รวม 14 จังหวัด น้ำท่วมหนัก เดือดร้อนกว่า 2 หมื่นครัวเรือน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วม วันที่ 3 ต.ค. 67 มวลน้ำยังคงท่วมในพื้นที่ 14 จังหวัด กินพื้นที่หลายภาคทั่วไทย เร่งช่วยเหลือประชาชนเดือดร้อนกว่า 28,000 ครัวเรือน
วันนี้ (3 ตุลาคม 2567) เวลาประมาณ 11.00 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM หรือ ปภ. รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 14 จังหวัดของประเทศไทย เผย บัดนี้มวลน้ำทะลักกินพื้นที่ รวม 43 อำเภอ 224 ตำบล 1,226 หมู่บ้าน โดยมี ประชาชนได้รับผลกระทบแล้วมากถึง 28,832 ครัวเรือน
ด้วยเหตุนี้จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย ระบายน้ำออกจากพื้นที่ พร้อมดูแลให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงเร่งฟื้นฟูพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายให้กลับคืนสู่สภาพปกติอย่างต่อเนื่องและเต็มกำลัง
สำหรับรายชื่อพื้นที่ใน 14 จังหวัด ที่กำลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม มีดังนี้
ภาคเหนือ
รวม 7 จังหวัด 18 อำเภอ 71 ตำบล 351 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,674 ครัวเรือน
1. เชียงราย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่สาย อ.เมืองฯ และ อ.แม่ลาว รวม 6 ตำบล 28 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง
2. พะเยา เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอแม่เจ รวม 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง
3. แม่ฮ่องสอน เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอ เมืองแม่ฮ่องสอน รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง
4. ลำพูน เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองลำพูน รวม 14 ตำบล 117 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,868 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
5. ตาก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.สามเงา และ อ.บ้านตาก รวม 7 ตำบล 47 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,172 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
6. พิษณุโลก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.พรหมพิราม อ.บางระกำ อ.เมืองฯ อ.บางกระทุ่ม อ.วังทอง อ.นครไทย และ อ.วัดโบสถ์ รวม 26 ตำบล 103 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,694 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
7. สุโขทัย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง และ อ.เมืองฯ รวม 15 ตำบล 51 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,940 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
รวม 5 จังหวัด 16 อำเภอ 62 ตำบล 377 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,264 ครัวเรือน
1. เลย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.วังสะพุง และ อ.ภูเรือ รวม 2 ตำบล 5 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 31 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
2. อุดรธานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ อ.สร้างคอม อ. วังสามหมอ อ.กุดจับ อ.พิบูลย์รักษ์ และ อ.บ้านดุง รวม 20 ตำบล 141 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,068 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
3. ชัยภูมิ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.คอนสวรรค์ และ อ.จัตุรัส รวม 12 ตำบล 45 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 71 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
4. มหาสารคาม เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ อ.กันทรวิชัย อ.โกสุมพิสัย และ อ.เชียงยืน รวม 26 ตำบล 181 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 57 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
5. อุบลราชธานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองฯ และ อ.สว่างวีระวงศ์ รวม 2 ตำบล 5 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 37 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
ภาคกลาง
9 อำเภอ 91 ตำบล 498 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 17,894 ครัวเรือน
1. อ่างทอง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.วิเศษชัยชาญ และ อ.ไชโย รวม 3 ตำบล 12 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 245 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
2. พระนครศรีอยุธยา เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.บางบาล อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน อ.บางไทร และ อ. บางปะหัน รวม 88 ตำบล 486 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 17,649 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัย อาทิ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว รถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่างขนาด 200 KVA รถบรรทุกเล็ก รถลากเรือเคลื่อนที่เร็ว เรือท้องแบน อุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ เข้าให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์ภัย
รวมถึงนำรถขุดตักไฮดรอลิคยกสูง รถตักล้อยางเอนกประสงค์ รถขุดล้อยางกู้ภัยปรับฐานล้อ รถตีนตะขาบ รถบรรทุกเทท้าย รถขุดตักไฮดรอลิคแขนยาว เร่งขุดตักขนย้ายดินโคลน เศษวัสดุ สิ่งปรักหักพัง พร้อมทั้งปรับเกลี่ยถนน เส้นทางสัญจร ฟื้นฟูถนนหนทาง อาคารบ้านเรือนในพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม – 3 ตุลาคม 2567 สถานการณ์น้ำท่วมเกิดขึ้นรวมแล้ว 37 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี หนองคาย นครพนม ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุบลราชธานี ปราจีนบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ระยอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ยะลา นครศรีธรรมราช พังงา ตรัง และ สตูล
รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 226 อำเภอ 984 ตำบล 5,318 หมู่บ้าน ซึ่งส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นจำนวน 193,307 ครัวเรือน จากภาวะอุทกภัยครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 49 ราย และได้รับบาดเจ็บรวม 28 คน
อย่างไรก็ดี กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รายงานเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง และปักหลักช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลังจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยประชาชนสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์ ข่าวสารสาธารณภัย ได้ทาง Facebook : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ติดตามการประกาศแจ้งเตือนภัยได้ทางแอปพลิเคชัน “Thai Disaster Alert” ทั้งระบบ IOS และ Android
หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง