จับตา 57 จังหวัด เจอฝนซัดหนัก เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน กทม.ไม่รอด
กรมอุตุฯ ออกประกาศฉบับที่ 5 เตือนภัย ประเทศไทยเจอร่องมรสุมแรง 57 จังหวัด 5 ภูมิภาค เจอฝนตกหนัก เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน 23 ก.ย. 67
กรมอุตุนิยมวิทยา เผยแพร่ประกาศเรื่อง “ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแนงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน” ฉบับที่ 5 ว่าด้วย วันที่ 23 กันยายน 2567 ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้มีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรง พาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุม ทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ซึ่งมีจังหวัดที่คาดว่าฝนจะตกหนักมากตามดังนี้
ภาคเหนือ 15 จังหวัด
- แม่ฮ่องสอน
- เชียงใหม่
- เชียงราย
- ลำพูน
- ลำปาง
- พะเยา
- น่าน
- แพร่
- อุตรดิตถ์
- ตาก
- สุโขทัย
- กำแพงเพชร
- พิจิตร
- พิษณุโลก
- เพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด
- เลย หนองคาย
- บึงกาฬ
- หนองบัวลำภู
- อุดรธานี
- สกลนคร
- นครพนม
- ชัยภูมิ
- ขอนแก่น
- กาฬสินธุ์
- มุกดาหาร
- มหาสารคาม
- ร้อยเอ็ด
- ยโสธร
- อำนาจเจริญ
- นครราชสีมา
- บุรีรัมย์
- สุรินทร์
- ศรีสะเกษ
- อุบลราชธานี
ภาคกลาง 12 จังหวัด
- นครสวรรค์
- อุทัยธานี
- ชัยนาท
- ลพบุรี
- สระบุรี
- พระนครศรีอยุธยา
- สุพรรณบุรี
- กาญจนบุรี
- ราชบุรี
- นครปฐม
- สมุทรสาคร
- สมุทรสงคราม
- กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก 8 จังหวัด
- นครนายก
- ปราจีนบุรี
- ฉะเชิงเทรา
- สระแก้ว
- ชลบุรี
- ระยอง
- จันทบุรี
- ตราด
ภาคใต้ 2 จังหวัด
- ระนอง
- พังงา
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยกำลังค่อนข้างแรงเริ่มมีกำลังอ่อนลง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง