วันที่ 10 ตุลาคม 3 กลุ่มเปราะบาง เตรียมรับเงินอุดหนุนบุตร เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยผู้พิการ แนะนำวิธีเช็กสิทธิผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมจำนวนเงินที่ได้รับ ตามรายละเอียด ดังนี้
กระทรวงการคลัง ดำเนินการโอนเงินอุดหนุนให้กับกลุ่มเปราะบาง ประจำเดือนตุลาคม 67 จำนวน 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ปกครองที่มีบุตรแรกเกิดถึงอายุ 6 ปี ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2567 มีเงื่อนไข ช่องทางการรับเงิน และขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิและสถานะ ดังต่อไปนี้
เบี้ยผู้สูงอายุ
สำหรับผู้สูงอายุในโครงการเงินยังชีพผู้สูงอายุ ได้รับเงินโอนเข้าบัญชีในวันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2567 ซึ่งรัฐบาลช่วยเหลือผู้สูงอายุ โดยจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจำนวนเงิน 600 – 1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ ดังนี้ อายุ 60 – 69 ปี ได้รับ 600 บาท/เดือน, อายุ 70 – 79 ปี ได้รับ 700 บาท/เดือน อายุ 80 – 89 ปี ได้รับ 800 บาท/เดือน และ อายุ 90 ปี ขึ้นไป ได้รับ 1,000 บาท/เดือน
เงื่อนไขผู้มีสิทธิลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
1. บุคคลที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 กล่าวคือ เป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2508 สำหรับผู้ที่ทราบแค่ปีเกิดเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ทราบวันเกิดและเดือนเกิด จะถือว่าท่านเกิดวันที่ 1 มกราคม ของปีเกิด
2. เป็นผู้มีสัญชาติไทย
3. ภูมิลำเนาอยู่ในเขต สำนักงานเทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตามทะเบียนบ้าน
4. ไม่เคยลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เว้นในกรณีเพิ่งย้ายภูมิลำเนามาใหม่ สามารถมาลงทะเบียนใหม่ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตามทะเบียนบ้านใหม่ได้ เช่น หากลงทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ย้ายทะเบียนมาอยู่จังหวัดชลบุรี สามารถลงทะเบียนใหม่ที่จังหวัดชลบุรีได้
5. ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือ อปท. เช่น เงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ เป็นต้น
ปฏิทินการโอนเงินอุดหนุน ผู้สูงอายุ ปี 2567
- วันพุธที่ 10 มกราคม 2567
- วันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567
- วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม 2567
- วันพุธที่ 10 เมษายน 2567
- วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม 2567
- วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2567
- วันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2567
- วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 2567
- วันอังคารที่ 10 กันยายน 2567
- วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2567
- วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2567
- วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2567
เบี้ยผู้พิการ
ส่วนผู้พิการในโครงการฯ จะได้รับเงินเข้าบัญชีในวันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2567 โดยผู้ที่ได้รับเงินต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ เป็นบุคคลสัญชาติไทย, มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามทะเบียนบ้าน, มีบัตรประจำตัวคนพิการ, ไม่เป็นบุคคลที่อยู่ในความอุปการะของสถานสงเคราะห์ของรัฐ และมีหลักฐานขอรับเงินเบี้ยความพิการ
สำหรับผู้พิการที่ยังไม่มีบัตรประจำตัวผู้พิการ แล้วต้องการยื่นขอรับเบี้ยความพิการ จะต้องเตรียมเอกสารสมัคร ดังนี้
1. บัตรประจำตัวคนพิการ (ตัวจริง)
2. ทะเบียนบ้าน (ตัวจริง)
3. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร สำหรับกรณีที่ผู้ขอรับเงินเบี้ยความพิการประสงค์ขอรับเงินเบี้ยความพิการผ่านธนาคาร ในการยื่นคำขอลงทะเบียนรับเงินเบี้ยความพิการ คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการจะต้องแสดงความประสงค์ขอรับเงินเบี้ยความพิการโดยรับเงินสดด้วยตนเอง หรือโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารในนามคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการ ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้พิทักษ์ ผู้อนุบาล แล้วแต่กรณี
หลังเตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้ว สามารถยื่นคำร้องได้ที่ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์งานเวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลศิริราช, ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติ มหาราชินี, โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ส่วนสถานที่ยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวคนพิการต่างจังหวัด ได้แก่ โรงพยาบาลประจำจังหวัด หรืออำเภอ ที่มีศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จในโรงพยาบาล, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานของรัฐอื่นตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศกำหนด
ปฏิทินการโอนเงินอุดหนุน ผู้พิการ ปี 2567
- วันพุธที่ 10 มกราคม 2566
- วันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567
- วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม 2567
- วันพุธที่ 10 เมษายน 2567
- วันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม 2567
- วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2567
- วันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2567
- วันอังคารที่ 10 กันยายน 2567
- วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2567
- วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2567
- วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2567
เงินอุดหนุนบุตร
สำหรับผู้ปกครองที่จะได้รับเงินอุดหนุนบุตร เพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ประจำเดือนตุลาคม จะได้รับเงินในวันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2567 ในกรณีที่มีบุตรเป็นเด็กแรกเกิด ถึง เด็กอายุ 6 ขวบ จึงจะได้รับเงินโอน คนละ 600 บาทต่อเดือน
ส่วนคุณสมบัติผู้ปกครองที่มีสิทธิรับเงินอุดหนุนบุตร ต้องเป็นบิดา มารดา หรือ บุคคลอื่นซึ่งเป็นผู้เลี้ยงดูเด็กแรก รวมทั้งต้องอาศัยอยู่กับเด็กคนดังกล่าว ทั้งนี้ผู้ปกครองที่อาศัยอยู่ในครัวเรือนต้องมีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี และไม่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของหน่วยงานรัฐหรือเอกชน สำหรับขั้นตอนการรับเงินนั้นผู้ปกครองต้องดำเนินการผูกบริการพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก
ทั้งนี้ สำหรับผู้ปกครองที่ต้องการรับสิทธิในโครงการ สามารถลงทะเบียนเพื่อรับเงินอุดหนุนบุตรได้ โดยต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้
1. แบบคำร้องขอลงทะเบียน (ดร.01)
2. แบบรับรองสถานะของครัวเรือน (ดร.02)
3. สูติบัตรเด็กแรกเกิด
4. บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ปกครอง
5. ใบรับรองเงินเดือน หรือหนังสือรับรองรายได้ ของสมาชิกในครัวเรือนทุกคนที่ประกอบอาชีพ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือ พนักงานบริษัท
6. สำเนาเอกสาร หรือบัตรข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ บัตรแสดงสถานะหรือตำแหน่ง หรือเอกสารอื่นใด ที่แสดงตนของผู้รับรองคนที่ 1 และผู้รับรองคนที่ 2
หลังจากเตรียมเอกสารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต้องนำเอกสารไปลงทะเบียนตามพิกัดรับสมัคร พื้นที่กรุงเทพมหานคร ลงทะเบียนได้ที่สำนักงานเขต ส่วนเมืองพัทยา ลงทะเบียนได้ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา และส่วนภูมิภาค ลงทะเบียนได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาล
จากนั้นเมื่อผู้ปกครองลงทะเบียนยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้วต้องพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชั่น ThaiD ของกรมการปกครองก่อนรับเงินผ่านแอปพลิเคชั่น “เงินเด็ก” อย่างไรก็ตาม หากผู้ปกครองทำการตรวจสอบสิทธิเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะได้รับเงินอุดหนุนจำนวน 600 บาท ตั้งแต่เดือนที่ลงทะเบียน
ปฏิทินการโอน เงินอุดหนุนบุตร ปี 2567
- วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2567
- วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2567
- วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2567
- วันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2568
- วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568
- วันจันทร์ที่ 10 มีนาคม 2568
- วันพฤหัสบดีที่ 10 เมษายน 2568
- วันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม 2568
- วันอังคารที่ 10 มิถุนายน 2568
- วันพุธที่ 9 กรกฎาคม 2568
- วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม 2568
- วันพุธที่ 10 กันยายน 2568
ทั้งนี้ ประชาชนที่ต้องการตรวจสิทธิและติดตามสถานะว่าท่านได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลหรือไม่ ผ่าน 3 ช่องทางออนไลน์ ดังนี้
1. เว็บไซต์กรมกิจการเด็กและเยาวชน
2. แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” สามารถดาวน์โหลดแอปฯ ได้ที่ AppStore และ PlayStore
3. แอปพลิเคชัน “เงินเด็ก” สามารถดาวน์โหลดแอปฯ ได้ที่ AppStore และ PlayStore
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง