ตำรวจสอบสวนกลาง บุกทลายแก๊งค์ขาย ‘เซ็กซ์ทอย’ เงินหมุนหลายล้าน
ตำรวจสอบสวนกลาง บุกทลายแก๊งค์ขายเซ็กซ์ทอย เข้าค้นหลายจุด มีทั้งคนไทยและต่างด้าว ของกลางหลายพันชิ้น พบมีเงินหมุนหลายล้าน
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ภายใต้อำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้เจ้าพนักงานตำรวจ กก.1 บก.ปคม. นำโดย พ.ต.ท.ณัฏฐพัชร์ งามประดิษฐ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกัน
จับกุมผู้ต้องหา ซึ่งกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบขายอุปกรณ์เซ็กซ์ทอย และนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามกโดยผิดกฎหมาย ได้ทั้งหมด จำนวน 9 ราย ตรวจพบอุปกรณ์เซ็กซ์ทอยผิดกฎหมายรวม 2,580 ชิ้น และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการกระทำความผิด จำนวน 66 เครื่อง โดยวางแผนเข้าตรวจค้น จำนวน 5 เป้าหมาย รายละเอียด ดังนี้
เป้าหมายที่ 1 บ้านพักใน ซ.โพธิ์แก้ว ถ.สุขาภิบาล 1 แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร จับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 2 คน คือ 1.น.ส.สุชาดา สัญชาติไทย อายุ 26 ปี, 2.นายอานนท์ สัญชาติไทย อายุ 25 ปี พร้อมด้วยของกลาง อุปกรณ์เซ็กซ์ทอย จำนวน 2,127 ชิ้น
ดำเนินคดีในข้อหา “เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียงแถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก, ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว, นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้”
เป้าหมายที่ 2 บ้านพักใน ซ.เพชรเกษม 48 แยก 22 แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร จับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 2 คน 1.MISS DOKKEO DOUANG สัญชาติลาว อายุ 32 ปี, 2.นายมงคลวิทูร สัญชาติไทย อายุ 40 ปี พร้อมด้วยของกลาง อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 8 เครื่อง
ดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูล คอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ และเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้”
เป้าหมายที่ 3 ห้องพักในคอนโด บางแวก 63 แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร จับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 1 คน 1. MR.NIKSANH อายุ 30 ปี สัญชาติลาว พร้อมด้วยของกลาง อุปกรณ์เซ็กซ์ทอย และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 424 ชิ้น
ดำเนินคดีในข้อหา “เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก, ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชน หรือให้เช่าวัตถุหรือสิ่งของเช่นว่านั้น และ เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้”
เป้าหมายที่ 4 ห้องพักในคอนโด ถ.เพชรเกษม ต.ห้วยจรเข้ อ.เมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม จับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 1 คน 1.นายชัยวัฒน์ อายุ 31 ปี สัญชาติไทย พร้อมด้วยของกลาง อุปกรณ์เซ็กซ์ทอย จำนวน 29 ชิ้น และยาปลุกเซ็กซ์ จำนวน 23 รายการ
ดำเนินคดีข้อหา “เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งสิ่งอื่นใดอันลามก และ ขายยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา”
เป้าหมายที่ 5 บ้านพักย่าน ต.ห้วยกะปิ อ.เมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี จับกุม ผู้ต้องหา ได้จำนวน 3 คน ซึ่งเป็นแอดมิน Telegram PimThaidai 1.นายสุโข อายุ 30 ปี สัญชาติไทย, 2.นายเอกราช อายุ 29 ปี สัญชาติไทย, 3.วุฒิพงศ์ อายุ 25 ปี สัญชาติไทย พร้อมด้วยของกลาง อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 58 เครื่อง
ดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูล คอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้, ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศ สำหรับตนเองหรือผู้อื่น”
สำหรับพฤติการณ์ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. ได้ดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ โดยการแสวงหาประโยชน์จากการผลิตหรือเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็ก และการแสวงประโยชน์โดยมิชอบจากทางเพศ ซึ่งได้เข้าคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ที่เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และพบว่ามักจะถูกกลุ่มขบวนการผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ล่อลวง หลอกลวง ให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ถ่ายคลิปวิดีโอลามกอนาจาร ลักษณะเปลือยกาย หรือหลอกล่อให้เด็กและเยาวชนถ่ายคลิปลามกอนาจารโดยให้มีอุปกรณ์เซ็กซ์ทอย เพื่อให้มีความน่าสนใจ
อันเป็นพฤติการณ์ในการยุยงส่งเสริมเด็กให้ประพฤติตนไม่สมควร หรือยินยอมให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร เพื่อให้ได้ค่าตอบแทนหรือเพื่อการอื่นใด จากนั้น ผู้กระทำความผิดจะให้เงินแก่เด็ก และนำคลิปวิดีโอลามกอนาจารเด็กดังกล่าว นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ อันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะเป็นการสร้างรอยแผลทางจิตใจให้กับเด็กและเยาวชนที่ถูกกระทำ
ต่อมา เมื่อประมาณต้นเดือน ก.ย. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. ได้รับการร้องเรียนว่าพบการกระทำความผิดผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ Telegram และเว็บไซต์ผิดกฎหมาย มีการตั้งกลุ่มลับที่ใช้เผยแพร่สื่อลามกอนาจาร ซึ่งรวมถึงคลิปลามกที่น่าเชื่อว่ามีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวนหลายคลิป ซึ่งกลุ่มดังกล่าวมีสมาชิกในกลุ่มมากกว่า 90,000 ราย และมีคนต่างด้าวร่วมกระทำความผิดตามกฎหมายด้วย
พฤติการณ์การกระทำความผิด กล่าวคือ ผู้กระทำความผิดซึ่งเป็นแอดมิน Telegram กลุ่ม PimThaidai จะมีการลงคลิปวิดีโอและภาพโป๊ของผู้หญิงจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงคลิปที่มีลักษณะถูกแอบถ่าย หรือคลิปหลุด โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะชักชวนสมาชิกในกลุ่มให้เข้ามาติดตามจำนวนมาก จากนั้นก็มีการแอบแฝงลักลอบจำหน่ายสินค้าสิ่งเทียมอวัยวะเพศทั้งผู้หญิงผู้ชาย (Sextoy), ยากระตุ้นอารมณ์ทางเพศหรือยาปลุกเซ็กซ์ที่ไม่ได้รับอนุญาตและไม่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพตามกฎหมาย
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. ได้สืบสวนขยายผลจนทราบว่า กลุ่มผู้กระทำความผิดมีพฤติการณ์ในการประกาศโฆษณาหรือไขข่าว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการค้า แจกจ่าย แสดงอวดแก่ประชาชนในสิ่งที่เป็นวัตถุหรือสิ่งของลามก ในลักษณะของเซ็กซ์ทอย หรืออุปกรณ์ของเล่นที่ใช้ในการเพิ่มความสุขทางเพศ หรือใช้ในการผ่อนคลายทางอารมณ์ เพื่อให้มีความรู้สึกคล้ายกับขณะร่วมเพศ หรือใช้กระตุ้นความรู้สึกทางเพศ โดยจะมีรูปร่างแตกต่างกันไปตามวิธีการใช้งาน เช่น ไวเบรเตอร์ (Vibrator), ดิลโด (Dildo) และตุ๊กตายาง (Sex Doll)
ทั้งนี้ จึงได้นำหมายค้นของศาลเข้าทำการตรวจค้นในเป้าหมายที่เชื่อว่ามีการกระทำความผิด จำนวน 5 เป้าหมาย จากการตรวจค้นพบของกลางซึ่งเป็นอุปกรณ์เซ็กซ์ทอย รวมทั้งสิ้นจำนวน 2,127 ชิ้น และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการประกาศโฆษณาขายอุปกรณ์เซ็กซ์ทอยดังกล่าว นำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคม. ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบถามปากคำผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้ลักลอบเปิดเว็บไซต์ผิดกฎหมาย และ Telegram กลุ่มโซเชียลสนทนากลุ่มลับ เพื่อประกาศโฆษณาขายสินค้าสิ่งของวัตถุอันลามก โดยขายมาต่อเนื่องกว่า 2 ปี มีลูกค้ามาติดต่อซื้อขายจำนวนหลายราย มีรายได้เดือนละประมาณ 1-2 แสนบาท และมีเงินหมุนเวียนมากกว่าหลายล้านบาท นอกจากนั้น ในรายของ MISS DOKKEO และ MR.NIKSANH สัญชาติลาว ซึ่งเป็นคนต่างด้าวสัญชาติลาว ได้มีการลักลอบขายสินค้าอุปกรณ์เซ็กซ์ทอย โดยเป็นการทำงานที่ผิดกฎหมาย ซึ่งได้จับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทางด้าน ว่าที่ พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ ผกก.1 บก.ปคม. ให้ข้อมูลว่าปัจจุบัน Sextoy ยังคงเป็นวัตถุลามกอนาจารที่ผิดกฎหมาย โดยเป็นสินค้าที่ไม่สามารถครอบครองหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายได้ และไม่สามารถนำเข้ามาในราชอาณาจักรได้ และพบว่ามีการลักลอบขายสินค้าประเภทนี้ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยการลักลอบขายในแหล่งขายสินค้าผ่านเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ หลบเลี่ยงการตรวจจากเจ้าหน้าที่ เป็นอันตรายต่อสังคมและศีลธรรม
จากการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ และความผิดที่เกี่ยวกับเพศที่ผ่านมาของ กก.1 บก.ปคม. พบว่าในคดีค้ามนุษย์รูปแบบการผลิตหรือเผยแพร่สื่อคลิปลามกอนาจารเด็กที่พบว่ามีการใช้อุปกรณ์ Sextoy เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นหรือเร้าอารมณ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการแพร่หลายที่เหยื่อซึ่งเป็นเด็กมักถูกล่อลวง ชักจูงจากผู้กระทำความผิดเพื่อนำไปสร้าง content คลิปลามกอนาจารเด็ก เป็นการใช้เด็กและเยาวชนเป็นเครื่องมือในการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้ามนุษย์
อย่างไรก็ตาม ตำรวจสอบสวนกลางขอประชาสัมพันธ์ให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรสังเกตพฤติกรรมของบุตรหลาน หรือเด็กอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของคนร้ายที่มีการกระทำหรือความคิดอันฝ่าฝืนต่อกฎหมายตามพฤติการณ์ข้างต้น กรณีที่หากพบว่าบุตรหลานถูกหลอกลวงถูกกระทำจนเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ เช่น มีคลิปวิดีโอลามกอนาจารถูกเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือและคุ้มครองตามกฎหมายมายัง บก.ปคม. หรือหน่วยงานที่ให้ความคุ้มครองตามกฎหมายอื่นๆ ได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง