ไกด์หนุ่มร้อง หลังเล่าประสบการณ์ถูกร้านอาหารชื่อดัง ย่านบรรทัดทองไล่ออกจากร้าน ด่าหยาบ-ทำท่าจะตบ ล่าสุดถูกเจ้าของร้านฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท
จากกรณีดราม่าที่ไกด์หนุ่มเดินทางไปจองคิวร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่ง ในย่านบรรทัดทองให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5 คน แต่กลับถูกร้านเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ลักลอบเข้ามาขายคิวให้กับลูกค้าชาวต่างชาติ จึงถูกไล่ตะเพิดออกจากร้าน ตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย รวมทั้งขู่ว่าจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาลากตัวออกจากร้าน
ล่าสุด วันที่ 8 ตุลาคม 2567 ไกด์หนุ่มที่เคยตกเป็นประเด็น ได้ออกมาโพสต์ว่า เขาถูกร้านอาหารชื่อดังที่เคยพาชาวต่างชาติเข้าใช้บริการ แจ้งความข้อหาหมื่นประมาท จึงออกมาขอความช่วยเหลือจากคนที่อยู่ ณ ที่เกิดเหตุที่เห็นเหตุการณ์ ขณะที่เขาถูกเจ้าของร้านทำท่าคล้ายจะเข้ามาทำร้ายร่างกาย และไล่ตนกับนักท่องท่องเที่ยวออกจากร้าน รบกวนเข้ามาให้หลักฐานเพิ่มเติมผ่านช่องทางแชทส่วนตัว
เจ้าตัวออกมาโพสต์ข้อความว่า “ร้านอาหารย่านบรรทัดทอง แจ้งความผมครับ ข้อหาหมิ่นประมาท อยากทราบว่าวันนั้นมีพี่ๆคนไหนเห็นเหตุการณ์ที่เจ้าของร้านจะทำร้ายนักท่องเที่ยว และไล่ผมกับนักท่องเที่ยวออกจากร้านไหมครับ รบกวน Inbox มาทีครับ ขอบคุณครับ”
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา ไกด์รายนี้ได้ออกมาโพสต์ประสบการณ์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก พวกเราคือผู้บริโภค หลังเข้าใช้บริการที่ร้านอาหารชื่อดัง ย่านบรรทัดทอง แต่กลับถูกไล่ออกจากร้าน เพราะถูกเข้าใจผิดคิดว่าตนเป็นคนขายคิว รวมทั้งได้รับการปฏิบัติที่ไม่ได้จากเจ้าของร้าน ทั้งถูกไล่ออกจากร้าน ด่าทอด้วยถ้ยคำที่รุนแรง ทำท่าทางคล้ายกับจะเข้ามาตบชาวต่างชาติที่เขาพามาด้วย ทั้งยังจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาลากตัวออกจากร้านอาหาร
เจ้าตัวโพสต์ข้อความว่า “วันนี้ผมพาลูกค้ามากินร้านอาหาร ในบรรทัดทอง ตอนถึงบรรทัดทองลูกค้าไปเดินเล่น ผมไปเอาคิวที่ร้านตอน 18:30 ร้านบอกว่าลูกค้าต้องเป็นคนมาเอาคิวเองผมบอกว่าลูกค้าไปเดินเล่นแล้วผมขอเอาคิวก่อน เค้าบอกไม่ได้ผมก็เลยแจ้งไปว่างั้นผมนั่งกินกับลูกค้าด้วยและกัน ร้านเลยออกเลขคิวให้
เมื่อถึงเวลา 18:50 ลูกค้าทั้ง 5 คนของผมมานั่งรอตรงเก้าอี้ร้าน จาก 18:50 ผมกับลูกค้ารอจนถึง 20:10 จนได้เรียกคิว ผมกับลูกค้าก็เข้าไปนั่งในร้าน 6 คน พอนั่งได้ 5 นาทีลูกค้าให้ผมไปซื้อขนมปังร้านหนึ่ ผมก็ลุกจากร้านไปเพราะลูกค้าสั่งอาหารเสร็จแล้ว เหลือรออาหาร ระหว่างที่ผมออกไปข้างนอกลูกค้าส่งข้อความแจ้งมาว่าร้านไม่ให้กิน ให้ออกไป ผมเลยรีบกลับมาที่ร้านปรากฏว่า ร้านพูดว่าผมมาเอาคิวและขายคิวให้ลูกค้า ผมก็แจ้งไปว่าไม่ใช่ ผมกับลูกค้านั่งรออยู่ตรงนี้ชั่วโมงกว่า ๆ ถ้าคุณไม่เชื่อให้เปิดกล้องวงจรปิดของทางร้านดูได้เลย ถ้าในกล้องไม่เห็นผมกับลูกค้านั่งรอ ชั่วโมงกว่า ๆ ตามที่ผมพูด ผมยินดีไม่กินเดินออกเลย
ทาางร้านอ้างว่าคนเปิดกล้องไม่อยู่ ยังไงก็จะให้ออกไป ไม่งั้นจะเรียกตำรวจมาลากตัวออกไป ทีนี้ลูกค้าผมเลยไปพูดกับเจ้าของร้าน (เจ๊อาม่าแก่ๆ) เป็นภาษาอังกฤษว่า ฉันมารอตรงนี้ชั่วโมงกว่าแล้วจริง ๆ อาม่าคงฟังไม่ออก ตะโกนว่า อีx่านี่ เดี๋ยวตบแx่งเลย ถ้าไม่ออกมาจะเรียกตำรวจมาลากตัวออกไป แล้วก็ยกมือจะตบหน้าลูกค้าผม
เรื่องนี้จบด้วยการลูกค้าไม่กินและกลับเลย พี่ ๆ ไกด์คนไหนจะไปที่ร้าน ฝากให้คิดหน่อยนะครับ ในมุมมองของผมเค้าไม่ควรทำแบบนี้กับลูกค้า เรายืนยันว่าเรานั่งรอจริง ๆ เป็นชั่วโมง เปิดกล้องดูได้เลย ถ้าไม่จริงเรายินดีออกจากร้านเลย เค้าก็ไม่เปิด ขู่จะเรียกตำรวจมาลากตัวออกไป และจะตบลูกค้าผมด้วย”
อย่างไรก็ตาม หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นไปต่าง ๆ นานา รวมทั้งเห็นใจไกด์หนุ่มที่ถูกดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท พร้อมทั้งคอมเมนต์ให้กำลังใจและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวหรือดำเนินการหลังถูกฟ้องร้อง
ในขณะเดียวกัน รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ได้ออกมาให้ความเห็นในประเด็นดังกล่าวว่า “อย่างหนึ่งที่หลาย ๆ คนไม่ทราบ หรือไม่เข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายหมิ่นประมาท คือเขาไม่ได้ตัดสินกันโดยดูว่าเป็นเรื่องจริงหรือเป็นเรื่องเท็จ แต่ตัดสินกันว่า การพูดหรือแสดงความเห็นหรือโพสต์คอมพิวเตอร์ไปนั้น ทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงหรือเปล่า หรือที่เรียกว่าหมิ่นประมาทนั้น
ถ้าเกิดความเสียหายขึ้น และทางเจ้าทุกข์ไม่โอเคด้วย ไม่เกิดการไกล่เกลี่ยยอมความกัน ก็มักจะแพ้คดีได้ครับ แม้ว่าจะเป็นเรื่องจริงก็ตาม ดังนั้น เจออะไรมา ก็ต้องระมัดระวังในเรื่องการมาโพสต์นะครับ เพราะจะเข้าข่ายหมิ่นประมาทได้ ยังแม้แต่การซื้อสินค้ามา แล้วเกิดปัญหาขึ้น ก็ต้องระวังในการร้องเรียนผ่านสื่อโซเชียลเช่นกัน ..”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไกด์แฉ ต่อคิวร้านดังบรรทัดทองให้ลูกค้า กลับถูกไล่หยาบ จะตบ เหตุคิดว่าขายคิว
- ปิดตำนาน 25 ปี ‘พระนคร บาร์’ ร้านอาหารดัง ชวนร่วมงานอำลาส่งท้าย
- ลูกชิ้นปลาบรรทัดทอง โพสต์แจ้งปิดร้านชั่วคราว เซ่นพิษปลาแพง
