เปิดใจ ลูกแม่หาเงินรักษามะเร็ง เปิดบิลดิไอคอน 5 แสน อาการทรุดเสียชีวิต
เปิดใจ ลูกแม่หาเงินรักษามะเร็ง เปิดบิลดิไอคอน 5 แสน แต่ขายไม่ออก อาการทรุดเสียชีวิต ลูกถามลงทุนกับมึงขนาดนี้ ขอแสดงความเสียใจยังไม่มี
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความขณะรดน้ำศพแม่ พร้อมเขียนข้อความบรรยายว่า “เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2566 วันสุดท้ายของแม่ ข้อความแสดงความเสียใจ แม้แต่ประโยคเดียวยังไม่มี อย่าถามพวงหรีด เค้าลงทุนกับมึงขนาดนี้ น้ำใจของทีมไม่มีสักนิดเลยหรอ เป็นคนให้ได้ก่อนเนอะ ก่อนเป็นบอส วัดที่ออกข่าววันนี้ คือวัดบ้านกูเอง บอสเคยมานิ ไม่มาเผาแม่กูหน่อยละ” จนกลายเป็นไวรัลในสื่อสังคมออนไลน์นั้น
ผู้สื่อข่าวในพื้นที่ได้เดินทางไปพูดคุยกับเจ้าของโพสต์ทราบชื่อคือ นายชนัสก์นันท์ หรือแบงค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี อยู่บ้านในพื้นที่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นผู้โพสต์ และเป็นลูกชายของ นางสุดใจ อายุ 62 ปี ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2566
ลูกชายเล่าว่า ตนมีหลักฐานที่เป็นข้อความแชทที่เคยพูดคุยกับแม่เกี่ยวกับการลงทุนกับทางดิไอคอนกรุ๊ป ซึ่งเคยเตือนแม่ว่าอย่าไปลงทุนสินค้าออนไลน์ หลังจากที่แม่มาถามว่าไปมัลดีฟส์ต้องใช้เงินเท่าไหร่ ซึ่งได้ตอบแม่ว่าไม่เท่าไหร่อยากไปไหม เพราะคิดว่าถ้าแม่อยากเที่ยวก็จะพาไป
แต่กลายเป็นว่าแม่มาเปิดเผยว่าตัวเองได้สมัครเป็นแม่ค้าออนไลน์ โดยมีโปรโมชั่นไปเที่ยวมัลดีฟส์ เดือน พ.ค. 65 ซึ่งก็พยายามสอบถามข้อมูลว่าคืออะไร ทำไมไปได้ง่ายดายขนาดนั้น และยังแนะนำให้ดูข้อตกลงดี ๆ ต้องเปิดบิลเท่าไหร่
แม่ได้ส่งภาพบิลดิลเลอร์ที่จะได้ตั๋วเที่ยวมัลดีฟส์ 1 ใบ ระบุราคาจ่ายปกติ 261,940 บาท และจะได้สินค้าเป็น กาแฟ 500 แพ็ก และ คอลลาเจน 275 กล่อง แต่จะได้รับเงินคืน 26,250 บาท ซึ่งระบุเงินที่จะจ่ายจริงเป็นเงิน 235,690 บาท
ยังมีเงื่อนไขพิเศษหากไม่ไปมัลดีฟส์จะได้เงินคืนอีก 40,000 บาท ทำให้ยอดเงินที่จ่ายบิลดิลเลอร์ตัวนี้แบบไม่เอาตั๋วเที่ยวมัลดีฟส์อยู่ที่ราคาทั้งสิ้น 195,690 บาท โดยแม่ยังบอกว่าให้เข้าไปดูในเฟซบุ๊กของบอสปัน
นายชนัสก์นันท์ กล่าวต่อว่า คุณแม่บอกว่า หากจ่ายเงินไป 200,000 บาท สามารถไปได้ทั้งครอบครัว จึงลงทุนเปิดบิลดิลเลอร์ และแจ้งอีกว่าบอสพอล จะให้ของมาให้เราขายและไม่ต้องสต็อกของ ไม่ต้องเดินขาย ใช้การตลาดขายทางออนไลน์
คุณแม่ยังคงได้ชักชวนให้ตนมาร่วมทำออนไลน์ด้วย ซึ่งก็ได้พยายามดึงสติคุณแม่กลับมาอย่าใจร้อนให้มองหลาย ๆ มุม แต่สุดท้ายแม่ก็ยังคงร่วมลงทุนเช่นเดิมและเข้าคอร์สเรียน อบรม ตามจังหวัดต่าง ๆ อีกทุกสัปดาห์
มาทราบภายหลังถึงเหตุผลที่ลงทุนกับดิไอคอน เพราะแม่ต้องการหาเงินมารักษาตัวเองที่ป่วยเป็นมะเร็งและมีโรคประจำตัว โดยแม่ส่งข้อความมาบอกว่า แม่ก็คิดแล้วว่าเงินไม่พอจะใช้ในการรักษา เลยคิดว่าจะหาเงินจากทางไหนเพิ่มดี เพราะไม่มีใครช่วยถ้าไม่ช่วยตัวเอง ผมก็พยายามพูดให้แม่คิดและออกมาจากดิไอคอน แต่สุดท้ายแม่ก็เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2566 และมาตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ
นอกจากนี้ ยังมีกระดาษ 1 แผ่นที่แม่ไปประชุมกับเครือข่ายดิไอคอนกรุ๊ป เป็นกระดาษที่วาดเขียนกระดานความฝันของแม่เอาไว้ โดยเป็นความฝันที่แม่อยากจะให้เกิดขึ้นจริงภายใน 4 ปี เมื่อเข้าสู่เครือข่ายของดิไอคอนกรุ๊ป
โดยความฝันแรกของแม่ที่เขียนในกระดานความฝันคือ เป็นระดับโกลด์ ดิลเลอร์ มีชุดสูตรสวย ๆ ใส่ในราคาหมื่นอัพ ตั้งใจให้สำเร็จในเดือน ส.ค. 65
ความฝันที่ 2 อยากให้เกิดขึ้นในเดือน พ.ค.66 โดยไปถึงระดับ แกรนด์ ดิลเลอร์ ซื้อกระเป๋าใบละ 2-3 หมื่นมาใช้ ความฝันต่อมาในเดือน พ.ค.67 ไปถึงระดับ แพลทตินั่ม ดิลเลอร์ ดาวส์รถ BMW สีขาวมาขับ และความฝันที่ 4 ไปให้ถึงระดับ เพลซิเดนเชี่ยล ดิลเลอร์ โดยมีความฝันที่จะหยุดการทำงานทุกอย่าง พาครอบครัวไปเยี่ยมเพื่อนที่อเมริกา
จุดเริ่มต้นของแม่ที่เข้าไปอยู่ในดิไอคอนกรุ๊ป มาจากที่แม่ต้องการหาเงินรักษาตัวเอง เพราะซื้อยานอกที่เบิกไม่ได้ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง จนกระทั่งเล่นอินเตอร์เน็ตไปเจอการสอนออนไลน์เมื่อช่วงเดือน พ.ค. 2565 หลังจากนั้นไม่นานแม่ก็เริ่มมีการสั่งของมาที่บ้าน ตนก็คิดว่าคงจะเอาไปทดลองขาย ทำโฆษณาออนไลน์ดูตามที่เรียนมา
ซึ่งตนก็เริ่มเห็นว่าเริ่มเยอะขึ้น ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าคืออะไรจึงไปเปิดหาดูในออนไลน์ พบว่าต้องเปิดบิลดิลเลอร์ราคากว่า 200,000 บาท จึงได้มาพูดคุยกันว่าใช้เงินเยอะเกินไปจนกลายเป็นมีปากเสียงกัน และแม่เริ่มมีโลกส่วนตัวไปต่างจังหวัดประชุมอบรมตลอด
ส่วนสินค้าที่ได้มานั้น บางส่วนก็ยังอยู่ บางส่วนก็ได้ไปแจก และนำไปทิ้ง เพราะไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไรต่อได้ ซึ่งแม่เสียเงินเปิดบิลดิลเลอร์ไป 2 บิล ทั้งของแม่ และใช้ชื่อพ่อ รวม 500,000 บาท และสลิปโอนเงินยิบย่อยอีกหลายอย่าง
ช่วงที่แม่ป่วยก็ไม่มีทีมงานหรือแม่ข่ายของดิไอคอนมาดูแล ซึ่งคุณพ่อได้ติดต่อไปทีมของแม่ตั้งแต่วันที่ป่วยจนทรุดเข้าโรงพยาบาล จนกระทั่งเสียชีวิต ก็มีแค่บอกว่าเดี๋ยวจะติดต่อไปอีกครั้งจนกระทั่งวันเผาศพแม่ ก็ไม่มีใครติดต่อมาแต่อย่างใด
กระทั่งเมื่อวานที่ผ่านมา เห็นข่าวที่บอสพอลไปทำบุญที่วัด ซึ่งเป็นวัดเดียวกันที่เผาศพแม่ ตนจึงเอะใจขึ้นมาว่า ในเมื่อวัดที่บอสพอลมาทำบุญกันนั้นเป็นวัดที่เผาแม่เรา ทำไมเขาถึงจะไม่รู้ว่าแม่จะอยู่ที่นี่ เพราะวันไปทำบุญแม่ก็อยู่ที่นี่ด้วย จะบอกว่าอยู่ไกลก็ไม่ใช่เพราะคุณก็เคยมาทำบุญ
จุดประสงค์ที่โพสต์นั้น ตนเองเสียใจ เสียความสัมพันธ์กับแม่ไประดับหนึ่งเลย การเรียกร้องก็ไม่ทราบว่ามีสิทธิอะไรไหมว่าทำได้ จึงโพสต์ไปเผื่อจะมีคนให้คำแนะนำได้ และอยากจะเตือนสำหรับคนที่เป็นหลังวัยเกษียร คนใกล้ชิดควรอยู่กับเค้ามาก ๆ อย่าปล่อยให้ไปเจออะไรไปแบบนี้ ซึ่งตนได้คำตอบจากแม่มา 1 ประโยคคือ แม่อยากประสบความสำเร็จในชีวิต
อย่างไรก็ตาม สำหรับสาเหตุที่แม่อาการทรุดลงและเสียชีวิตนั้น นอกจากโรคประจำตัวแล้ว เชื่อว่าเกิดจากงานที่แม่ทำ ไปอบรมประชุมสัมนาหลาย ๆ ที่ไปบ่อยมากทุกสัปดาห์ ขายให้ใครก็ไม่มีใครซื้อส่วนใหญ่มีแค่คนรู้จักกันสงสารก็ซื้อบ้าง ทักไปหาทีมตัวเองจะคืนสินค้าก็ไม่รับคืน หรืออยากให้เอาไปขายให้ก็ไม่ได้รับการชข่วยเหลืออะไร
เชื่อว่าแม่จะเครียดจากส่วนนี้ด้วย ตนเองไม่มีอะไรจะพูดหรือจะฝากถึงกับบุคคลเหล่านั้น แม้แต่คำเสียใจก็ไม่เคยมีมาให้ ตอนนี้รู้สึกเสียดายความสัมพันธ์กับแม่ที่เสียไปมากกว่า ตนเองไม่มีอะไรจะพูดกับคนแบบนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง