รุมสาป “มีพ่อเมื่อพร้อม” พาลูกเล่นน้ำ ฝืนเอาคอนเทนต์ เห็นแล้วเหยื่อยแทนกู้ภัย

ควรมีหลูกสูตรสอนทักษะการเล่นโซเชียลแล้วไหม วิจารณ์สนั่น คลิปพ่อฝืนทำคอนเทนต์พาลูกเล่นน้ำ หวังเรียกยอดวิว แต่เจอกระแสตีกลับหนัก เหตุเห็นแล้วเหยื่อยแทนกู้ภัย ดูยังไงก็ไม่ปลอดภัยทั้งตัวและอนาคตเด็ก
หลังจากวานนี้ (8 ก.ย.) @RedSkullxxx ลงคลิปของเผยให้เห็นถึงพฤติกรรมของบิดาท่านหนึ่งพาลูกน้อยไปเล่นน้ำท่ามกลางกระแสน้ำซึ่งดูเฉี่ยวกราก โดยทางเพจมีการเขียนข้อความด้วยว่า คลิปวิดโอดังกล่าวมีคนเตือนเป็นจำนวนมาก แต่เจ้าของคลิปที่เป็นพ่อเด็กหาได้สนใจคนที่เข้ามาเตักเตือนใด ๆ ไม่ ก่อนจะทิ้งท้ายถึงการกระทำดังช่างของชายผู้ฝืนเอายอดไลค์ยอดวิวอย่าให้เหตุการณ์ครั้งนี้หรืออะไรในทำนองนี้ เดือดร้อนกู้ภัยต่อไปในอนาคตก็แล้วกัน
“มีคนเตือนเยอะนะแต่เจ้าของคลิปหาได้นำพาไม่ ปล่อยให้ธรรมชาติคัดสรร อย่าให้เดือดร้อนกู้ภัยแล้วกัน” นอกจากเนื้อหาทำนองปล่อยไปตามยถากรรม ให้กับผู้นำครอบครัวที่อยู่ในคลิปแล้ว ต่อมาคลิปนี้ถูกชาวเน็ตและพลเมืองดีตจำนวนมากเข้ามาตำหนิติงค่อนข้างแรง
อย่างไรก็ดี สิ่งที่หลายคนพากันวิพากษ์วิจารณ์หนาหู หลัก ๆ เนื่องจากทุกคนเป็นห่วงเรื่องควาวมปลอดภัยของเด็ก เพราะหากต่อให้ฝั่งของผู้เป็นพ่อมั่นใจว่าสามารถอุ้มลูกเล่นน้ำท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลมาอย่างรวดเร็ว แต่สังเกตจากสีของน้ำที่สกปรกและก็ไม่สามารถมั่นใจได้ว่าจะมีเชื้อโรคอะไรด้วยหรือไม่ จึงไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะทำแบบนี้ (ดูคลิป).



ทั้งนี้ อ้างอิงข้อมูลจาก Save the Children Thailand ระบุถึง สิ่งหลักที่ต้องคิดเมื่อจะโพสต์หรือแชร์ภาพ-วิดีโอหรือข้อมูลเกี่ยวกับเด็ก ไว้ 4 ข้อด้วยกัน ดังนี้
1. คำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กเป็นสำคัญ คอนเทนต์ของเราต้องไม่ทำอันตรายต่อทั้งตัวเด็กและสังคม ทั้งในตอนถ่ายและหลังจากที่โพสต์ไปแล้ว พยายามประเมินความเสี่ยงว่าสิ่งที่เรากำลังจะถ่ายหรือแชร์นั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนหรืออาจนำอันตรายมาสู่ตัวเด็กได้หรือไม่
2. หลีกเลี่ยงการแชร์ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนและที่อยู่ของเด็ก โดยเฉพาะการการแชร์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ เนื่องจากอาจเป็นการเปิดช่องให้ผู้ไม่หวังดีรู้ถึงกิจวัตรประจำวันและสถานที่ที่เด็กมักไปได้
3. มีการพูดคุยทำความเข้าใจเรื่องความเสี่ยงบนโลกออนไลน์กับเด็ก และขอความยินยอมจากผู้ปกครองและตัวเด็กก่อนทุกครั้ง
4. เด็กสามารถปฏิเสธหรือบอกให้เราหยุดถ่ายได้ บางครั้งเด็กอาจไม่กล้าปฏิเสธด้วยตนเองด้วยเหตุผลหลายอย่าง เราต้องสังเกตท่าทีของเด็ก ๆ รวมถึงถามความเห็นของเด็กเสมอ.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คลิปนักเรียนหญิง ชูนิ้วกลาง-ทำท่าต่อยครู ดราม่าซ้ำ ผู้ปกครองโชว์ตรรกะวิบัติ
- รุมสาป แม่พิมพ์ TikToker อัดคลิปเคาะแก้ว ใช้เด็กอนุบาลซื้อน้ำแข็ง จิตใจไม่น่ามาสอน
- ชาวเน็ตสวดยับ ลูก 2 ขวบ ติดอยู่ในรถ พ่อแม่ญี่ปุ่นไม่ช่วย ยืนถ่ายคลิปเฉย