ข่าวต่างประเทศ

‘หมอวิปริต’ ย่ำยีคนไข้ชาย 310 คน ขืนใจวิตถาร ฉีดจู๋แข็งผิดรูป บังคับช่วยตัวเอง สวนท่อสดไม่ใช้ยาชา

สะเทือนขวัญวงการแพทย์สหรัฐ หมอศัลยกรรมระบบทางเดินปัสสาวะนิวยอร์ก ล่วงละเมิดคนไข้ชายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ 310 คน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานความคืบหน้ากรณี ดร.ดาเรียส พาดุช อดีตแพทย์ศัลยกรรมระบบทางเดินปัสสาวะชื่อดังแห่งนครนิวยอร์ก กำลังเผชิญกับคดีฟ้องร้องเพิ่มเติมจากคนไข้ชายเกือบ 150 ราย ทำให้จำนวนผู้เสียหายรวมทั้งสิ้น 310 คน กลายเป็นคดีล่วงละเมิดทางเพศที่มีผู้เสียหายเป็นชายมากที่สุดในประวัติศาสตร์

ทนายโทนี่ ดิปิเอโตร ตัวแทนโจทก์ กล่าวว่า “ดร.พาดุชล่วงละเมิดคนไข้ชายมากกว่าผู้ล่าเหยื่อคนใดในประวัติศาสตร์” โดยเอกสารศาลระบุว่าหมอคนนี้อาจก่อเหตุกับเหยื่อและผู้รอดชีวิตนับพันราย

รายละเอียดในคำฟ้องที่ยื่นต่อศาลสูงแมนฮัตตันเมื่อวันอังคาร เผยให้เห็นถึงการกระทำอันโหดร้ายของ ดร.พาดุช ที่ไม่เลือกเหยื่อ มีอายุตั้งแต่วัยเกษียณไปจนถึงผู้เยาว์

พฤติกรรมหมอสุดโหดรายนี้แต่อย่างสยองพรั่นพรึง เช่น ฉีดยาเข้าอวัยวะเพศของเหยื่อบางรายเพื่อกระตุ้นให้แข็งตัวเป็นเวลานาน ทำการขยายขนาดอวัยวะเพศจนบวมปูดผิดรูป ส่องกล้องเข้าไปในท่อปัสสาวะโดยไม่ใช้ยาชา บังคับให้คนไข้คุกเข่ายืนสี่ขาเพื่อการตรวจที่น่าอับอาย

ในระหว่างการตรวจบางครั้ง ดร.พาดุชเดินไปมาพร้อมปากกา ชี้ไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายคนไข้ที่เปลือยเปล่า “ราวกับว่าเขากำลังแสดงบทบาทเป็นอาจารย์”

แม่ของโจทก์รายหนึ่งกล่าวว่า “มันแย่ยิ่งกว่าที่ฉันจะจินตนาการได้ การรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในการตรวจเหล่านั้นแทบจะฆ่าฉัน”

ดร.พาดุชถูกจับกุมในเดือนเมษายน 2566 และถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานล่วงละเมิดทางเพศ 13 กระทงในศาลรัฐบาลกลาง เขาอาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 60 ปี

เขาทำงานเป็นแพทย์ศัลยกรรมระบบทางเดินปัสสาวะที่ศูนย์การแพทย์เวลล์ คอร์เนลล์, โรงพยาบาลนิวยอร์ก-เพรสไบทีเรียน, มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และระบบสุขภาพนอร์ธเวลล์ – ซึ่งชื่อเสียงของสถาบันเหล่านี้ช่วยให้เขา “ล่อลวง” เหยื่อได้ง่ายขึ้น

ทนายของเหยื่อกล่าวว่า “คนไข้ไว้ใจโรงพยาบาลชั้นนำเหล่านี้ว่าจะให้การรักษาที่ปลอดภัยและเหมาะสมสำหรับอาการส่วนตัว พวกเขาไม่ได้คิดว่าจะถูกล่วงละเมิดโดยอาชญากรวิปริตในเสื้อกาวน์ขาว”

การล่วงละเมิดบางครั้งเกิดขึ้นต่อหน้าพยาบาล ผู้ช่วย และแม้แต่แพทย์คนอื่น

ดร.พาดุชแอบแฝงการล่วงละเมิดไว้ในคราบของการรักษาทางการแพทย์ที่จำเป็น เช่น สั่งให้คนไข้สำเร็จความใคร่ต่อหน้าเขา หรือช่วยสำเร็จความใคร่ให้คนไข้เอง บ่อยครั้งมีการเปิดสื่อลามกประกอบ บางครั้งเขาวัดขนาดอวัยวะเพศของคนไข้ขณะแข็งตัว และใช้ของเล่นทางเพศรูปทรงคล้ายอวัยวะเพศชายกับคนไข้

เหยื่อรายหนึ่งเข้ารับการรักษากับดร.พาดุชนานกว่า 10 ปี เริ่มตั้งแต่อายุเพียง 7 ขวบ ขณะที่อีกรายหนึ่งมีอายุเพียง 13 ปี

เหยื่อคนหนึ่งเล่าว่าดร.พาดุชบีบอวัยวะเพศของเขาแรงมากจน “เป็นรอยช้ำอยู่หลายสัปดาห์” ขณะที่อีกรายหนึ่งอ้างว่าหมอสั่งยาที่ไม่จำเป็นให้เขามากเกินไปจนเกิดภาวะตับวาย

ในขณะที่คนไข้วัย 56 ปีนอนอยู่บนเตียงตรวจ “ดร.พาดุชปลดซิปกางเกงของตัวเอง” และบอกชายคนนั้นว่า “เขาต้องการให้ดูว่าอวัยวะเพศที่แข็งตัวมีลักษณะอย่างไร”

ดร.พาดุชยังคงประกอบวิชาชีพแพทย์จนกระทั่งถูกจับกุมในปี 2566 แต่เอกสารศาลระบุว่านายจ้างของเขารู้ถึงการล่วงละเมิดอันน่ารังเกียจนี้ตั้งแต่อย่างน้อยปี 2560

เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทนายได้ยื่นฟ้องคดีแบบกลุ่มครั้งแรกต่อดร.พาดุชและนายจ้างของเขา ซึ่งรวมถึงเวลล์ คอร์เนลล์ เมดิซีน, โรงพยาบาลนิวยอร์ก-เพรสไบทีเรียน, นอร์ธเวลล์ เฮลธ์ และมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย อย่างไรก็ดี ผู้เสียหาย 143 รายใหม่ยังไม่ได้เข้าร่วมในคดีแบบกลุ่มและได้ยื่นฟ้องเป็นรายบุคคล

ในเดือนกรกฎาคม ผู้พิพากษาปฏิเสธความพยายามของทนายความของดร.พาดุชที่จะยกฟ้องและปิดผนึกคดีแบบกลุ่มขนาดใหญ่ของทนายดิปิเอโตร

ตัวแทนของเวลล์ คอร์เนลล์ กล่าวว่าโรงพยาบาล “รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งกับผู้รอดชีวิตเหล่านี้” และสถาบันได้ “ปรับปรุงนโยบายและข้อกำหนดการฝึกอบรม รวมทั้งเปิดตัวโครงการความปลอดภัยของผู้ป่วยใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดการกระทำอันน่ารังเกียจเช่นนี้ในอนาคต”

อ่านข่าวอื่นๆ

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button