อัปเดตอาการ 2 เด็กหญิง เหยื่อไฟไหม้รถบัส ล่าสุดลืมตาได้-ลดใช้เครื่องช่วยหายใจ
โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ อัปเดตอาการบาดเจ็บของ 2 เด็กหญิง จากเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม ล่าสุด ลืมตา-หลับตาพอได้ โดยรวมค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ
สืบเนื่องจากกรณีสุดสะเทือนใจที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา รถบัสทัศนศึกษาของเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี เกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้อยู่บริเวณหน้าเซียร์รังสิต ถนนวิภาวดี อันเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตรวม 23 ศพ หลังเกิดเหตุมีผู้บาดเจ็บ 3 รายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแพทย์รังสิต ก่อนที่ต่อมาผู้บาดเจ็บ 2 ราย เด็กหญิง วัย 7 ปี และ 9 ปี จะถูกส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
ล่าสุด (4 ตุลาคม 2567) โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ออกแถลงการณ์ ความคืบหน้าอาการบาดเจ็บของเด็กนักเรียนที่ประสบอุบัติเหตุรถบัสไฟไหม้ กรณีส่งตัวมารักษาต่อ จำนวน 2 ราย (ฉบับที่ 3) เผยว่า ผู้บาดเจ็บทั้งสองอาการค่อย ๆ ดีขึ้น กลับมาลืมตา-หลับตาพอได้บ้างแล้ว อีกทั้งยังสามารถลดการใช้เครื่องช่วยหายใจได้แล้ว เพียงแต่เด็กหญิง วัย 9 ปี จะมีบาดแผลรอยไหม้มากกว่าเด็กหญิง 7 ปี
“สรุปอาการบาดเจ็บ วันที่ 4 ตุลาคม 2567 (วันที่ 3 ของการรักษา) จากเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษา โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 เวลา 12.30 น. ตามที่เป็นข่าวนั้น โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ได้รับการส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลแพทย์รังสิต จ.ปทุมธานี จำนวน 2 ราย โดยวันนี้เป็นการรักษาพยาบาลเป็นวันที่ 3 ซึ่งแพทย์ได้ประเมินอาการและให้การรักษาดังนี้
รายที่ 1 เด็กหญิงอายุ 7 ปี
แพทย์ประเมินแล้วว่า ร่างกายถูกไฟไหม้บริเวณใบหน้า และลำตัว แผลไหม้ระดับที่ 2 ทั้งหมดประมาณ 13% สัญญาณชีพปกติ หยุดการให้ยากระตุ้นความดันโลหิต ผู้ป่วยหายใจผ่านท่อช่วยหายใจโดยการใช้เครื่องช่วยหายใจ สามารถลดการช่วยเหลือจากเครื่องช่วยหายใจ ให้ยาแก้ปวด และให้ยานอนหลับต่อเนื่อง ปัสสาวะออกปกติ
เริ่มรับอาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูกได้ ได้รับการประเมินทางเดินหายใจด้วยการส่องกล้องทางเดินหายใจโดยกุมารแพทย์ด้านระบบทางเดินหายใจ พบทางเดินหายใจบวมลดลง ใช้อุปกรณ์บีบคลายขาทั้ง 2 ข้าง เพื่อป้องกันลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน แผลดี ปากบวมลดลง ไม่พบการติดเชื้อของแผล และยังต้องทำความสะอาดแผลและป้ายยาต้านจุลชีพวันละครั้ง
ทีมแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูใช้เฝือกร่วมกับอุปกรณ์ประคองมือและแขนสูง เพื่อช่วยลดบวม และมีแผนใส่อุปกรณ์รัดลดแผลเป็นในลำดับถัดไป เปลือกตาและเยื่อตายุบบวมลง สามารถหลับตาลืมตาพอได้ เยื่อหุ้มรก และ eye corneal shield อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ทั้ง 2 ข้าง
รายที่ 2 เด็กหญิงอายุ 9 ปี
แพทย์ประเมินแล้วว่า ร่างกายถูกไฟไหม้บริเวณใบหน้า คอ แขน และมือ ทั้ง 2 ข้าง แผลไหม้ระดับที่ 2 ทั้งหมดประมาณ 30% สัญญาณชีพปกติ แต่ยังคงต้องใส่ท่อช่วยหายใจ สามารถลดการช่วยเหลือจากเครื่องช่วยหายใจได้ เริ่มรับอาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูกได้ ให้ยาแก้ปวด และให้ยานอนหลับต่อเนื่อง
สามารถลดการให้สารน้ำและเกลือแร่ทดแทนเข้าทางหลอดเลือดดำได้ โดยประเมินสารน้ำในร่างกายมีภาวะน้ำเกิน เริ่มให้ยาขับปัสสาวะทางหลอดเลือดดำ บาดแผลบริเวณใบหน้ายุบบวมลง ความดันบริเวณแขนทั้ง 2 ข้างลดลง เนื้อเยื่อผิวหนังดีขึ้น กระบวนการอักเสบลดลง มีการฟื้นฟูของเนื้อเยื่อ ผิวหนัง
ทีมแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูใช้เฝือกร่วมกับอุปกรณ์ประคองมือและแขนสูง เพื่อช่วยลดบวม ในส่วนของเปลือกตาและเยื่อตายุบบวมลง สามารถหลับตา ลืมตาพอได้ เยื่อหุ้มรก และ eye corneal shield อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมทั้ง 2 ข้าง
โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จะดูแลรักษาผู้ป่วยทั้ง 2 ราย อย่างเต็มที่ โดยทีมแพทย์เฉพาะทาง เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติได้มากที่สุด และขอขอบคุณองค์กรภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไปที่ส่งกำลังใจให้กับผู้ป่วย ครอบครัว ตลอดจนทีมบุคลากรทางการแพทย์”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รพ.ธรรมศาสตร์ แถลงอาการบาดเจ็บ 2 นักเรียน กรณีไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา
- อัปเดตอาการ เด็กหญิง 14 ปี บาดเจ็บไฟไหม้รถบัส อาการทั่วไปดีขึ้น
- แพทย์รังสิต แจงอาการ “นักเรียนรถบัสไฟไหม้” ดญ.เสี่ยงตาบอด-สาหัสหนัก