สาวบัญชีจบใหม่ หัวหน้าบังคับทำงานจนตาย “นรก 4 เดือน” แม่เขียนจดหมายแฉ สะเทือนทั้งประเทศ
สาวบัญชีจบใหม่ ได้ทำงานบริษัทในฝัน ถูกหัวหน้าบังคับทำงานจนตาย แม่เขียนจดหมายแฉ “นรก 4 เดือน” ไม่ได้นอนหลับกินอาหารเพียงพอ จนสะเทือนทั้งประเทศ
สำนักข่าวอินเดียทูเดย์ รายงานข่าว แม่ของพนักงานบริษัท Ernst & Young (EY) วัย 26 ปีในเมืองปูเน่ ได้เขียนจดหมายสุดสะเทือนใจถึงบริษัทบัญชีระดับโลกแห่งนี้ กล่าวโทษ “ทัศนคติที่เพิกเฉยของ EY ตลอด 4 เดือน” ว่าเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของลูกสาว อันนา เซบาสเตียน เปราอิล นักบัญชีจากเคราลา ที่เพิ่งเข้าทำงานเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
“ไม่มีใครจาก EY มาร่วมงานศพของเธอ”
อนิตา ออกัสติน แม่ของอันนา เขียนจดหมายถึงราจีฟ เมมานี ประธาน EY อินเดีย จดหมายฉบับนี้ได้ถูกเผยแพร่ไปอย่างกว้างขวางและสร้างความไม่พอใจต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังเปิดเผยถึงความเสี่ยงจากวัฒนธรรมการทำงานหนักเกินพอดี
EY เป็นงานแรกของอันนา เธอรู้สึก “ตื่นเต้นมาก” ที่ได้เข้าทำงานที่นี่ อันนาเป็น “นักสู้” ที่สอบได้อันดับ 1 ทั้งในโรงเรียนและมหาวิทยาลัย เธอทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อตอบสนองความต้องการของบริษัท
อย่างไรก็ตาม ปริมาณงาน สภาพแวดล้อมใหม่ และชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจของอันนา เธอเริ่มมีอาการวิตกกังวล นอนไม่หลับ และเครียด แต่เธอยังคงทำงานต่อไป เพราะเชื่อว่าการทำงานหนักจะนำไปสู่ความสำเร็จ
สุขภาพของอันนาเริ่มแย่ลงในช่วงพิธีรับปริญญาที่ปูเน่ พ่อแม่ของเธอพาเธอไปโรงพยาบาลเพราะมีอาการแน่นหน้าอก แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นเพราะการนอนหลับไม่เพียงพอและการกินอาหารผิดเวลา แต่ถึงแม้จะเป็นวันหยุด อันนายังคงยืนยันที่จะทำงาน โดยบอกว่า “มีงานต้องทำอีกมาก และไม่ได้รับอนุญาตให้ลา”
แม่ของอันนาเล่าว่าอันนามักกลับบ้านดึก และบางครั้งถึงขั้น “ล้มลงบนเตียงโดยไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า” เธอทำงานดึกและต้องทำงานในวันหยุด เมื่อเธอบ่นเรื่องความเหนื่อยล้า ผู้จัดการกลับตอบว่า “คุณทำงานตอนกลางคืนได้ พวกเราทุกคนก็ทำแบบนี้”
แม่ของอันนารู้สึกเสียใจอย่างมาก เธอเขียนว่า “ฉันหวังว่าจะได้บอกลูกว่าสุขภาพสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด แต่มันสายเกินไปแล้ว” เธอหวังว่าการเสียชีวิตของลูกสาวจะเป็น “สัญญาณเตือนให้ EY ตื่นตัว” และเรียกร้องให้ EY พิจารณาวัฒนธรรมการทำงานที่เป็นอันตราย
ในจดหมายฉบับนี้ แม่ของอันนาได้เรียกร้องให้บริษัท EY สร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ดีต่อสุขภาพ โดยกล่าวว่า “ถึงเวลาแล้วที่ EY ต้องทบทวนวัฒนธรรมการทำงานในองค์กรและให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน สร้างสภาพแวดล้อมที่พนักงานรู้สึกปลอดภัยที่จะแสดงความคิดเห็น และไม่ต้องสละสุขภาพกายและใจเพื่อแลกกับผลผลิต”
ตอนมาวันที่ 18 กันยายน Ernst & Young ได้แถลงการณ์ตอบโต้จดหมายของแม่พนักงานที่เสียชีวิต ระบุว่า บริษัทจะพยายามหาวิธีปรับปรุงและสร้างสถานที่ทำงานที่ดีต่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
“เรารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งต่อการจากไปอย่างน่าเศร้าและไม่คาดคิดของอันนา เซบาสเตียน ในเดือนกรกฎาคม 2024 และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้สูญเสีย
อันนาเป็นส่วนหนึ่งของทีมตรวจสอบบัญชีที่บริษัท S R Batliboi ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ EY Global ในเมืองปูเน่ เป็นระยะเวลาเพียง 4 เดือน โดยเริ่มทำงานเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2024
การที่อาชีพที่มีอนาคตของเธอต้องจบลงอย่างน่าเศร้านั้นถือเป็นการสูญเสียที่ไม่อาจทดแทนได้สำหรับพวกเราทุกคน แม้ว่าไม่มีมาตรการใดที่จะชดเชยความสูญเสียที่ครอบครัวได้รับ เราได้ให้ความช่วยเหลือทั้งหมดตามที่เราทำในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ และจะยังคงทำเช่นนั้นต่อไป” ตามแถลงการณ์จาก EY India
“เราถือว่าการติดต่อสื่อสารจากครอบครัวของอันนาเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด และเราตระหนักถึงเรื่องนี้ด้วยความจริงจังและความอ่อนน้อมถ่อมตน เราให้ความสำคัญสูงสุดกับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานทุกคน และจะพยายามปรับปรุงเพื่อสร้างสถานที่ทำงานที่ดีต่อสุขภาพสำหรับพนักงานกว่า 100,000 คนในบริษัทสมาชิกของ EY ในอินเดีย” แถลงการณ์เสริมตอนท้าย
อ่านแปลจดหมายฉบับเต็มของแม่พนักงานถึงบริษัท
ถึง ราจิฟ เมมานี, ประธาน EY India
ฉันเขียนจดหมายฉบับนี้ในฐานะคุณแม่ผู้สูญเสียลูกสาวคนสำคัญของฉัน อันนา เซบาสเตียน เปเรอิล หัวใจของฉันเต็มไปด้วยความเจ็บปวด และจิตวิญญาณของฉันแตกสลายเมื่อฉันเขียนข้อความนี้ แต่ฉันเชื่อว่าจำเป็นต้องแบ่งปันเรื่องราวของเรา เพื่อหวังว่าไม่มีครอบครัวใดต้องผ่านความทุกข์ทรมานเช่นเดียวกับที่เราเผชิญอยู่
อันนาสอบผ่านการสอบ Chartered Accountant (CA) ในเดือนพฤศจิกายนปี 2023 และเริ่มทำงานที่ EY ปูเน่ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2024 ในตำแหน่ง Executive เธอเต็มไปด้วยความฝันและความตื่นเต้นกับอนาคต EY เป็นงานแรกของเธอ และเธอดีใจมากที่ได้เข้าทำงานในบริษัทที่มีชื่อเสียงเช่นนี้ แต่สี่เดือนต่อมา ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2024 โลกของฉันพังทลายเมื่อได้รับข่าวที่ไม่คาดคิดว่าอันนาได้เสียชีวิตแล้ว เธอเพิ่งอายุได้ 26 ปีเท่านั้น
อันนาเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ตั้งแต่วัยเด็ก ไม่ว่าจะเป็นในด้านการเรียนหรือกิจกรรมอื่น ๆ เธอเป็นที่หนึ่งทั้งในโรงเรียนและมหาวิทยาลัย และสอบ CA ผ่านได้ด้วยเกียรตินิยม เธอทำงานอย่างหนักที่ EY เพื่อทำงานให้ครบตามที่ได้รับมอบหมาย แต่ภาระงาน สภาพแวดล้อมใหม่ และชั่วโมงทำงานที่ยาวนาน ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจของเธอ เธอเริ่มมีอาการวิตกกังวล นอนไม่หลับ และเครียดตั้งแต่เริ่มงาน แต่เธอก็ยังคงฝืนทำงานต่อไป เพราะเชื่อว่าความอดทนและการทำงานหนักคือกุญแจสู่ความสำเร็จ
วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม ฉันและสามีเดินทางไปปูเน่เพื่อร่วมพิธีรับปริญญา CA ของอันนา ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เธอบ่นว่ามีอาการแน่นหน้าอกเมื่อกลับถึงที่พักดึกดื่น เราจึงพาเธอไปโรงพยาบาลในปูเน่ แพทย์ตรวจคลื่นหัวใจและผลออกมาปกติ แพทย์บอกเราว่าเธอไม่ได้รับการนอนหลับเพียงพอและกินอาหารดึก แพทย์จ่ายยาลดกรดให้ ซึ่งทำให้เราสบายใจขึ้นว่าไม่น่าจะมีอะไรน่ากังวล แต่ถึงแม้จะเป็นวันหยุด อันนายังคงยืนยันที่จะทำงาน โดยบอกว่ามีงานต้องทำมากมายและเธอไม่ได้รับอนุญาตให้ลา คืนนั้นเธอกลับมาถึงที่พักดึกอีกครั้ง
ในวันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันพิธีรับปริญญา เธอก็ยังคงทำงานจากบ้านจนถึงช่วงบ่าย ทำให้เรามาถึงพิธีรับปริญญาสาย อันนาฝันมาตลอดว่าจะพาพ่อแม่ของเธอมาร่วมพิธีรับปริญญาด้วยเงินที่หามาเอง เธอเป็นคนจองตั๋วเครื่องบินให้พวกเรา แต่มันทำให้หัวใจฉันแตกสลายที่ต้องบอกว่าถึงแม้เป็นสองวันสุดท้ายที่เราจะได้ใช้เวลากับเธอ เธอก็ยังไม่สามารถสนุกกับมันได้เพราะแรงกดดันจากงาน
เมื่ออันนาเข้าร่วมทีมนี้ เธอได้รับการบอกเล่าว่ามีพนักงานหลายคนลาออกเนื่องจากภาระงานที่หนัก ผู้จัดการของทีมบอกเธอว่า “อันนา คุณต้องอยู่ต่อและเปลี่ยนความเห็นของทุกคนเกี่ยวกับทีมของเรา” แต่ลูกสาวฉันไม่รู้เลยว่าชีวิตของเธอจะต้องถูกจบลงเพราะสิ่งนี้
ผู้จัดการของเธอมักจะเลื่อนการประชุมไปในช่วงการแข่งขันคริกเก็ต และมอบหมายงานให้เธอในช่วงท้ายของวัน ทำให้เธอต้องเผชิญกับความเครียดเพิ่มขึ้น ในงานเลี้ยงที่ออฟฟิศ ผู้นำอาวุโสคนหนึ่งเคยล้อเล่นว่าเธอจะต้องเจองานหนักเมื่อทำงานกับผู้จัดการของเธอ และน่าเสียดายที่มันกลายเป็นความจริงที่เธอไม่สามารถหลีกหนีได้
อันนาบอกเราว่าเธอได้รับมอบหมายงานที่ล้นเกินจากภาระงานที่กำหนดในตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ฉันบอกเธอเสมอว่าอย่ารับงานนอกเหนือจากนี้ แต่ผู้จัดการยังคงกดดัน เธอต้องทำงานดึกดื่นและแม้กระทั่งในวันหยุด เธอเคยได้รับโทรศัพท์ในตอนกลางคืนจากผู้ช่วยผู้จัดการ เพื่อสั่งงานที่ต้องเสร็จภายในเช้าวันรุ่งขึ้น ทำให้เธอแทบไม่มีเวลาได้พัก เมื่อเธอบ่นเรื่องนี้ เธอกลับได้รับคำตอบว่า “คุณทำงานกลางคืนได้ พวกเราทุกคนก็ทำแบบนี้”
อันนากลับถึงห้องพักด้วยความเหนื่อยล้า บางครั้งถึงขั้นล้มลงบนเตียงโดยไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า และถูกตามถามหางานอยู่ตลอด เธอทำงานอย่างเต็มที่ พยายามทำให้ได้ตามกำหนดเวลา เธอเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ แต่ภาระงานที่เกินขอบเขตทำให้แม้แต่เธอก็ไม่สามารถต้านทานได้
อันนาไม่เคยโทษผู้จัดการของเธอ เธอใจดีเกินกว่าจะทำเช่นนั้น แต่ฉันไม่อาจนิ่งเงียบได้อีกต่อไป การให้พนักงานใหม่รับภาระงานที่หนักหนาเช่นนี้ ทำให้พวกเขาต้องทำงานกลางคืนแม้ในวันอาทิตย์นั้นไม่มีข้ออ้างใดที่จะยอมรับได้ เธอเพิ่งย้ายออกจากบ้านจากคนที่เธอรัก ทุกสิ่งใหม่สำหรับเธอ ทั้งองค์กร สถานที่ และภาษา เธอพยายามปรับตัวอย่างเต็มที่ คุณควรแสดงความเห็นใจต่อพนักงานใหม่ แต่กลับกัน การบริหารจัดการกลับใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ ทำให้เธอต้องรับงานที่เกินกำลังทั้งงานที่มอบหมายและไม่ได้มอบหมาย
นี่คือปัญหาที่เป็นระบบที่ไปไกลกว่าผู้จัดการหรือทีมคนใด ความต้องการที่ไม่มีสิ้นสุดและความกดดันให้ทำงานให้ได้ตามคาดหวังที่ไม่สมเหตุสมผลนี้ไม่สามารถยอมรับได้ และมันได้พรากชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีศักยภาพมากมายไปจากเรา
อันนาเป็นเพียงพนักงานที่เพิ่งเริ่มต้นอาชีพของเธอ เธอไม่มีประสบการณ์มากพอที่จะกำหนดขอบเขตหรือปฏิเสธความต้องการที่เกินขอบเขต เธอไม่รู้ว่าจะบอกปฏิเสธอย่างไร เธอเพียงพยายามพิสูจน์ตัวเองในสภาพแวดล้อมใหม่ และในที่สุดเธอก็ผลักดันตัวเองจนเกินขีดจำกัด ตอนนี้เธอไม่อยู่กับเราแล้ว
ฉันหวังว่าฉันจะสามารถปกป้องเธอได้ บอกเธอว่าสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของเธอนั้นสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด แต่มันสายเกินไปสำหรับอันนาของฉันแล้ว
ฉันเขียนจดหมายถึงคุณ Rajiv เพราะฉันเชื่อว่า EY มีความรับผิดชอบอย่างมากในการดูแลพนักงานของตน ประสบการณ์ของอันนาเผยให้เห็นถึงวัฒนธรรมการทำงานที่ยกย่องการทำงานเกินกำลังโดยไม่คำนึงถึงมนุษย์ที่อยู่เบื้องหลังตำแหน่งงาน เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เกี่ยวกับลูกสาวของฉันเท่านั้น แต่เกี่ยวกับพนักงานใหม่ทุกคนที่เข้าร่วม EY ด้วยความหวังและความฝัน เพียงเพื่อจะถูกกดดันด้วยความคาดหวังที่ไม่สมเหตุสมผล
การเสียชีวิตของอันนาควรเป็นสัญญาณเตือนสำหรับ EY ถึงเวลาแล้วที่จะต้องทบทวนวัฒนธรรมการทำงานในองค์กรของคุณและดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี
Heartbreaking news from EY Pune – a young CA succumbed to the work pressure and nobody from EY even attended her funeral – this is so appalling and nasty!!! pic.twitter.com/pt8ThUKiNR
— Malavika Rao (@kaay_rao) September 17, 2024
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สลด ลูกน้องลาป่วย หัวหน้าบีบมาทำงาน สุดท้ายเสียชีวิตเพราะ ‘ลำไส้เน่า’
- สาสม สาวปวดท้องเมนส์ ขอลาป่วย กลับถูกไล่ออก ฟ้องศาลชนะ นายจ้างถูกปรับ 1.2 ล้าน
- รัฐบาล ย้ำชัด ลูกจ้างลาป่วยไม่ถึง 3 วัน ไม่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์