ผู้สื่อข่าวรายงาน หญิงสาวอายุ 47 ปี เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับสายไหมต้องรอด เพราะถูกทนายความชื่อดัง ซึ่งเคยออกรายการเคเบิลทีวีมาแล้ว ยักยอกเงินไปกว่า 1.8 ล้านบาท
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ พฤษภาคม ปี 2553 คุณเอ นามสมมติ ให้เพื่อนบ้านยืมเงินจำนวน 3,600,000 บาท สัญญาระบุให้คืนภายใน 2 ปี แต่เพื่อนบ้านผิดสัญญา ไม่ยอมจ่ายหนี้ คืนมาแค่ 300,000 บาท เธอจึงตัดสินใจจ้างทนายความคนนี้ ให้ช่วยฟ้องร้องดำเนินคดี ในปี 2558
ทนายความกลับเพิกเฉย จนคดีใกล้หมดอายุความ ผู้เสียหายจึงเร่งรัดให้ฟ้องคดี ศาลชั้นต้นตัดสินให้จำเลยชดใช้เงิน 3.5 ล้านบาท แต่ผู้เสียหายยื่นอุทธรณ์ จนศาลตัดสินให้ชดใช้ 3.3 ล้านบาท
ปี 2561 ทนายความได้รับมอบอำนาจให้สืบทรัพย์จำเลย เพื่อขายทอดตลาด โดยลูกหนี้ได้ผ่อนชำระผ่านทนายความเป็นเงิน 1.85 ล้านบาท แต่ผู้เสียหายไม่เคยได้รับเงิน เมื่อทวงถาม ทนายความก็บ่ายเบี่ยง อ้างว่าอยู่ระหว่างรอขายทอดตลาด
เดือนกันยายนที่ผ่านมา ผู้เสียหายจึงสอบถามไปยังกรมบังคับคดี จึงทราบความจริงว่า ทนายความได้นำหนังสือมอบอำนาจไปไกล่เกลี่ย และรับเงินจากลูกหนี้ไปแล้ว 1.85 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังรับเงินจากลูกหนี้อีก 5 หมื่นบาท โดยทนายความฝ่ายจำเลยเป็นผู้เปิดเผย
ผู้เสียหายพยายามติดต่อทนายความ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงมาร้องเรียนเพจสายไหมต้องรอด โดยพบว่า ทนายความคนนี้เคยมีประวัติถูกผู้เสียหายอีกรายร้องเรียนผ่านเพจสายไหมต้องรอด เมื่อเดือนตุลาคม 2566 ในข้อหาค้างค่าเช่าบ้าน
