สอนให้เก็บเงิน เก็บทองก็เป็น case study ที่ยกมาจากเรื่องจริง (มีศิษย์มาขอยืมเงิน) ซึ่งเป็น ช่วงเวลายุคโควิด ตอนนั้น พอจ.ยังไม่รู้จักติไอคอน, ที่พูดว่า แต่ก็โฆษณาให้นะ ก็เป็นการพูดเชิงกระเช้าเข้า หยอก ให้คนฟังนับพันเขาชื่นใจเท่านั้น ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นแม่ทีมเสียหน่อยมันง่ายๆ แค่นี้ หนุ่ม ดูคลิปแล้ว ทำไมยังไม่เข้าใจ มันเข้าใจยากตรงไหน ใจคอจะเอาพระเข้าคุกให้ได้ว่างั้นเถอะ
3. ส่วนที่สอนให้รู้จักเก็บ รู้จักออม รู้จักทำมาหากิน ก็พูดตามหลักคำสอนในพระไตรปิฎก (ทิฏฐ ธรรมิกัดประโยชน์) เพียงแต่นำมาเล่าให้มันร่วมสมัยเท่านั้น ไม่ได้ตั้งตาตั้งตาไปทำหน้าที่ Presenter ให้กับติไอคอน พูดยาว ๑ ชั่วโมง ๑๒ นาที เนื้อหาไม่ได้มีแค่ตัดมาสร้างความเข้าใจผิดเท่านั้น (และถ้าถือว่า พูดอย่างนั้น คือ พอจ.หลอกโยม ควรพูดใหม่ว่า พอจ.ก็อยู่ที่วัดดีๆ นี่แหละ วันดีคืนดี พวกพี่แชม ก็ยกกันไป นิมนต์พอจ.มาเทศน์-พูดกันแฟร์ๆ ไม่ใช่พระหลอกโยม แต่เป็นโยมไปหลอกพระออกมาจากวัด-พระนี่แหละ เป็นเหยื่อดีไอคอน พูดชัดๆ ก็ต้องพูดอย่างนี้)
4. ส่วนการทำบุญที่บริษัท ดีไอคอน ก็ไม่ได้นิมนต์ พอจ.แค่รูปเดียว เขานิมนต์เป็นร้อยรูปต่อปี ตั้งแต่สมเด็จพระราชาคณะลงมา จนถึงพระเกจิต่างจังหวัด ใช่เจาะจงพอจ รูปเดียวเสียเมื่อไหร่ (บางคนเอา ไปพูดยังกับมีท่านว.รูปเดียวที่ได้รับนิมนต์ ไปดูรูปในเพจดีไอคอนว่ามีพระกี่รูป เขาไม่ได้ลบทิ้ง หลักฐานยัง อยู่ครบ จะได้พูดกันอย่างตรงไปตรงมา เคารพความจริงตามที่มันเป็นจริง)
5. ตาลปัตรที่ พอจ.ใช้ พระทุกรูปที่เคยไปเทศน์ ก็ใช้ให้พรเหมือนกัน (ดูรูปประกอบ) และดิไอคอน ไม่เคยทำถวาย พอจ.แต่เป็นของที่มีอยู่แล้วในห้องประชุมของบริษัท พระรูปไหนมา ก็ใช้ตาลปัตรของบริษัท อันนั้น อันนี้เป็นเรื่องทั่วไป บริษัทต่างๆ ที่เขาทำบุญเขาก็ทำตาลปัตรในนามบริษัทของตัวเองกันทั้งนั้น ธนาคารทุกแห่งก็ทำ แต่นี่หนุ่มปล่อยให้แขกพูดชี้นำว่าเขาทำเพื่อ พอจ.คนเดียว (ประมาณว่าเพราะเป็น Presenter ไง) แล้วพี่หลวงพ่ออลงกตท่านถืออยู่ในมือ ท่านต้องเป็นพรีเซนเตอร์ด้วยไหม?
6. บริษัทติไอคอน เคยถวายทุนการศึกษาให้มูลนิธิไร่เชิญตะวัน ในวันแห่งการให้ประจำปีจริง (1 ล้านบาท) และถวายเสร็จแล้ว ก็แจกกันวันนั้นเลย มีคนเป็นพยานหลายพันคน ไม่มีคำว่า “เข้าพกเข้าห่อ พอจ.แม้แต่บาทเดียว” (หนุ่มอยากตรวจสอบให้ทำได้ทันทีไม่ต้องรอพรุ่งนี้) และในวันเดียวกันนั้น คุณบ๊วย
เชษฐวุฒิ ก็ถวายทุนด้วย 600,000 บาทมูลนิธิร่วมกตัญญูก็ไปร่วมถวายทุน แจกถุงยังชีพทุกปี ปีหนึ่งไม่ ต่ำกว่า 10 ล้านบาทถ้าทุกคนที่ไปทำบุญคือไปติดสินบนพระ ต่อไปทุกวัด ก็ไม่ต้องรับเงินทำบุญจากบริษัท ใดๆ อีกแล้ว รัฐบาลก็ควรเลิกถวายนิตยภัตรพระทั้งประเทศไปเลย
หนุ่ม ข้อ 6-7 มันเลยการวิพากษ์วิจารณ์ไปแล้วนะ แต่มันคือ “การใส่ร้ายป้ายสี”กันชัดๆ ก่อนจะ สัมภาษณ์หนุ่มควรจะทำการบ้านให้มากกว่านี้นะ แบบนี้ พอจ.เสียหายมาก ลูกศิษย์ของ พอจ.ที่เขารัก ความเป็นธรรม เขาดูแล้ว เขาก็ทนไม่ได้หรอก ที่หนุ่มเอียงกระเท่เร่ได้ขนาดนี้
หนุ่ม ก็เคยบวชกับ พอจ.นะ สิบกว่าปีที่แล้ว เป็นอย่างไร ทุกวันนี้ พอจ.ก็ยังเป็นอย่างนั้น มีชีวิตในที่ แจ้งท่ามกลางสาธารณชนตลอด ไม่ใช่เพิ่งโผล่มาเป็นคนดังปีสองปีนี้เมื่อไหร่ พอจ.ทำงานหนักขนาดไหน หนุ่มก็น่าจะรู้ดี นี่ปล่อยให้คนมาใส่ร้ายป้ายสี พอจ.กลางรายการโดยไม่ยอมแสวงหาข้อเท็จจริงเอาเสียเลย ถ้าหนุ่มรักเมีย รักลูก ก็ให้รู้ไว้ว่าศิษย์ พอจ.เขาก็รัก พอจ.เหมือนกัน เขาเจ็บปวดเหมือนกัน
หลังๆ หนุ่มใกล้จะทำตัวเป็นศาลเตี้ยเข้าไปทุกวันแล้วนะ โหด เหี้ยม ขาดความเห็นอกเห็นใจแขก และคนที่เขาตกเป็นข่าว หนุ่มยังเป็นพิธีกรอยู่หรือเปล่า หรือว่าตอนนี้กลายเป็น “ฆาตกรฆ่าต่อเนื่องไปแล้ว” หลายคนเขาไม่ผิด หนุ่มส่งเขาเข้าคุกไปแล้ว พอเค้าออกจากคุกมาเงียบๆ หนุ่มเคยไปขอโทษเขาไหม ?
อีกอย่าง พอจ.มีวัดที่ พอจ.สร้างเองอยู่ที่ญี่ปุ่นอยู่แล้ว 2 วัด สร้างมาแล้วเกือบสิบปีและพรรษานี้ หอจ.ก็มาจำพรรษาที่นี่ ช่วงนี้มาประชุมเชิงวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม เอาเรื่องน้ำท่วมแม่สายมานำเสนอที่ ม.โยโกฮาม่า กับกองงานในพระองค์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า (หลักฐานอยู่ในเพจ พอจ.) ไม่ได้หนีมาแช่
ออนเซนแต่อย่างใด นี่ข้อมูลพื้นๆ แบบนี้ หนุ่มก็ไม่รู้ แล้วที่เหลือ หนุ่มจะพลาดอีกขนาดไหน หนุ่มไม่ได้สว่างไสวในทุกเรื่องนะ อย่าคิดว่าตัวเองเสียงดังแล้ว จะสัมภาษณ์เล่นงานใครก็ได้ โดยไม่แสวงข้อเท็จจริง แล้ว ปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องถูกใส่ร้ายกลางรายการอย่างนี้หลายครั้งหลายคน ขออภัยหนุ่มด้วยที่พูดยาวแต่เป็นการคุยกันฉันครูกะศิษย์ก็แล้วกัน หวังว่าหนุ่มคงไม่โกรธพอจ.นะ”
อย่างไรก็ตามโพสต์ดังกล่าวถูกลบออกไปแล้ว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง