คำพูดเป็นนาย เต้น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โร่เคลียร์ข้อสงสัยหลังถูกแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษานายกฯ ทำคอการเมืองจี้ปมวาทะกรรมเก่า ก่อนอดีตหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ตอบชัดในรายการหมาแก่ ปมกลับลำไปถึงถูกดึงมาช่วยแผนรับมือม็อบ
จากกรณี แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐนตรีเพิ่มเติม เมื่อ 4 ต.ค.67 โดยมีชื่อ ธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส กับณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โดยรายหลังนั้นกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เนื่องจากตอนประกาศยุติบทบาทตำแหน่งผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยเคยร่ายยาวเหตุผลต่าง ๆ นานา ทำนองตัวเเองคงอยู่กับ พท. ไม่ได้ แต่ปัจจุบันพรวดมานั่งเก้าอี้กุนซือนายกฯ เสียอย่างนั้น
ล่าสุดรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand นอกจากรีรันคำสัมภาษณ์ตอนเต้น ณัฐวุฒิ แยกทางกับพรรค พ.ท. เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว โดยเริ่มจากคำพูดแรก
“เมื่อ 3 ส.ค. ผมได้บอกผู้ใหญ่ว่าถ้าถึงจุดที่ พท. ไปจับมือกับ 2 ลุง ผมก็อยู่ใน พท.ไม่ได้” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีต ผอ.ครอบครัวเพื่อไทยกล่าวไว้เมื่อ 26 ส.ค.2566
ในรายการหมาแก่ยังย้อนคำพูดของนายณัฐวุฒิที่เคยคุยกับนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตยายกรฐมนตรีด้วยว่า “12 ส.ค. ผมได้ติดต่อคุณเศรษฐา บอกว่าผมคงอยู่ใน พท.ไม่ได้ บอกคุณแพทองธารและผู้ใหญ่ทุกคนใน พท. รวมถึงท่านทักษิณและท่านยิ่งลักษณ์”
ต่อมา ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จึงได้โอกาสโฟนอินสดเข้ามาชี้แจง โดยคำถามแรกกรณีตนเองกลับลำหรือไม่นั้น เจ้าตัวยอมรับถ้าจะพูดอย่างนั้นก็ไม่คิดจะปัดป้องตัวเอง เพราะว่าเมื่อตัดสินใจเดินมาบนเส้นทางนี้ก็ต้องพร้อมรับคำพิพากษาจากประชาชน แต่อธิบายจากมุมของตน ขอเรียนว่าตลอดปีเศษ ๆ ที่ผ่านมา ตนเกิดการเรียนรู้ว่าเราต้องอยู่กับความจริงของสถานการณ์ให้ได้ การเมืองเป็นเรื่องของการจัดสรรอำนาจ
“สิ่งที่กำลังเป็นอยู่นี้ ถ้าพูดว่าพรรคการเมืองซึ่งเคยถูกจัดวางเป็นขั้วเดียวกันอย่างเพื่อไทยกับอดีตก้าวไกลปัจจุบันพรรคประชาชนต่างก็ยังเป็นผู้ถูกกระทำด้วยกันทั้งคู่ ในวลาห่างกันสัปดาห์เดียวเริ่มจากก้าวไกลถูกยุบพรรค แล้วพรรคพท. ถูกปลดนายกรัฐมนตรี ขณะที่เงื่อนไขพูดกันโดยเข้าใจความจริงทางการเมืองของคนไทยเวลานี้ ก็ต้องพูดกันตรง ๆ ว่า พรรคก้าวไกลไม่สามารถเป็นรัฐบาลได้ ไม่ว่าจะโดยเป็นแกนนำหรือว่าเป็นพรรคคร่วมรัฐบาลก็ตาม อันนี้ป็นเงื่อนไขทางอำนาจ เงื่อนไขทางการเมืองที่ซับซ้อน แต่เรามาองเห็นได้”
แจกแจงมาถึงตรงนี้ ปลายสายอดีตแกนนำตัวเอ้ก็ร่ายเนื้อหาต่อถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นที่ยกมานั้น ได้ดำเนินควบคู่ไปกับที่ทุก ๆ ท่านซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในพรรคบอกกับตัวเองให้กลับไปช่วยกันคิดช่วยกันทำในเรื่องที่รับได้ หรือในเรื่องที่ไม่ถึงขั้นบังคับจิตใจกัน
เต้น ณัฐวุฒิ ระบุอีกว่าจากที่ติดตามสถานการณ์เหล่านี้และจึงตอบตัวเองว่า ถ้าถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจอีกครั้งก็ต้องพร้อมที่จะประกาศต่อประชาชนว่าตนกลับมาช่วยทำงานในรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ที่จริงผู้หลักผู้ใหญ่หลาย ท่านก็เป็นห่วง มาช่วยกันเบื้องหลังไหมเพราะปลอดภัยจากกระแสวิจารณ์ได้มากหน่อย อย่างไรก็ดีตนตอบกลับ ถ้าจะกลับมาคงไม่กลับมาแบบแอบซ่อน จะกลับมาต้องบอกกล่าวกับประชาชนตรงไปตรงมาแบบนี้ ส่วนคำวิพากษ์วิจารณ์หรือข้อพิจารณาใด ๆ เป็นเรื่องที่ต้องพร้อมรับ
เมื่อถูกจี้กรณีที่สรุปไปบอกหรือมีการชวนกันก่อนแล้ว จึงให้คำตอบ จุดตัดสินใจใครเป็นคนออกปากชวน นายณัฐวุฒิ ก็แบ่งรับแบ่งสู้ว่า มีผู้ใหญ่หลายคนที่ชักชวน เริ่มมาตั้งแต่ปลาย ๆ รัฐบาลอดีตนายกฯ เศรษฐา ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวก็รับปากไปว่าเดี๋ยวจะกลับมาช่วย
ช่วงหนึ่งเมื่อถูกถามว่าเป็นการให้ช่วยวางแผนรับมือม็อบใช่หรือไม่ อีกฝ่ายก็ยืนกรานเสียงแข็ง โดยระบุ “เป็นความสัตย์จริงไม่ใช่เรื่องนี้เลย” ก่อนที่อดีต ผอ.ครอบครัวคนเพื่อไทยจะสรุปสั้น ๆ ที่ถูกดึงมานั่งที่ปรึกษาส่วนใหญ่ก็เป็นรื่องการเมือง ประเมินสถานการณ์ต่าง ๆ รัฐบาลควรจะเดินยังไง ท่านนากยฯ ควรรับมือสถานกาณ์ต่าง ๆ ในตอนนี้อย่างไร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการตัดสินใจสุดท้ายก็ยังต้องขึ้นอยู่กับตัวของนายกฯ เองอยู่ดี.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- นายกอิ๊งค์ เซ็น ธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นั่งที่ปรึกษานายกฯ
- ณัฐวุฒิ ร่ายยาวหา เศรษฐา ย้อนมื้อค่ำแรก เกือบ 4 ชม. และเรื่องใหญ่
- ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประกาศยุติบทบาทในพรรค เหตุจับมือสองลุง
