อพยพด่วน 400,000 คน จีนสั่งหนีพายุไต้ฝุ่น ‘ยางิ’ ขึ้นเกาะไหหลำ
ทางการจีนอพยพด่วน ประชาชน 400,000 คน ทางตอนใต้ หนีพายุไต้ฝุ่น ‘ยางิ’ ขึ้นเกาะไหหลำเย็นนี้
สำนักข่าว BBC รายงาน จีนได้อพยพประชาชนประมาณ 400,000 คนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยตอนใต้ หนีพายุซูเปอร์ไต้ฝุ่น “ยางิ” หนึ่งในพายุที่ทรงพลังที่สุดของปีนี้ จะขึ้นฝั่งที่เกาะไหหลำ แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ในช่วงเย็นวันศุกร์นี้
การคมนาคมทั้งทางรถไฟ เรือ และเครื่องบินในพื้นที่ถูกระงับเป็นวันที่ 2 ขณะที่โรงเรียนในบางส่วนของภาคใต้ยังคงปิดทำการ เนื่องจากซูเปอร์ไต้ฝุ่น “ยางิ” กำลังเคลื่อนเข้าใกล้
“ยางิ” เพิ่มความรุนแรงเป็น 2 เท่าหลังจากสร้างความเสียหายอย่างหนักในภาคเหนือของฟิลิปปินส์เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะนี้มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางถึง 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นักอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า “ยางิ” อาจก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงในไหหลำและกวางตุ้ง ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดของจีน
ศูนย์เตือนภัยพายุไซโคลนเขตร้อนอินโด-แปซิฟิก ระบุในประกาศเตือนว่า “ยางิ” เป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นที่ “อันตรายและทรงพลังอย่างยิ่ง อาจก่อให้เกิดความเสียหายในระดับ “หายนะ” โดยมีความรุนแรงเทียบเท่ากับเฮอริเคนระดับ 5
เจ้าหน้าที่ในไหหลำได้สั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดตั้งแต่วันพุธ และเตือนถึง “ลมแรงและสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง” นอกจากนี้ สะพานข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก ซึ่งเชื่อมฮ่องกงกับมาเก๊าและจูไห่ในกวางตุ้ง ก็ถูกปิดเช่นกัน
หน่วยงานด้านสภาพอากาศของจีนคาดว่าไต้ฝุ่นทำให้ปริมาณน้ำฝนจะสูงถึง 500 มม. เชื่อว่า “ยางิ” จะเป็นไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดที่พัดถล่มชายฝั่งทางใต้ของจีนในรอบทศวรรษ
หลังจากนี้คาดว่า “ยางิ” จะขึ้นฝั่งอีกครั้งทางตอนเหนือของเวียดนามในช่วงปลายวันเสาร์ ในสภาพที่อ่อนกำลังลง สำนักข่าว AFP รายงานโดยอ้างจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นว่า ประชาชนหลายหมื่นคนในจังหวัดไฮฟองและท้ายบิ่ญจะถูกอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยภายในสิ้นวันศุกร์
สื่อเวียดนามรายงานว่ากองทัพได้ระดมกำลังพลประมาณ 460,000 นายเพื่อช่วยจัดการผลกระทบของพายุ ท่าอากาศยาน 4 แห่งทางตอนเหนือของประเทศ รวมถึงท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่ายของกรุงฮานอย จะปิดทำการในวันเสาร์เพื่อป้องกันพายุ เจ้าหน้าที่การบินพลเรือนของเวียดนามกล่าว
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา น้ำท่วมและดินถล่มที่เกิดจาก “ยางิ” ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 รายในภาคเหนือของฟิลิปปินส์ โดยมีประชาชนหลายพันคนต้องอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย
“ยางิ” เกิดขึ้นหนึ่งสัปดาห์หลังจากไต้ฝุ่น “ชานชาน” พัดถล่มญี่ปุ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 รายและบาดเจ็บหลายร้อยคน
นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าไต้ฝุ่นและเฮอริเคนกำลังทวีความรุนแรงและบ่อยครั้งขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ น้ำทะเลที่อุ่นขึ้นหมายความว่าพายุจะรับพลังงานมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่ความเร็วลมที่สูงขึ้น บรรยากาศที่อุ่นขึ้นยังกักเก็บความชื้นได้มากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ฝนที่ตกหนักขึ้น
ขณะที่ประเทศไทย สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ – องค์การมหาชน (สสน.) รายงานว่า ช่วงวันที่ 7-9 กันยายน ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากพายุยางิ ใน 12 จังหวัด เผชิญฝนตกหนัก ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก เชียงราย ลำปาง ลำพูน พะเยา น่าน เลย หนองคาย บึงกาฬ และนครพนม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง