เจ้าอาวาส เล่าหนังคนละม้วน ปัดยืมเงินโยมเศรษฐีนี 9.2 ล้าน จนอีกฝ่ายจ่อยึดโบสถ์
สรุปดราม่า พระยืมเงินโยมเกือบ 10 ล้าน เจ้าอาวาสวัดพืชอุดม เคลียร์ข้อเท็จจริงเป็นหนังคนละม้วน ปฏิเสธไม่เคยยืมเงิน นางกฤษณา เศรษฐีนี ที่ร้องสายไหมต้องรอด ปรึกษากรณียึดโบสถ์ ร้อนคณะสงฆ์พร้อมรองพ่อเมืองปทุมฯ ประชุมพร้อมตั้งสอบด่วน ยันผิดว่าไปตามผิด ย้ำละเมิดกฎสงฆ์จับสึกแน่
จากกรณี นางกฤษณา เศรษฐีนีออกมาร้องสายไหมต้องรอด โดยอ้างว่า “เจ้าอาวาสวัดดัง” ย่านลำลูกกา ยืมเงินไปเป็นจำนวน 9.2 ล้านบาท แต่ต่อมาไม่มีการชดใช้แถมยังบอกสีกาที่เป็นเจ้าหนี้อยากได้ให้ไปยึดโบสถ์เอาเอง แถมให้กุญแจไว้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันจนคู่กรณีตัดสินใจจะเข้ายึดโบสถ์จริง ๆ หลังจากได้ไปปรึกษากับทีมงานของนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ
อ้างอิงข้อมูลในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ หลักฐานของนางกฤษณาเป็นเอกสารบันทึกข้อความของหนังสือยอมรับสภาพหนี้ เนื้อหาข้างในระบุชื่อ พระครูอุดมปทุมาภิรัต (สมบูรณ์ สิริปุญโญ) เจ้าอาวาสวัดพืชอุดม ขอยอมรับกรณีเป็นหนี้กับโยม 2 คน เป็นเงินจำนวน 9,200,000 บาท และจำนวน 230,000 บาท ยินดีชำระหนี้คืนทั้งหมดภายใน ส.ค. 2567 และมีการเซ็นชื่อลูกหนี้ เจ้าหนี้ทั้ง 2 คนและพยาน โดยเอกสารฉบับนี้ทำขึ้นเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 67
นายเอกภพ กล่าวว่า ความจริงแล้วไม่สามารถยึดโบสถ์ได้ แต่เมื่อเจ้าอาวาสทำเอกสารรับสภาพหนี้ ทางผู้เสียหายสามารถไปฟ้องส่วนตัวและให้ยึดทรัพย์ที่เป็นทรัพย์ส่วนตัวมาใช้หนี้ได้
ร้อน “เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี” เรียกคณะสงฆ์พร้อมข้าราชการ ร่วมประชุมหารือ
หลังจากถูกอีกฝ่ายกล่าวหาโดยมีหลักฐานสัญญายืมเงิน-คืนเงิน และได้ปรึกษาสายไหมต้องรอดว่าจะสามารถยึดโบสถ์ได้หรือไม่เพราะฝั่งเศรษฐีนีอ้างได้นำเงินเก็บทั้งชีวิตออกมาให้ฝ่ายพระสงฆ์ยืมไปจนสิ้นเนื้อประดาตัวแล้ว ณ ปัจจุบัน
ล่าสุด พระราชสุทธิธรรมจารย์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เจ้าอาวาสวัดประยูรธรรมาราม เรียกเจ้าคณะอำเภอเจ้าคณะตำบลมาหารือถึงประเด็นดังกล่าวแล้ว โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ข๊ะเดียวกันวานนี้ก็มีรายงานว่า ได้เรียกให้เจ้าอาวาสรูปดังกล่าวมาชี้แจงแต่พบว่าไม่อยู่ที่วัดอ้างต้องไปรักษาตาที่ รพ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ไม่สามารถเดินทางกลับมาได้ทัน
ขณะที่เจ้าคณะตำบลระบุหลังจากได้โทรศัพท์ไปตามเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวก็ได้รับคำตอบว่ากำลังเดินทางกลับจากการไปหาหมอที่ จ.สมุทรสาคร จึงไม่สะดวกมาพบในช่วงเย็นวานนี้ (4 ก.ย.) จึงนัดไปพบที่วัดในวันนี้ (5 ก.ย.) แทน และยืนยันว่าไปหาหมอจริง ๆ ไม่ได้หลบหน้า
กระทั่งประมาณ 6 โมงเย็นของเมื่อวานที่ผ่านมา พระครูอุดมปทุมาภิรัต เจ้าอาวาสวัดพืชอุดมที่ตกเป็นข่าวยืมเงินสีกา เดินทางกลับมาถึงวัดพืชอุดม ต.พืชอุดม อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จึงได้โอกาสชี้แจงเรื่องทั้งหมด เริ่มจากยืนยันว่าท่านไปรักษาอาการดวงตาอักเสบมา โดยพระครูอุดมฯ ใส่แว่นดำระหว่างให้สัมภาษณ์ด้วยเพราะตาเจ็บ
โดยข้อมูลฝั่งเจ้าอาวาสซึ่งเปิดเผยล่าสุดนั้น ระบุ นางกฤษณามาทำบุญที่วัดนานกว่า 13 ปี เวลามีกิจกรรมก็จะมาช่วยงานเสมอ ส่วนเรื่องเงินที่ยืมไม่เป็นความจริง ที่อีกฝ่ายกล่าวหาว่าเป็นหนี้ 9.2 ล้าน นั้นก็ไม่ใช่เรื่องจริง เจ้าอาวาสย้ำด้วยว่าเงินที่นำมาเป็นเงินทำบุญ ฝั่างของสีกานำมาทำด้วยใจเป็นกุศลเอง
ส่วนที่อ้างว่ามีโยมอีกคนชื่อ “มยุรี” ให้พระครูอุดมฯ ยืมเงินเหมือนกันนั้น เจ้าอาวาสขอชี้แจงว่าโยมมยุรี มาช่วยกิจกรรมบวงสรวงเทวดาของทางวัด โดยมาจัดพวกเครื่องบวงสรวงเท่านั้น ไม่เคยมีการยืมเงิน ยืนยันว่าไม่เคยยืมเงินใครเพราะไม่มีเอกสารการกู้ยืมเงิน
นอกจากนี้เรื่องที่อ้างถึงพระครูอุดมฯ ยอมวางกุญแจโบสถ์ไว้กับเศรษฐีนีเพื่อค้ำประกัน ฝ่ายพระสงฆ์ก็ยืนกรานชัดเจนว่าไม่เป็นตามที่อีกฝ่ายออกมาให้ข่าวแต่อย่างใด เพราะโบสถ์ที่นี่ไม่มีกุญแจ.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ช็อก สามีแฉภรรยาเป็นชู้กับพระดังอุบลฯ ซึ้งรสพระธรรมจนแชตหวานฉ่ำ ไม่กลัวบาป
- พระพยอม อัด พระถามใครไม่เคยช่วยตัวเองบ้าง เป็นเรื่องอัปยศที่สุด
- แจ้งความ เจ้าอาวาสวัดดัง เชิดเงินกฐิน 7 แสนบาท ยืมชาวบ้านอีก 4 ล้านบาท