อังกฤษ ปิดโรงงานไฟฟ้าถ่านหินยุคสุดท้าย ปิดฉากการใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิลตลอด 142 ปี และเป็นชาติแรกในกลุ่มเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่แห่งแรกที่ทำแบบนั้น
รายงานจากสื่อดังอย่าง BBC ระบุว่า สหราชอาณาจักรกำลังจะหยุดผลิตไฟฟ้าจากการเผาถ่านหิน และถือเป็นการยุติการพึ่งพาเชื้อเพลงจากฟอสซิลมาเป็นเวลา 142 ปี โดยโรงไฟฟ้าพลังถ่านหินแห่งสุดท้ายมีชื่อว่า แรตคลิฟฟ์-ออน-ซอร์ (Ratcliffe-on-Soar) ซึ่งจะปิดตัวในวันนี้ (1 ตุลาคม) หลังดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี 1967
นับว่าเป็นก้าวสำคัญในความทะเยอทะยานของสหราชอาณาจักรที่จะลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ เพราะว่าถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงจากฟอสซิลที่ถือว่าสกปรกที่สุด และปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สุด
สหราชอาณาจักรถือว่าเป็นประเทศต้นกำเนิดของพลังงานถ่านหิน และพวกเขาจะเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่แห่งแรกที่จะเลิกใช้พลังงานถ่านหิน
โรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งแรงของโลกถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1882 ในชื่อ โรงไฟฟ้าโฮลบอร์นเวียดักต์ ในกรุงลอนดอน สร้างโดย โธมัส อัลวา เอดินสัน นับแต่นั้นเป็นต้นมา พลังงานถ่านหินกลายเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าหลักเกือบทั้งหมดของสหราชอาณาจักร โดยผลิตพลังงานให้กับทั้งภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ
ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 สหราชอาณาจักร เริ่มถูกบีบให้เลิกใช้งานถ่านหินผลิตไฟฟ้า แต่พลังงานดังกล่าวก็ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของโครงข่ายไฟฟ้าในสหราชอาณาจักร โดยในปี 2012 ไฟฟ้าของสหราชอาณาจักรมาจากถ่านหินอยู่ที่ 39 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ่้วยข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้ทั่วโลกมีความจำเป็นต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ส่งผลให้ถ่านหินกลายเป็นเป้าหมายหลักที่จะถูกยุติการใช้งาน
สหราชอาณาจักรกำหนดเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศที่มีผลผูกพันทางกฎหมายเป็นครั้งแรกในปี 2008 ก่อนที่อีก 7 ปีต่อมา แอมเบอร์ รัดด์ ผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ณ ตอนนั้น ได้แจ้งกับชาวโลกได้ทราบว่าพวกเขาจะยุติการใช้พลังงานถ่านหินภายในปี 2030
ลอร์ดเดเบน ได้กล่าวว่า ความสำเร็จในครั้งนี้ของสหราชอาณาจักรแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำและสร้างมาตรฐานให้กับประเทศอื่นๆ ทำตาม พร้อมกับบอกว่ามันสร้างความแตกต่าง เพราะผู้คนต้องการใครสักคนที่จะชี้นำและพูดว่า พวกเขาทำได้แล้ว ทำไมเราถึงจะทำไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขสัดส่วนพลังงานสะอาดหรือพลังงานหมุนเวียน ปี 2010 สามารถนำมาผลิตไฟฟ้าได้เพียงแค่ 7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเมื่อเทียบกับพลังงานทั้งหมดของสหราชอาณาจักร แต่ตัวเลขนี้เคยขยับขึ้นมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นสถิติใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024
และนั่นถือเป็นการเติบโตที่รวดเร็ดของพลังงานสะอาด ที่ทำให้สหราชอาณาจักรสามารถปิดฉากการใช้พลังงานถ่านหินได้อย่างเบ็ดเสร็จในช่วงเวลาเพียงไม่นาน
อ้างอิง : BBC
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เร่งตามตัว คู่รักมาเลหายตัวปริศนา หลังมาไทย ญาติหวั่นคดีไม่คืบ
- คุก 3 ปี อดีต ผกก.ตำรวจ ประมาทเลินเล่อ คดีโศกนาฎกรรมอิแทวอน เกาหลีใต้
- นศ.เวียดนาม รีวิวชีวิตในฮ่องกง ค่าเช่า “บ้านโลงศพ” ราคาสูงมาก
