ข่าวต่างประเทศ

พายุไต้ฝุ่นกระท้อน จ่อถล่มชายฝั่งตะวันตก ไต้หวันอ่วมอีก

พายุไต้ฝุ่นกระท้อน จ่อถล่มชายฝั่งตะวันตกของไต้หวัน วันพุธนี้ เตือนประชาชนเตรียมรับมือ ความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางมากกว่า 220 กม./ชม.

วันนี้ 30 กันยายน 2567 ไต้หวันออกคำเตือนภัย พายุไต้ฝุ่นกระท้อนจะพัดขึ้นฝั่ง คาดว่าจะทวีความรุนแรงขึ้นและพัดถล่มชายฝั่งตะวันตกที่มีประชากรหนาแน่นของเกาะ พร้อมกับฝนตกหนักและลมแรง

Advertisements

ไต้หวันมักถูกพายุไต้ฝุ่นพัดถล่มเป็นประจำ แต่ส่วนใหญ่จะขึ้นฝั่งทางชายฝั่งตะวันออกที่เป็นภูเขาและมีประชากรเบาบาง ซึ่งหันหน้าไปทางมหาสมุทรแปซิฟิก

ตามรายงานจากกรมอุตุนิยมวิทยากลาง (CWA) ของไต้หวัน พายุไต้ฝุ่นกระท้อนซึ่งถูกจัดให้อยู่ในระดับพายุไต้ฝุ่นขนาดกลาง คาดว่าจะพัดเข้าถล่มเมืองท่าสำคัญ เกาสง ในช่วงเช้าวันพุธนี้ ก่อนที่จะพัดข้ามปลายสุดทางใต้ของไต้หวันและมุ่งหน้าออกสู่มหาสมุทรแปซิฟิก

พายุดังกล่าวคาดว่าจะทวีความรุนแรงขึ้นจนเทียบเท่าพายุเฮอริเคนระดับ 4 โดยมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางมากกว่า 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

“ผลกระทบของพายุนี้จะยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ” จีน หวง นักพยากรณ์ของ CWA กล่าว พร้อมเตือนถึงภัยคุกคามต่อพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวัน โดยระบุว่า เป็นเหตุการณ์ที่ “หาได้ยาก” ที่พายุไต้ฝุ่นรุนแรงเช่นนี้จะพัดถล่มพื้นที่ราบทางตะวันตกของเกาะโดยตรง

หวงเตือนประชาชนในพื้นที่ให้เตรียมพร้อมรับมือกับลมแรงที่มีความเร็วเกินกว่า 150 กม./ชม.

Advertisements

ทางการไต้หวันระบุว่า มีเรือยางมากกว่า 1,000 ลำ และทหารกว่า 2,200 นาย ถูกเตรียมพร้อมทั่วไต้หวัน รวมถึงฝั่งตะวันออก ซึ่งคาดว่าจะมีฝนตกมากถึง 1.3 เมตรในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

เรือที่เดินทางไปยังเกาะรอบนอกของไต้หวันถูกยกเลิกแล้ว และบางเที่ยวบินภายในประเทศก็ได้รับผลกระทบ

ย้อนกลับไปในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พายุไต้ฝุ่นกาเอมิได้คร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 11 คนในไต้หวัน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button