เปิดชื่อ 15 จังหวัด ประสบวิกฤตน้ำท่วม 11 ต.ค. 67 เสียหายแล้วกว่า 5 หมื่นครัวเรือน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วม ประจำวันที่ 11 ตุลาคม 2567 พื้นที่ 15 จังหวัดทั่วไทย ยังคงประสบภัย ยอดความเสียหายพุ่งสูงเป็นกว่า 51,000 ครัวเรือน
วันนี้ (11 ตุลาคม 2567) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM หรือ ปภ. รายงานสถานการณ์อุทกภัยรายวัน เผย น้ำยังท่วมพื้นที่ 15 จังหวัดในประเทศไทย ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก พิษณุโลก นครสวรรค์ สุโขทัย อุดรธานี ชัยนาท สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และ นครปฐม รวมทั้งสิ้น 60 อำเภอ 306 ตำบล 1,523 หมู่บ้าน จากจำนวนนี้มีประชาชนได้รับผลกระทบแล้วมากถึง 51,954 ครัวเรือน
รวมพื้นที่ประสบอุทกภัย 15 จังหวัด
ภาคเหนือ รวม 8 จังหวัด 29 อำเภอ 104 ตำบล 519 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 13,756 ครัวเรือน
1. เชียงราย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่สาย อ.เมืองฯ อ.แม่ลาว อ.เวียงป่าเป้า อ.เวียงชัย และ อ.เชียงแสน รวม 17 ตำบล 80 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,046 ครัวเรือน อยู่ระหว่างฟื้นฟู
2. เชียงใหม่ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.สารภี อ.หางดง อ.สันป่าตอง และ อ.เมืองฯ รวม 24 ตำบล 166 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,927 ครัวเรือน อยู่ระหว่างฟื้นฟู
3. ลำพูน เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองฯ รวม 7 ตำบล 42 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,369 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
4. ลำปาง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอแม่พริก รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง
5. ตาก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.สามเงา และ อ.บ้านตาก รวม 7 ตำบล 47 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,542 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
6. พิษณุโลก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.พรหมพิราม อ.บางระกำ อ.เมืองฯ อ.บางกระทุ่ม อ.วังทอง อ.นครไทย และ อ.วัดโบสถ์ รวม 27 ตำบล 104 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,749 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
7. สุโขทัย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง อ.เมืองฯ อ.ศรีสัชนาลัย อ.กงไกรลาศ อ.คีรีมาศ และ อ.ทุ่งเสลี่ยม รวม 19 ตำบล 77 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,053 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
8. นครสวรรค์ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองฯ รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 70 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 1 จังหวัด 2 อำเภอ 9 ตำบล 25 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 198 ครัวเรือน
1. อุดรธานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ และ อ.สร้างคอม รวม 9 ตำบล 25 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 198 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
ภาคกลาง รวม 6 จังหวัด 29 อำเภอ 193 ตำบล 979 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 38,000 ครัวเรือน
1. ชัยนาท เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ อ.มโนรมย์ อ.วัดสิงห์ และ อ.สรรพยา รวม 16 ตำบล 49 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 588 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
2. สิงห์บุรี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.อินทร์บุรี อ.เมืองฯ และ อ.พรหมบุรี รวม 4 ตำบล 14 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 526 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
3. สุพรรณบุรี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อ.เดิมบางนางบวช อ.บางปลาม้า อ.สองพี่น้อง อ.ศรีประจันต์ อ.สามชุก อ.เมืองฯ อ.อู่ทอง และ อ.ดอนเจดีย์ รวม 43 ตำบล 211 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,892 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
4. อ่างทอง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.วิเศษชัยชาญ อ.ไชโย อ.เมืองฯ และ อ.ป่าโมก รวม 20 ตำบล 66 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 997 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
5. พระนครศรีอยุธยา เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.บางบาล อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน อ.บางไทร และ อ.บางปะหัน รวม 100 ตำบล 591 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 28,352 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
6. นครปฐม เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.นครชัยศรี อ.บางเลน และ อ.สามพราน รวม 10 ตำบล 48 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 645 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัย อาทิ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว รถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่างขนาด 200 KVA รถบรรทุกเล็ก รถลากเรือเคลื่อนที่เร็ว เรือท้องแบน อุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ เข้าให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์ภัย
รวมถึงนำรถขุดตักไฮดรอลิคยกสูง รถตักล้อยางเอนกประสงค์ รถขุดล้อยางกู้ภัยปรับฐานล้อ รถตีนตะขาบ รถบรรทุกเทท้าย รถขุดตักไฮดรอลิคแขนยาว เร่งขุดตักขนย้ายดินโคลน เศษวัสดุ สิ่งปรักหักพัง พร้อมทั้งปรับเกลี่ยถนน เส้นทางสัญจร ฟื้นฟูถนนหนทาง อาคารบ้านเรือนในพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด
ย้อนความเสียหาย ‘สถานการณ์น้ำท่วม’
นับตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม – 11 ตุลาคม 2567 เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่รวมแล้ว 45 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี กาฬสินธุ์ หนองคาย นครพนม ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุบลราชธานี ปราจีนบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ปทุมธานี ระยอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ยะลา นครศรีธรรมราช พังงา ตรัง สตูล และ สงขลา
รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 279 อำเภอ 1,238 ตำบล 6,463 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 253,454 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตรวม 52 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 28 คน
อย่างไรก็ดี กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รายงานเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง และปักหลักช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลังจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยประชาชนสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์ ข่าวสารสาธารณภัย ได้ทาง Facebook : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ติดตามการประกาศแจ้งเตือนภัยได้ทางแอปพลิเคชัน “Thai Disaster Alert” ทั้งระบบ IOS และ Android
หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เตือน 7 จังหวัด กทม. ปริมณฑล ริมแม่น้ำเสี่ยงน้ำท่วม 13-24 ต.ค. นี้
- เฝ้าระวัง พายุจากเวียดนาม 13-14 ต.ค.นี้ มวลน้ำใต้เขื่อน อาจทะลักท่วมหลายจังหวัด
- พยากรณ์อากาศ 7 ต.ค. เช็ก 33 จังหวัด ระวังฝนหนักสะสม-น้ำท่วมฉับพลัน