เกินไปไหม เจ้าหนี้ยืนหน้าตู้ ATM รอยึดเงิน 10000 อนุทิน ยังรับไม่ได้

Aindravudhเผยแพร่: 26 ก.ย. 2567 12:00 น.| อัปเดต: 26 ก.ย. 2567 12:00 น.

314

ชาวบ้านร้อง กดมายังไม่ทันได้ใช้ เงินดิจิทัล 10,000 บาท ถูกเจ้าหนี้ยืนคุมหน้าตู้เอาเงิน อนุทิน จี้ ต้องดำเนินการคนคุกคาม

วันนี้ (26 ก.ย. 2567) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงประเด็นที่มีเจ้าหนี้ยืนประกบลูกหนี้หน้าตู้เอทีเอ็มเพื่อกดดันเอาเงินจากโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ว่า “เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบแล้ว หากมีการข่มขู่หรือคุกคามเกิดขึ้น ประชาชนสามารถแจ้งตำรวจได้ทันที ซึ่งรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน ได้กำหนดนโยบายให้ดำเนินการอย่างเข้มงวด”

Advertisements

นายอนุทินกล่าวเพิ่มเติมว่า “ถ้ามีเจ้าหนี้มายืนข่มขู่ลูกหนี้หน้าตู้เอทีเอ็มแบบนั้น ตำรวจต้องดำเนินการทันที ไม่สามารถให้เกิดการคุกคามเช่นนั้นได้ โดยเฉพาะถ้ามีการบังคับหรือข่มขู่ถึงขั้นเอาลูกหนี้ออกจากบ้านแล้วตำรวจเห็น ก็ต้องจับกุมทันที เพราะไม่สามารถปล่อยให้เจ้าหนี้ทำแบบนี้ได้”

เมื่อถูกถามว่าลูกหนี้บางรายมักกลัวนายอนุทินชี้แจงว่า “การเป็นหนี้นั้นต้องใช้ แต่ถ้าเจ้าหนี้มาเอาเกินความเป็นจริง เช่น ติดหนี้เพียง 2 พันบาทแต่จะมาเอา 1 หมื่นบาท แบบนี้ถือว่าผิดกฎหมายและเข้าข่ายเป็นการโจรกรรม นั่นทำไม่ได้ แต่ถ้าลูกหนี้ได้เงินมาและนำไปชำระหนี้บางส่วน อย่างนี้ถือว่าทำได้ และไม่ได้เป็นการคุกคามในทุกกรณี ต้องดูบริบทด้วย”

เกี่ยวกับข้อกังวลว่าเงินจากโครงการเงินหมื่นอาจไม่กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแท้จริง นายอนุทินได้อธิบายว่า “เงินมันหมุน ยังไงก็เกิดการหมุนเวียน แม้จะนำไปใช้หนี้ ก็ยังถือเป็นการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ การหมุนเงินคือการกระตุ้นเศรษฐกิจเหมือนกัน ขอให้เกิดการใช้จ่าย มันก็เป็นการหมุนเวียนเงินในระบบอยู่ดี”

เมื่อถามถึงกรณีที่มีรายงานว่าบางคนนำเงินไปฉลอง นายอนุทินตอบพร้อมยิ้มว่า “ไม่ให้ได้ไหมล่ะ คนไทยเราฉลองทุกอย่างอยู่แล้ว”

ทั้งนี้ การแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท โครงการดิจิทัลวอลเล็ต สำหรับกลุ่มเปราะบางนั้น จะโอนเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน และกลุ่มเปราะบาง รวมจำนวน 14.5 ล้านคน โดยจะเริ่มโอนเงินเข้าสู่ระบบพร้อมเพย์ที่เชื่อมกับบัตรประชาชนตั้งแต่วันที่ 25-30 ก.ย. ตามหมายเลขบัตรประชาชน