โรคปอดติดเชื้อระบาดชัยภูมิ ตรวจแล้วไม่ใช่โรคใหม่ ขอ ปชช. อย่าแตกตื่น
ผอ. สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 ตอบปม โรคปอดติดเชื้อระบาดชัยภูมิ ตรวจแล้วไม่ใช่โรคใหม่ หลังมีรายงานว่าเจอผู้ป่วยในเรือนจำ 200 ราย
นพ.ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา ชี้แจงกระแสข่าว โรคปอดติดเชื้อระบาด ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ โดยโพสต์เฟซบุ๊กดังกล่าวระบุว่า “เกิดโรคระบาดปอดติดเชื้อไม่ทราบสาเหตุในเรือนจำ ความท้าทายทั้งของทีมภูเขียว โรคระบาดในเรือนจำภูเขียวครับ แจ้งไว้แต่เมื่อวาน ปอดติดเชื้อ บางท่านอาจจะยังไม่ทราบไม่ตามดู ไม่มีเจตนาให้แตกตื่นแต่อย่างใด แต่ต้องร่วมมือกับทีม รพ.ครับ ในการควบคุมโรค คนไข้เพิ่มขึ้นเร็วมากจากเรือนจำ 2 วัน รวมถึงตอนนี้ 19 ราย (หนักรุนแรงใส่ท่อ 3 ที่เหลือต้องดมออกซิเจนตลอดเวลา)
รบกวนญาติคนไข้ตึกอายุรกรรมชาย งดเยี่ยม หรือนำเด็กมา รพ.เพราะถ้าเกิดกระจายไปชุมชนเป็นเรื่องใหญ่ทันทีครับ งดเยี่ยมญาติผู้ป่วยที่ตึกอายุรกรรมชาย รพ.ภูเขียว เพราะตอนนี้เรากำลังเผชิญกับโรคระบาดปอดติดเชื้อไม่ทราบสาเหตุนะครับ ติดต่อง่ายมากครับ ติดง่ายกว่าโควิด เป็นคนไข้จากเรือนจำ แต่เรากลัวระบาดสู่ชุมชน ของดเยี่ยมนะครับ”
นพ.ทวีชัย กล่าวว่า ทางสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา จึงส่งทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ กองโรคติดต่อทั่วไป และกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค
ซึ่งรายงานข้อมูลผลการตรวจสอบ พบว่า เชื้อแบคทีเรียที่ระบาดในเรือนจำดังกล่าว เป็นเชื้อแบคทีเรีย Streptococcal pneumoniae และ เชื้อแบคทีเรีย Hemophilus influenzae ที่ทำให้เกิดอาการปอดอักเสบ ที่พบบ่อยตามสภาพแวดล้อม
ซึ่งเชื้อดังกล่าวไม่ใช่เชื้อใหม่ ติดต่อกันได้จากละอองฝอยขนาดเล็ก ผ่านการไอ จาม โดยเฉพาะบริเวณที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก เช่น ห้องเรียน โรงภาพยนตร์ สถานรับเลี้ยงเด็ก ศูนย์อพยพ โรงแรม หอพัก กองทหาร เรือนจำ เป็นต้น ส่วนใหญ่มักเกิดในผู้มีโรคประจำตัว ผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง และผู้ที่อยู่ในสถานที่แออัด
จากผลการสอบสวนเหตุการณ์ระบาดโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจในเรือนจำจังหวัดชัยภูมิ วันที่ 24 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยมีอาการติดเชื้อทางเดินหายใจสะสม จำนวน 224 ราย , มีอาการปอดอักเสบจำนวน 21 ราย ในจำนวนนี้มีอาการรุนแรง 4 ราย ซึ่งทุกรายได้รับการรักษาในโรงพยาบาลตามแนวทางที่เหมาะสม และยังไม่มีผู้เสียชีวิต
โดยผู้ป่วยทุกรายมีอาการดีขึ้นตามลำดับ สำหรับผู้ป่วย 203 รายที่มีอาการติดเชื้อทางเดินหายใจเพียงเล็กน้อย ได้รับการเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
ดังนั้น ขอให้ประชาชนได้มีความตระหนัก แต่อย่าตระหนก ให้รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลโดยหลีกเลี่ยงสถานที่แออัดที่มีผู้คนรวมตัวเป็นจำนวนมาก เช่น การเดินทางสาธารณะ โรงพยาบาล และสถานที่ดูแลผู้สูงอายุ
หากเลี่ยงไม่ได้ควรสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ และหากป่วยไม่ควรเข้าใกล้ผู้สูงอายุ เพราะเป็นกลุ่มเปราะบาง อาจติดเชื้อและมีอาการหนักได้ หากมีข้อสงสัย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง