จวกยับ สองนักเรียนพิเรนทร์ เอาหินไปวางรางรถไฟ หวั่นเกิดอันตรายต่อคนเอง-ผู้อื่น
แอคดังแฉคลิป สองนักเรียนชายเล่นพิเรนทร์ ฝ่าไม้กั้น เอาก้อนหินไปวางรางรถไฟ โซเชียลวิจารณ์เดือด หวั่นสร้างความเดือดร้อนผู้อื่น-เกิดอุบัติเหตุ
ทำเอาแพลตฟอร์ม X แทบลุกเป็นไฟ เมื่อแอคเคาท์ดังที่มีผู้ติดตามกว่า 1 แสนคน @Mr_Whathapened ออกมาโพสต์คลิปภาพวงจรปิดบริเวณวัดไทร ซอยเอกชัย 23 ที่เผยให้เห็นวินาทีที่สองนักเรียนชายสวมชุดลูกเสือ ฝ่าไม้กั้นทางรถไฟ ก่อนจะเข้าไปหยิบก้อนหินจากพื้นขึ้นมาวางทับบนรางรถไฟ พร้อมกับวิ่งหลบรถไฟที่กำลังมา
เมื่อรถไฟวิ่งผ่านไปแล้ว สองนักเรียน และกลุ่มเพื่อนอีกจำนวนหนึ่งจึงวิ่งกลับมาดูก้อนหินที่วางไว้อีกครั้ง และเดินออกไปจากบริเวณที่กล้องวงจรปิดเก็บภาพไว้ได้
แอคดังกล่าวได้ระบุข้อความไว้ในโพสต์ด้วยว่า “จุดทางตัดเครื่องกั้นตรงนี้ค้างบ่อย ๆ เป็นเวลาหลายปีแล้ว เด็กนักเรียนไม่มีอะไรจะเล่น เอาก้อนหินไปวางรางรถไฟ อันตรายมาก ๆ [วัดไทร ซ.เอกชัย23 กทม.] #เด็กทะลุถุง #เด็กนรก”
หลังเผยแพร่โพสต์ออกไปได้ไม่นาน วีดีโอดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตอย่างล้นหลาม โดยส่วนใหญ่ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงติติงการกระทำของนักเรียนกลุ่มนี้ เหตุเพราะเป็นพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง ทั้งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ตนเองเพราะในคลิปจะเห็นได้ว่ามีการฝ่าไม้กั้นเข้าไปใกล้ทางรถไฟ และในขณะเดียวกันก็อาจสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้โดยสารรถไฟด้วยเช่นกัน อาทิในข้อความที่ว่า
“อันตรายมาก เป็นช่วงที่เคลียร์ทางรอวิ่งแล้วด้วย ไปอยู่ข้างรางถือว่าอันตรายมาก การวางอะไรก็ตามทันทำให้รางสึก ทำแบบนี้ต่อให้ขบวนรถไม่ตกราง ล้อและรางก็จะสึกเร็วกว่าปกติ แล้วการที่ทำแบบนี้ถือว่าทำให้ทรัพย์สินเสียหายด้วย แล้วใครก็ตามที่บอกว่า ทำมาหลายทีแล้วไม่เห็นเป็นไร มันแค่ยังไม่เกิด และถึงมันจะเกิด คนที่ซวยก็ไม่ใช่พวกxึงไง ทั้งคนดู คนวาง หรือคนเมนท์น่ะ คนซวยคือ พคร. กับ ผดส. กับคนที่อยู่ข้างทางน่ะแหละ”
ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงในแพลตฟอร์มอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งคอมเมนต์ของชาวเน็ตก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ต่างลงความเห็นว่า ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานให้ดีกว่านี้ และตักเตือนถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
จุดทางตัดเครื่องกั้นตรงนี้ค้างบ่อยๆเป็นเวลาหลายปีแล้ว เด็กนักเรียนไม่มีอะไรจะเล่น เอาก้อนหินไปวางรางรถไฟ อันตรายมากๆ
[วัดไทร ซ.เอกชัย23 กทม.] #เด็กทะลุถุง #เด็กนรก pic.twitter.com/XhkoEjvYoR— Mr.Hap (@Mr_Whathapened) September 22, 2024
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง