เปิดที่มา หมอดูทำคุณไสยขโมยดวง สามารถทำได้จริงหรือไม่ เปิดความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ โหราศาสตร์ ความแตกต่างระหว่างหมอดูและหมอทำ ที่มาของการทำของ
ผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจและตั้งคำถาม กรณีเรื่องการทำคุณไสยขโมยดวง ที่มีการเล่าในเดอะโกส ตอน ทำไมดูเป็นคนดีจังเป็นที่กล่าวถึงการเป็นวงกว้าง จนทำให้ผู้คนต่างสงสัยว่า หมอดูสามารถทำคุณไสยใส่เพื่อขโมยดวงได้จริงหรอ เปิดความหมายและที่มาของไสยศาสตร์และการดูดวง ไขข้องใจคุณไสยขโมยดวงทำได้จริงไหม บทความนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
คุณไสยขโมยดวง คืออะไร
คุณไสย คำคำเรียกของไสยศาสตร์สายดำ ที่ใช้ในการทำเรื่องไม่ดี ตามหลักแล้วความเชื่อเรื่อง “คุณไสยขโมยดวง” นั้นไม่สามารถทำได้ แต่สามารถอนุมานได้ว่ามาจากความเชื่อเรื่องของดวงสมพงษ์ ยกตัวอย่างเช่นนักธุรกิจชาวไทยเชื้อสายจีน เจ้าสัว หรือคนที่ทำธุรกิจใหญ่ ๆ ที่มีลูกน้องบริวารเยอะ เวลาที่จะรับพนักงานจะต้องมีการดูดวงก่อน โดยใช้ศาสตร์ดูใบหน้า (โหงวเฮ้ง) หรือโหราศาสตร์วิเคราะห์ดาวตำแหน่งดาวเด่น เพื่อให้ดวงเสริมกันและสามารถประกอบธุรกิจได้อย่างราบรื่น แต่ถ้าเป็นดาวอริ ก็คือดวงขัดกัน จะทำให้อยู่ร่วมกันแล้วติดขัด ทำงานร่วมกันไม่ได้ จะเจ๊ง
ด้านความเชื่อการผูกดวง ดูดวงสมพงษ์ก่อนแต่งงานของบ่าบ๋า เป็นความเชื่อที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา ซึ่งผู้ใหญ่ของทั้งสองบ้านจะต้องนำวันเดือนปีเกิดของลูกทั้งสองคน มาดูว่าดวงสามารถเข้ากันได้ไหม ถ้าสามารถเข้ากันได้จึงจะแต่ง แต่ถ้าเข้ากันไม่ได้ก็จะไม่ให้แต่ง
ทั้งนี้ หมอดูคนดังกล่าว อาจจะนำความเชื่อนี้ไปใช้ โดยการนำวันเดือนปีเกิดและนำลูกดวงที่มีดวงดีไปอยู่ใกล้ ๆ เพื่อหนุนหรือเสริมดวงของตนเอง ที่เวลาทำอะไรจะได้ทำราบรื่นและสำเร็จตามประสงค์ที่ต้องการ ตนมีลูกค้าเยอะก็ถือเป็นบริวาร
ส่วนที่ว่าดูดวงแล้วจะต้องมีการทำของ หรือแม้แต่มีการทำนายทายทักในทางที่ไม่ดี เพื่อที่จะให้กลับไปดูดวงด้วยอยู่ตลอด นั่นอาจจะเป็นจิตวิทยาของหมอดู ซึ่งเรียกได้ว่าการเลี้ยงไข้ เพื่อที่จะให้ลูกดวงคนนั้นอยู่กับเราไปนาน ๆ ยิ่งถ้าลูกดวงเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงหรืออินฟลูเอ็นเซอร์แล้วก็อาจจะหวังผลในเรื่องของชื่อเสียงก็เป็นได้
ทั้งนี้ตามจรรยาบรรของนักพยากรณ์หรือหมอดู หากดูดวงแล้วไม่ดีหรือมีดาวเสีย ก็จะต้องมีการแนะนำวิธีการแก้ไข ตามหลักของศาสตร์ที่ใช้อยู่แล้ว ไม่ควรให้คำแนะนำตามใจแต่ต้องแนะนำตามดวงของแต่ละคน
ส่วนความเชื่อเรื่องการทำของ เป็นสิ่งที่มีมาแต่โบราณในทุกพื้นที่และทุกอารยธรรม ซึ่งการทำของก็คือการทำพิธีกรรมรูปแบบหนึ่ง โดยใช้คาถาและสิ่งของเป็นสื่อกลาง อาศัยพลังจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ฤกษ์ยาม พลังจากดวงดาว เพื่อให้สิ่งที่ต้องการเป็นไปตามนั้น หากจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดชัดก็คือการทำของเขมรซึ่งเป็นของเดิมที่มีมานานแล้ว
หมอดูและหมอทำ ต่างกันอย่างไร
ในประเด็นแรก หมอดู คือ ผู้ที่ทำหน้าที่ทำนายดวงชะตาตามศาสตร์ของตน อาทิ โหราศาสตร์ วันเดือนปีเกิด ไพ่ เลข 7 ตัว 9 ฐาน และอื่น ๆ ซึ่งการทำนายโหราศาสตร์ก็จะต้องใช้วันเดือนปีเกิดในการทำนายร่วมด้วย เพื่อดูตำแหน่งดาวกำเนิดและดาวจร แต่การทำนายด้วยศาสตร์ไพ่หรือการทำนายใบชานั้นไม่ใช้วันเดือนปีเกิดแต่อย่างใด
หมอทำ คือผู้ใช้ไสยศาสตร์ หมายถึง การประกอบพิธีกรรม ด้วยการใช้บทสวดหรือคาถา และสิ่งของต่าง ๆ ที่เป็นตัวแทนการประกอบพิธี เพื่อให้ได้ผลตามที่ตนเองต้องการ เช่น เงิน สเน่ห์ คนรัก ธุรกิจ และการสาปแช่ง ซึ่งหมอทำจะต้องมีความรู้ทางโหราศาสตร์และฤกษ์ยามด้วย โดยไสยศาสตร์แบ่งออกเป็นสองสาย ได้แก่ ไสยศาสตร์สายขาว ใช้ในการรักษาการเจ็บป่วย การเสริมดวง และไสยศาสตร์สายดำ ใช้ในการทำเสน่ห์ การสาปแช่ง หรือแม้กระทั่งทำให้คนถึงแก่ชีวิต แม้กระทั่งผู้ที่เป็นเจ้าของธุกิจสีดำหรือสีเทา มักใช้ศาสตร์นี้เพื่อหาเงิน กำจัดคู่แข่ง
ทั้งนี้หมอทำกับหมอดูเป็นคคนละส่วนกัน แต่บางคนก็จะรับทั้งดูดวงและประกอบพิธีกรรม แบบครบวงจร แต่บางคนก็จะดูดวงแค่อย่างเดียวไม่ได้รับทำของ
หมอดูถามวันเดือนปีเกิด กลัวโดนทำของใส่ไหม
ศาสตร์การทำนายดวงชะตาต้องต้องใช้วันเดือนปีเกิดและเวลาเกิดประกอบ เช่น การทำนายโหราศาสตร์ไทย เลขเจ็ดตัวเก้าฐาน และโหราศาสตร์ยูเรเนียน (ตะวันตก) เพื่อดูตำแหน่งดาวในการทำนาย โดยตามหลักจรรยาบรรณของหมอดูแล้วข้อมูลของลูกค้าทั้งหมดถือเป็นความลับ ทั้งชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด
ส่วนในเรื่องของการทำของ สิ่งที่มองไม่เห็นก็ใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง ข้อมูลหลักที่จะใช้ในการทำของก็คือข้อมูลส่วนบุคคลนั่นเอง ซึ่งโดยปกติแล้วหมอดูหรือหมอทำ จะไม่ทำของใส่ลูกดวงของตนเอง แต่จะทำใส่ฝ่ายศัตรูหรือคนที่มาวุ่นวายกับเราเท่านั้น เพราะมีความเชื่ออยู่ว่าถ้าเขาไม่ได้ทำอะไรเราก่อน เราทำของใส่เขาแล้วของก็จะย้อนกลับเข้าตัว
อย่างไรก็ตาม หากมีผู้ไม่หวังดีหรือศัตรูของเรา รู้ข้อมูลส่วนตัว วัน เดือน ปี เกิด เขาก็สามารถนำข้อมูลนั้นไปใช้ในการสาปแช่งหรือทำสิ่งไม่ดีใส่เราได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณส่วนบุคคล
หมอดูและหมอทำมักเลี้ยงสัตว์เวลาเคราะห์แทนจริงไหม
คำตอบก็คือ มีทั้งจริงและไม่จริง ในศาสตร์ของการแก้ดวงแก้กรรม มีศาสตร์การทำตุ๊กตาเสียกบาลหรือตุ๊กตารับเคราะห์ ซึ่งจะนำตุ๊กตารูปคนมาเป็นตัวแทนของเจ้าดวงหรือเจ้าชะตา ในการรับเคราะห์กรรม ความป่วยไข้แทน แต่ไม่ได้ใช้สัตว์เลี้ยงในการรับเคราะห์แทน ในกรณีการทำของสะเดาะเคราะห์สายขาว
ส่วนในเรื่องการเลี้ยงสัตว์พิการนั้น เรียกได้ว่าเป็นการทำบุญที่หมอดูแต่ละคนทำแล้วสบายใจ เสริมกับดวงตัวเองมากกว่า อาทิ บางคนทำบุญกับคนไม่ขึ้น แต่ทำกับสัตว์แล้วขึ้น หรือบางคนเหมาะกับการทำบุญโลงศพ ไม่เหมาะกับการทำบุญกับสัตว์หรือการบริจาคอื่น ๆ เป็นต้น
จริง ๆ แล้ว “คุณไสยขโมยดวง” ไม่ใช่การขโมยดวงวิญญาณ หรือดวงชะตาของใครมาเป็นของตัวเอง แต่เป็นการใช้ “คุณไสย” หรือไสยศาสตร์สายดำ เพื่อหวังผลประโยชน์จากผู้อื่น โดยอาศัยความเชื่อเรื่องดวงสมพงษ์มาเป็นเครื่องมือ เช่น การเลือกคนที่มีดวงดีมาอยู่ใกล้ชิด เพื่อเสริมดวงให้ตัวเอง หรือการทำนายทายทักในทางร้าย เพื่อให้ลูกดวงกลับมาดูดวงซ้ำ ๆ
สำหรับผู้ที่ต้องการรู้เรื่องราว คุณไสยขโมยดวง ว่ามีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร เกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะอะไร และน่ากลัวขนาดไหน สามารถฟังได้ที่เดอะโกสต์เรดิโอ ตอน ทำไมดูเป็นคนดีจัง
อ้างอิง: ตำราพรหมชาติ, แนวคิดและการจัดประเภทของไสยศาสตร์, ไสยศาสตร์เขมรเบื้องต้น ศึกษาเพื่อทำความเข้าใจ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง