ตอบข้อสงสัยที่สายรักสัตว์อยากรู้ อยากทำงานสวนสัตว์ คอยดูแลสัตว์ และมีโอกาสได้ใกล้ชิดสัตว์น้อยน่ารักอย่าง ‘หมูเด้ง’ ต้องเรียนสาขาไหน วุฒิการศึกษาอะไร ?
นาทีนี้จะมีสิ่งมีชีวิตใดน่ารักไปกว่า หมูเด้ง เจ้าฮิปโปแคระ วัย 2 เดือน จากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี หนูน้อยหมูเด้งได้ครองใจผู้คนนับล้านบนอินเทอร์เน็ต จากท่าทางและสีหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ ความโด่งดังของหมูเด้งไม่เพียงแต่ทำให้ใครหลาย ๆ คนกันมาสนใจเรื่องราวชีวิตสัตว์มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันยังได้ปลุกความฝันของเด็กอีกมากมายด้วย
การได้ทำงานใกล้ชิดกับบรรดาสัตว์โลกแสนน่ารัก ถือเป็นความฝันของใครหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้ทำงานในสวนสัตว์ที่เราจะได้มีโอกาสดูแลพวกมันอย่างใกล้ชิด แต่ถึงอย่างนั้นการจะเป็นผู้ดูแลสัตว์ในสวนสัตว์กลับไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจำเป็นต้องอาศัยทั้งความรู้ ความสามารถ และใจรักอย่างแท้จริง วันนี้ทีมงานไทยเกอร์จึงจะพาผู้อ่านทุกท่านไปเจาะลึกถึงเส้นทางสู่การเป็นผู้ดูแลสัตว์ในสวนสัตว์ จะต้องเรียนสายไหน จบวุฒิการศึกษาใด?
อยากทำงานเป็นพี่เลี้ยง ‘หมูเด้ง’ ต้องเรียนสาขาไหน
ผู้ที่ต้องการทำงานเป็นผู้ดูแลสัตว์ในสวนสัตว์ควรมีวุฒิการศึกษาในสาขาที่เกี่ยวข้องกับ สัตวศาสตร์ (Animal Science), สัตวแพทยศาสตร์ (Veterinary Medicine) และ ชีววิทยา (คณะวิทยาศาสตร์) แต่ในขณะเดียวกันบางสวนสัตว์อาจรับพิจารณาผู้ที่มีประสบการณ์การทำงานกับสัตว์หรือมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์ป่าเป็นอย่างดี แม้จะไม่ได้จบตรงสายก็ตาม
เหตุเพราะผู้ดูแลสัตว์จำเป็นต้องมีความรู้และทักษะที่จำเป็นต่อการดูแลสัตว์ต่าง ๆ เช่น พฤติกรรมสัตว์ โภชนาการสัตว์ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น และทักษะในการสังเกตและรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน
สัตวศาสตร์ (Animal Science)
‘สัตวศาสตร์’ หรือ ‘สัตวบาล’ เป็นศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับสัตว์ โดยเน้นไปที่สัตว์เศรษฐกิจ หรือสัตว์ที่มนุษย์นำมาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ได้ เช่น เป็นอาหาร แหล่งผลิตภัณฑ์ หรือใช้แรงงาน การเรียนสัตวศาสตร์ครอบคลุมหลากหลายด้าน ตั้งแต่พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ ไปจนถึงการจัดการและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงสัตว์
เนื้อหาหลักที่เรียนในสัตวศาสตร์
- กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของสัตว์ : ศึกษาโครงสร้างและการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายสัตว์ เพื่อให้เข้าใจถึงความต้องการ พฤติกรรม และกระบวนการทางชีวภาพของสัตว์แต่ละชนิด
- โภชนาการสัตว์ : เรียนรู้เกี่ยวกับสารอาหารที่จำเป็นสำหรับสัตว์แต่ละชนิดในแต่ละช่วงวัย และการจัดการอาหารสัตว์เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีที่สุด
- พันธุศาสตร์และการปรับปรุงพันธุ์สัตว์ : ศึกษาหลักการถ่ายทอดทางพันธุกรรม และเทคนิคในการปรับปรุงพันธุ์สัตว์ เพื่อพัฒนาสายพันธุ์ที่มีคุณภาพและตรงตามความต้องการของตลาด
- การจัดการฟาร์มและการผลิตสัตว์ : เรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการฟาร์ม การดูแลสุขภาพสัตว์ การป้องกันโรค และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสัตว์
- เทคโนโลยีชีวภาพทางสัตว์ : ศึกษาเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีชีวภาพมาประยุกต์ใช้ในด้านต่าง ๆ ของสัตวศาสตร์ เช่น การผลิตวัคซีน การปรับปรุงพันธุ์สัตว์ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสัตว์
- เศรษฐศาสตร์การผลิตสัตว์ : เรียนรู้เกี่ยวกับหลักการทางเศรษฐศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสัตว์ เพื่อให้สามารถวางแผนและบริหารจัดการฟาร์มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้ที่เรียนจบสัตวศาสตร์สามารถประกอบอาชีพได้หลากหลาย
- ผู้ดูแลสัตว์ : ดูแลและบริหารจัดการเลี้ยงสัตว์ในฟาร์ม หรือในสวนสัตว์
- นักวิชาการ : ทำงานวิจัยและพัฒนาในสถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
- นักโภชนาการสัตว์ : ให้คำปรึกษาและออกแบบสูตรอาหารสัตว์
- ผู้ปรับปรุงพันธุ์สัตว์ : ทำงานด้านการคัดเลือกและปรับปรุงพันธุ์สัตว์
- สัตวแพทย์ : ทำงานด้านการดูแลสุขภาพสัตว์ (ต้องเรียนต่อในระดับปริญญาโท)
- ผู้ประกอบการธุรกิจด้านปศุสัตว์ : เช่น ธุรกิจอาหารสัตว์ ธุรกิจยาและเวชภัณฑ์สำหรับสัตว์ หรือธุรกิจฟาร์ม
สัตวแพทยศาสตร์ (Veterinary Medicine)
สัตวแพทยศาสตร์ (Veterinary Medicine) เป็นศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพสัตว์ทุกชนิด ตั้งแต่สัตว์เลี้ยง สัตว์ปศุสัตว์ ไปจนถึงสัตว์ป่า โดยเน้นการป้องกัน รักษา และส่งเสริมสุขภาพที่ดีของสัตว์ รวมถึงการควบคุมโรคระบาดในสัตว์เพื่อป้องกันการแพร่กระจายสู่คน
เนื้อหาที่เรียนในสาขาสัตวแพทยศาสตร์
- กายวิภาคศาสตร์สัตว์ (Animal Anatomy) : ศึกษาโครงสร้างและส่วนต่าง ๆ ของร่างกายสัตว์ เพื่อทำความเข้าใจระบบการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ
- สรีรวิทยาสัตว์ (Animal Physiology) : ศึกษาการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายสัตว์ เช่น ระบบหายใจ ระบบย่อยอาหาร ระบบประสาท และระบบสืบพันธุ์
- จุลชีววิทยาและวิทยาภูมิคุ้มกัน (Microbiology and Immunology) : ศึกษาเกี่ยวกับเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคในสัตว์ กลไกการเกิดโรค และระบบภูมิคุ้มกันของสัตว์ในการต่อสู้กับเชื้อโรค
- เภสัชวิทยาและพิษวิทยา (Pharmacology and Toxicology) : ศึกษาเกี่ยวกับยาและสารพิษที่มีผลต่อสัตว์ การเลือกใช้ยาที่เหมาะสม และการจัดการกับภาวะเป็นพิษในสัตว์
- พยาธิวิทยา (Pathology) : ศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของเซลล์และเนื้อเยื่อที่เกิดจากโรคต่าง ๆ ในสัตว์ เพื่อช่วยในการวินิจฉัยโรค
- ศัลยศาสตร์ (Surgery) : ศึกษาเกี่ยวกับเทคนิคการผ่าตัดและการรักษาบาดแผลในสัตว์
- เวชศาสตร์ป้องกัน (Preventive Medicine) : ศึกษาเกี่ยวกับการป้องกันโรคในสัตว์ เช่น การฉีดวัคซีน การควบคุมและกำจัดโรคระบาด
- เวชศาสตร์คลินิก (Clinical Medicine) : ศึกษาเกี่ยวกับการวินิจฉัยและรักษาโรคต่าง ๆ ในสัตว์แต่ละชนิด เช่น สุนัข แมว วัว ควาย สุกร สัตว์ปีก และสัตว์น้ำ
- สุขภาพสัตว์ป่าและสัตว์น้ำ (Wildlife and Aquatic Animal Health) : ศึกษาเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและการอนุรักษ์สัตว์ป่าและสัตว์น้ำ
- สวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) : ศึกษาเกี่ยวกับการส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของสัตว์ทั้งในฟาร์มและในสภาพแวดล้อมอื่น ๆ
เรียนจบสัตวแพทยศาสตร์ทำงานอะไรได้บ้าง
- ผู้ดูแลสัตว์ : ดูแลและบริหารจัดการเลี้ยงสัตว์ในฟาร์ม หรือในสวนสัตว์
- สัตวแพทย์ : ทำงานในคลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ เพื่อวินิจฉัยและรักษาโรคสัตว์
- นักวิจัย : ทำงานวิจัยและพัฒนาด้านสัตวแพทยศาสตร์ในสถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
- อาจารย์ : สอนในมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาที่เปิดสอนหลักสูตรสัตวแพทยศาสตร์
- เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคระบาดสัตว์ : ทำงานในหน่วยงานภาครัฐเพื่อป้องกันและควบคุมโรคระบาดในสัตว์
- ผู้ตรวจสอบคุณภาพอาหาร : ทำงานในโรงงานแปรรูปอาหารหรือหน่วยงานภาครัฐเพื่อตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารที่มาจากสัตว์
- ผู้ประกอบการธุรกิจด้านสัตวแพทย์ : เช่น เปิดคลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ ผลิตยาและเวชภัณฑ์สำหรับสัตว์ หรือให้บริการที่ปรึกษาด้านสัตวแพทย์
ชีววิทยา (คณะวิทยาศาสตร์)
ชีววิทยา (คณะวิทยาศาสตร์) เป็นสาขาที่ศึกษาเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบ ตั้งแต่ระดับเล็กที่สุดอย่างเซลล์ ไปจนถึงระดับใหญ่ที่สุดอย่างระบบนิเวศน์ โดยมุ่งเน้นทำความเข้าใจโครงสร้าง หน้าที่ พฤติกรรม วิวัฒนาการ และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เข้าใจถึงความซับซ้อนและความหลากหลายของชีวิตบนโลก
เนื้อหาที่เรียนในสาขาชีววิทยา
- ชีววิทยาระดับโมเลกุลและเซลล์ (Molecular and Cellular Biology) : ศึกษาโครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์ กระบวนการทางชีวเคมีภายในเซลล์ พันธุศาสตร์ระดับโมเลกุล และเทคโนโลยีชีวภาพ
- สรีรวิทยาสัตว์และสรีรวิทยาพืช (Animal and Plant Physiology) : ศึกษาการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายสัตว์และพืช เช่น ระบบหายใจ ระบบย่อยอาหาร ระบบประสาท และระบบสืบพันธุ์
- พันธุศาสตร์ (Genetics) : ศึกษาเกี่ยวกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม กฎของเมนเดล ความแปรผันทางพันธุกรรม และพันธุวิศวกรรม
- วิวัฒนาการ (Evolution) : ศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิตตลอดช่วงเวลาอันยาวนาน กลไกการคัดเลือกโดยธรรมชาติ และหลักฐานการวิวัฒนาการ
- นิเวศวิทยา (Ecology) : ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ และผลกระทบของมนุษย์ต่อระบบนิเวศ
- อนุกรมวิธานและความหลากหลายทางชีวภาพ (Taxonomy and Biodiversity) : ศึกษาเกี่ยวกับการจำแนกประเภทของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตบนโลก และการอนุรักษ์
- สัตววิทยา (Zoology) และพฤกษศาสตร์ (Botany) : ศึกษาเฉพาะทางเกี่ยวกับสัตว์และพืช ตามลำดับ
- จุลชีววิทยา (Microbiology) : ศึกษาเกี่ยวกับจุลินทรีย์ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส รา และโปรโตซัว
ผู้ที่เรียนจบชีววิทยาประกอบอาชีพใด
- ผู้ดูแลสัตว์ : ดูแลและบริหารจัดการเลี้ยงสัตว์ในฟาร์ม หรือในสวนสัตว์
- นักวิจัย : ทำงานวิจัยในห้องปฏิบัติการ มหาวิทยาลัย หรือหน่วยงานต่าง ๆ
- นักวิทยาศาสตร์ : ทำงานในภาคอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมอาหาร ยา หรือเทคโนโลยีชีวภาพ
- ครู / อาจารย์ : สอนวิชาชีววิทยาในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย
- นักอนุรักษ์ : ทำงานเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- นักเขียนหรือนักสื่อสารมวลชนด้านวิทยาศาสตร์ : สร้างสรรค์เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับชีววิทยา
- ผู้ประกอบการ : สร้างธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับชีววิทยา เช่น ธุรกิจเทคโนโลยีชีวภาพ หรือธุรกิจเกษตรกรรม
อย่างไรก็ดี การทำงานในสวนสัตว์อาจมีข้อกำหนดและคุณสมบัติเฉพาะเพิ่มเติม ซึ่งจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งงาน และสวนสัตว์แต่ละแห่ง ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลและติดต่อสอบถามกับสวนสัตว์ที่คุณสนใจโดยตรง เพื่อเตรียมความพร้อมให้ดีที่สุดก่อนสมัครงาน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง