แฉประวัติ มือถือลอบสังหาร ‘ทรัมป์’ รอบ 2 คดียาวเป็นหางว่าว เตรียมการอย่างดี
ตำรวจเผย ไรอัน เวสลีย์ รูธ มือปืนที่พยายามลอบสังหารทรัมป์ วางแผนล่วงหน้า มีประวัติอาชญากรรมหลายคดี เคยเผชิญหน้ากับตำรวจพร้อมอาวุธปืนนานถึง 3 ชั่วโมง
จากกรณีบ่ายวันที่ 15 ที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีพรรครีพับลิกัน เกือบถูกชายคนหนึ่งที่ถืออาวุธปืน AK-47 ลอบสังหารขณะเล่นกอล์ฟที่สนามในฟลอริดา โชคดีที่บุตรชายของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพบเห็นทัน จับกุมมือปืนได้ในที่เกิดเหตุ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ยืนยันว่ามือปืนคือ ไรอัน เวสลีย์ รูธ อายุ 58 ปี จากการตรวจสอบประวัติพบว่าชายคนนี้เคยถูกจับกุมมาหลายครั้งในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา
จากการสืบประวัติของฟ็อกซ์นิวส์ รูธ วัย 58 ปี เป็นชาวนอร์ทแคโรไลนา จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีแห่งรัฐนอร์ทแคโรไลนา (NCATSU) และย้ายไปอยู่ฮาวายเมื่อปี 2560 ข้อมูลในลิงก์อินของเขาระบุว่าเคยก่อตั้งบริษัทก่อสร้างเพื่อสร้างที่พักอาศัยอย่างง่ายให้กับคนไร้บ้าน แต่บัญชีโซเชียลมีเดียของเขาเต็มไปด้วยความคิดเห็นฝ่ายซ้ายจัด มักวิพากษ์วิจารณ์นักการเมืองอย่างทรัมป์ ไบเดน และประธานาธิบดีปูตินของรัสเซีย รวมทั้งแสดงการสนับสนุนไต้หวันและยูเครนหลายครั้ง
จากบันทึกของตำรวจ รูธถูกจับกุมด้วยข้อหาต่างๆ ตั้งแต่ทศวรรษ 1990 รวมถึงความผิดฐานครอบครองยาเสพติด ขับขี่โดยไม่มีใบอนุญาต และไม่ต่อประกันรถยนต์และการตรวจสภาพประจำปี
นอกจากนี้ รายงานในปี 2545 ยังเปิดเผยว่ารูธเคยหลบหนีพร้อมอาวุธปืนหลังถูกเรียกให้หยุดรถ แล้วไปซ่อนตัวในบริษัทที่เจาะหลังคา ก่อนถูกจับกุมหลังเผชิญหน้ากับตำรวจนาน 3 ชั่วโมง
การพยายามลอบสังหาอดีตประธานาธบดี ทรัมป์ ของรูธ เกิดขึ้นที่สนามกอล์ฟทรัมป์ อินเตอร์เนชันแนล ในเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา ขณะที่ทรัมป์กำลังเล่นกอล์ฟอยู่ในสนาม ตามรายงานของหน่วยรักษาความปลอดภัย ในช่วงเกิดเหตุ รูธเล็งปืน AK-47 ไปยังตำแหน่งของทรัมป์ แต่เมื่อปลายกระบอกปืนโผล่พ้นรั้วลวดหนามของสนาม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็พบเห็นทันทีและรีบยิงปืนเพื่อระงับเหตุ
หลังจากนั้นรูธขับรถเอสยูวีหลบหนี แต่ถูกตำรวจจับกุมได้ในที่เกิดเหตุ ตำรวจพบปืน AK-47 กล้องถ่ายภาพระดับมืออาชีพ และเป้สะพายหลัง 2 ใบในของของรูธ เจ้าหน้าที่เชื่อว่ารูธวางแผนจะบันทึกภาพการโจมตีทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าเป็นการกระทำที่วางแผนไว้ล่วงหน้าและมีเป้าหมายชัดเจน
หลังเหตุการณ์ระทึกนี้ ทรัมป์อพยพออกจากที่เกิดเหตุอย่างปลอดภัยและรายงานความปลอดภัยของตนให้ผู้สนับสนุนทราบผ่านอินเทอร์เน็ต โดยกล่าวว่าเขาจะ “ไม่มีวันยอมแพ้” ทีมรณรงค์หาเสียงของทรัมป์ก็ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าทรัมป์ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง