บอสพอล แถลงด่วน ยันบริสุทธิ์ ไม่รู้มีคนตาย ขอสู้ตามกฎหมาย คนแฉไม่ใช่ตัวแทนขาย
“บอสพอล” The iCon group แถลงการณ์ แจงดราม่าธุรกิจ ยืนยันความบริสุทธิ์ บางรายได้กำไรกลับต่อว่า คนออกมาแฉไม่ใช่ตัวแทนบริษัท รอพิสูจน์ความจริงทางกฎหมาย
จากกรณีดราม่าธุรกิจขายตรงของ “บอสพอล” วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ซีอีโอบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป ที่มีผู้กล่าวอ้างว่าเสียหายจำนวนมากออกมาแฉผ่านโซเชียลมีเดีย ล่าสุด “บอสพอล” ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ยืนยันดำเนินธุรกิจด้วยความถูกต้องโปร่งใสตลอด 6 ปีที่ผ่านมา
ประเด็นสำคัญที่ “บอสพอล” ชี้แจง ระบุว่า
เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น: “บอสพอล” ระบุว่ารู้สึกเสียใจอย่างมากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว และได้ติดตามข้อมูลมาโดยตลอด
หลายเคสไม่ใช่ตัวแทนจำหน่าย: จากการตรวจสอบ พบว่าหลายคนที่ออกมาแฉ ไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายของบริษัทตามที่กล่าวอ้าง
บางรายได้กำไรแต่กลับมาต่อว่า: มีบางรายที่ขายสินค้ากับบริษัทแล้วได้กำไร แต่ก็ยังออกมาต่อว่าบริษัทในโลกโซเชียล
ไม่เคยทราบเรื่องที่มีคนฆ่าตัวตาย: “บอสพอล” ยืนยันว่าไม่เคยทราบเรื่องที่มีคนฆ่าตัวตายเพราะทำธุรกิจกับบริษัทมาก่อน และรู้สึกเสียใจ พร้อมช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียหายหากเป็นเรื่องจริง
เลือกเงียบเพราะไม่อยากให้สถานการณ์แย่ลง: ที่ผ่านมาเลือกที่จะไม่ออกมาพูด เพราะเกรงว่าจะยิ่งทำให้สถานการณ์บานปลาย
พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม: ขณะนี้ได้รวบรวมข้อมูลและหลักฐานทั้งหมด เพื่อพิสูจน์ความจริงผ่านกระบวนการทางกฎหมาย พร้อมเข้ามอบตัวกับตำรวจทุกเมื่อ
เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์: “บอสพอล” ยืนยันว่าตนเองบริสุทธิ์ และเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม พร้อมยอมรับโทษหากทำผิดจริง
ขอโอกาสพิสูจน์ตัวเอง: สุดท้าย “บอสพอล” ขอโอกาสให้ตนเองและองค์กรได้พิสูจน์ความจริง ก่อนที่จะถูกตัดสินจากสังคม
ทั้งนี้ “บอสพอล” ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของข้อมูลและหลักฐาน โดยขอให้รอการชี้แจงผ่านกระบวนการยุติธรรมต่อไป
รายละเอียดโพสต์ฉบับเต็ม
“สวัสดีทุกท่านครับ ผมขอเรียนชี้แจงผ่านทางช่องทางนี้นะครับ
ตลอดระยะเวลาที่ผมทำธุรกิจ ขายปลีก-ขายส่ง ผ่านระบบตัวแทน ภายใต้ บริษัทดิไอคอนกรุ๊ปมาเป็นระยะเวลา 6 ปีกว่าแล้ว ผมเชื่อมั่นว่า…ผมดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องโปร่งใสมาโดยตลอด
แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดเป็นกระแสสังคมขึ้น ณ ขณะนี้ ผมติดตามข้อมูลต่อเนื่องมา และรู้สึกเสียใจอย่างมาก ที่เกิดเหตุว่า…มีผู้เสียหายเกิดขึ้นเนื่องจากการทำธุรกิจกับบริษัทของผม
ผมได้ให้ทีมงานตรวจสอบข้อมูล ปรากฏมีหลายเคสตามที่เกิดดราม่าที่ออกมา ต่อว่า ด่าทอบริษัท กลับไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายของผม แบบที่เค้ากล่าวอ้างเลย และมีอีกหลายเคส ที่ขายของกับบริษัทผม แล้วได้เงินกำไรไปจำนวนมาก แต่ก็กลับมาต่อว่า ด่าทอ ในโลกโซเชียลเช่นเดียวกัน
ผมยอมรับตรงๆ ว่าผมงง และ สับสนมากครับ พยามตั้งสติ พยามติดตาม ดูข้อมูลว่าอันไหนเป็นข้อมูลจริง อันไหน เป็นการกลั่นแกล้ง ใส่ความ ปลุกปั่น บ้างก็ด่าเอามัน เอาสะใจ โดยมีข้อมูลถึงขั้นที่ว่า ทำธุรกิจกับบริษัทของผมแล้วฆ่าตัวตาย อันนี้คือประเด็นใหญ่ที่สุดที่ผมเองไม่เคยได้รู้มาก่อนเลยครับ และยังคงสงสัยอยู่ว่า ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ แล้วทำไม ? ถึงไม่มีใครในองค์กรรู้มาก่อนบ้างเลย
อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นเรื่องจริง ผมคงรู้สึกเสียใจมาก และอยากที่จะช่วยเหลือ เยียวยาครอบครัวผู้ที่สูญเสีย อย่างเต็มที่ครับ ขอเพียงท่านติดต่อกลับมาที่บริษัท แต่ขอย้ำอีกครั้งนะครับว่า ผมไม่เคยทราบข้อมูลมาก่อนจริงๆ
ส่วนที่ถามว่า ทำไมผมถึงยังไม่ออกมาพูดอะไร ผมขอตอบตรงๆ ว่า เมื่อไตร่ตรองโดยสติแล้ว ผมคิดว่า…ไม่ว่าจะตอบอะไรออกมา ในช่วงที่กระแสสังคม เปรียบเหมือนน้ำเชี่ยว จากการรับข้อมูล “ทางเดียว” ในตอนนี้ ยิ่งจะเป็นการทำให้สถานการณ์ที่หนักอยู่แล้ว หนักยิ่งขึ้น ผมจึงใช้เวลาทั้งหมดในการเตรียมข้อมูล ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง รวมทั้งหลักฐานต่างๆที่จะชี้แจงให้ทราบ ผ่านกระบวนการยุติธรรมทางกฏหมาย
ผมพร้อมเข้าสู่กระบวนการ เพราะผมเชื่อว่า…เราต่างเป็นสุจริตชนที่อยู่ภายใต้ “กฎหมาย” ไม่ใช่การใช้ “กฎหมู่” หรือกระแสสังคม ในการทำลายกัน ผมพร้อมจะเข้าไป แสดงตัว “มอบตัวกับตำรวจ“ ตามที่ตำรวจจะแจ้งให้ทราบทุกเมื่อ ผมรอพิสูจน์ความจริง อยู่ตรงนี้ ไม่หนีไปไหน แน่นอนครับ!!! และพร้อม นำข้อเท็จจริงและหลักฐานทั้งหมด เข้าชี้แจงผ่าน “กระบวนการยุติธรรม”
ทุกท่านอดใจรอหน่อยนะครับ เดี๋ยวความจริงก็จะเปิดเผยออกมาให้ทุกท่านทราบ… ถ้าผมทำผิด ตามที่ถูกกล่าวหา ผมย่อมจะต้องได้รับโทษทางกฏหมายอย่างถึงที่สุด แน่นอนครับ เมื่อถึงวันนั้นค่อยด่าทอ ประนาม เหยียบย่ำผมได้เลยครับ เชื่อว่า… ไม่ช้าเกินไป แต่วันนี้ ผมเป็นผู้บริสุทธิ์ ครับ และผมเชื่อ ในความบริสุทธิ์ ของผม ผมส่องกระจกดูตัวเองแล้วผมยังสามารถสบตาตัวเองได้ ”อย่างเต็มตา”
ในขณะเดียวกัน ผมก็สลดใจ ที่ตัวเอง และองค์กร ต้องมาถูกเหยียบย่ำ ทำลายต่างๆ นาๆ ในขณะที่ยังไม่ได้มีการตัดสินจากกระบวนการยุติธรรม ที่พวกเราเชื่อมั่น เชื่อถือ ผมอยาก ขอร้อง วิงวอนให้ทุกท่าน โปรดให้โอกาสผมและองค์กรได้พิสูจน์ตัวเอง ผ่านกระบวนการยุติธรรม ก่อนที่จะด่วนตัดสินกัน นะครับ
ขอบคุณครับ“
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ดาราดังติดคุกเพียบ! ตร.ไซเบอร์ เริ่มเก็บข้อมูล คดีธุรกิจขายตรง
- ย้อนดูบ้าน บอสพอล ในสลัมคลองเตย กว่าจะมาเป็นเจ้าของธุรกิจพันล้าน
- เปิดโปรไฟล์หรู “บอส พอล” เจ้าของ ดิไอคอนกรุ๊ป รวยธุรกิจ 2 พันล้าน
- เผยตำแหน่ง “แซม-กันต์-มิน” นั่งเก้าอี้ ผอ.บริษัทยักษ์ใหญ่ ดิไอคอนกรุ๊ป
- เปิดรายได้ “ดิไอคอนกรุ๊ป” 5 ปีย้อนหลัง มูลค่าบริษัท พุ่ง 800 ล้าน
ภาพจาก: Instagram paultheicon