โอนเงิน 1 หมื่นวันที่ 3 คึกคัก แต่ยังมีคนโอนไม่สำเร็จรวม 2 วันเกือบ 2 แสนคน แนะนำวิธีแก้ไขเงินหมื่นไม่เข้าบัญชี เช็กกำหนดการโอนซ้ำอีกทีเมื่อไหร่
แม้ภาพรวม การจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการจะคึกคักตลอด 3 วัน ตั้งแต่วันพุธที่ 25 ถึงวันศุกร์ที่ 27 กันยายน 2567 มีประชาชนจำนวนมากมารอรับเงินตั้งแต่เช้าตรู่ นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและชำระหนี้สิน
อย่างไรก็ตาม ยังมีอุปสรรคสำคัญคือ ยอดผู้โอนเงินไม่ผ่าน สะสมรวม 2 วันพุ่งสูงถึง 190,445 คน โดยเฉพาะวันที่ 26 ก.ย. ที่ผ่านมาสำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนลงท้ายด้วยเลข 1 – 3 จำนวน 4.51 ล้านคน มีผู้โอนเงินไม่สำเร็จสูงถึง 141,062 คน
สาเหตุหลักของปัญหาคือ บัญชีธนาคารมีปัญหา เช่น ถูกปิด, เลขบัญชีไม่ถูกต้อง หรือในกรณีของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อาจยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์ หรือบัญชีไม่มีความเคลื่อนไหว นอกจากนี้ ยังมีกรณีผู้สูงอายุถูกมิจฉาชีพหลอกเอาเงินที่กดจากตู้ ATM ไป ซึ่งทางธนาคารกำลังเร่งตรวจสอบ
วิธีแก้ไขเงินหมื่นไม่เข้าบัญชี-โอนอีกครั้งเมื่อไหร่
กระทรวงการคลังได้ออกมาแจ้งเตือนและขอความร่วมมือให้ผู้มีสิทธิที่ยังไม่ได้รับเงิน ให้เร่งดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์ หรือ แก้ไขข้อมูลบัญชีธนาคารให้ถูกต้องด้วยการติดต่อธนาคารให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 18 ต.ค.นี้ เพื่อจะได้รอรัฐจ่ายซ้ำอีกครั้งภายใน วันที่ 22 ต.ค. 67 ตามกำหนดการเดิม
ย้ำเตือนอีกครั้งสำหรับคนพิการที่มีปัญหาเรื่องบัตรประจำตัวคนพิการ ควรรีบดำเนินการต่ออายุหรือแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องภายในวันที่ 10 ต.ค. เพื่อจะได้รับเงินภายในวันที่ 22 ต.ค. เช่นกัน
ประชาชนที่มีปัญหาเงินดิจิทัลโอนเข้าบัญชีไม่ได้ สามารถตรวจสอบสิทธิ และผลการโอนเงินได้ผ่านทางเว็บไซต์ https://โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ2567.cgd.go.th
นอกจากนี้ยังสามารถสอบถามข้อมูลผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ โทรศัพท์หมายเลข 0 2109 2345 กด 1 กด 5 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
กรณีข้อมูลสำหรับผู้พิการ ให้ติดต่อที่ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ในขณะเดียวกัน ทางภาครัฐก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาการทวงหนี้หน้าตู้ ATM โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลและป้องกันการข่มขู่ทวงหนี้อย่างใกล้ชิด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง