จากกระแสดราม่าเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในเกาหลีใต้ ทำให้คนไทยเริ่มเบนทิศทางมองหาจุดหมายปักหมุดเช็คอินใหม่แทน เดอะไทยเกอร์จึงขอแนะนำ 5 ประเทศน่าเที่ยวในเอเชีย ที่ไม่เพียงแค่สวยงาม โดนใจ แต่ยังเดินทางสะดวกและที่สำคัญ ฟรีวีซ่าสำหรับคนไทย
1. ญี่ปุ่น ฟรีวีซ่าคนไทย 15 วัน
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรมและธรรมชาติที่สวยงาม ดินแดนอาทิตย์อุทัย มีสิ่งที่น่าสนใจมากมายตั้งแต่วัด ศาลเจ้า และสวนสไตล์ญี่ปุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ความงามของสวนแต่ละฤดูจะมีความสวยงามที่แตกต่างกันไป เป็นความงามวิถีญี่ปุ่นที่ต้องลองสักครั้ง นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้าล้ำสมัยไม่ว่าจะทำอะไรก็สะดวกสบายไปหมด ทั้งสองสิ่งนี้ดูจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่น่าแปลกใจที่มันอยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวตกหลุมรักญี่ปุ่น คือ “ความเป็นมิตร” ของชาวญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสุภาพ อ่อนน้อม และมีน้ำใจ ไม่ว่าคุณจะหลงทาง ถามทาง หรือต้องการความช่วยเหลือใด ๆ ก็ตาม คุณจะได้รับรอยยิ้มและความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทำให้คุณรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง เหมือนได้มาเยี่ยมบ้านเพื่อนสนิท การโค้งคำนับอย่างนอบน้อม การกล่าวคำทักทายอย่างสุภาพ หรือแม้แต่การช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การถือของให้ หรือการบอกทางอย่างละเอียด ก็ล้วนเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจและความเอื้อเฟื้อของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อผู้มาเยือน
5 อันดับเมืองน่าเที่ยวในญี่ปุ่น หลากหลายสไตล์ เที่ยวได้ไม่มีเบื่อ
1.โตเกียว เป็นมหานครที่ไม่เคยหลับใหล เต็มไปด้วยสีสันและความหลากหลายที่พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้คุณได้ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นชมวัดและศาลเจ้าเก่าแก่ ช้อปปิ้งแบรนด์ดังในย่านกินซ่า หรือสัมผัสแสงสีและชีวิตยามค่ำคืนในย่านชินจูกุและชิบูย่า โตเกียวยังมีอาหารอร่อย ๆ ให้ลิ้มลองมากมาย ตั้งแต่ร้านมิชลินสตาร์ไปจนถึงร้านอาหารริมทางราคาประหยัด
2. เกียวโต เมืองหลวงเก่าแก่ที่ยังคงรักษาเสน่ห์ของวัฒนธรรมและประเพณีดั้งเดิมไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ที่นี่คุณจะได้เดินเล่นท่ามกลางวัดและศาลเจ้าสวยงามมากมาย เช่น วัดคินคาคุจิ (วัดทอง) และศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมน่าสนใจอื่น ๆ เช่น การชมการแสดงเกอิชา หรือการนั่งรถลากชมเมือง
3.โอซาก้า เมืองแห่งอาหารและความบันเทิง ที่นี่คุณจะได้ลิ้มลองอาหารอร่อย ๆ มากมาย ทั้งทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ และคุชิคัตสึ นอกจากนี้ โอซาก้ายังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ปราสาทโอซาก้า และ Universal Studios Japan ที่จะทำให้คุณสนุกสนานและตื่นเต้นไปกับเครื่องเล่นและโชว์ต่างๆ
4.ฮอกไกโด เกาะทางเหนือสุดของญี่ปุ่น ที่มีธรรมชาติอันงดงาม ทั้งภูเขา ทะเลสาบ และทุ่งดอกไม้กว้างใหญ่ ในฤดูหนาว ฮอกไกโดจะปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน เหมาะสำหรับการเล่นสกีและกิจกรรมฤดูหนาวอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังมีออนเซ็นธรรมชาติหลายแห่งให้คุณได้ผ่อนคลายและสัมผัสประสบการณ์การแช่น้ำร้อนแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ
5.โอกินาว่า หมู่เกาะทางใต้สุดของญี่ปุ่น ที่มีบรรยากาศแตกต่างจากเมืองอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง ที่นี่คุณจะได้พบกับชายหาดสวยงาม น้ำทะเลใส และกิจกรรมทางน้ำหลากหลาย เช่น ดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก และพายเรือคายัค นอกจากนี้ โอกินาว่ายังมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งอาหารการกิน ดนตรี และการแสดงพื้นเมือง ที่จะทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืม
หนึ่งในเสน่ห์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เมื่อมาเยือนญี่ปุ่น คือ “อาหาร” ที่ขึ้นชื่อเรื่องความประณีต วัตถุดิบสดใหม่ และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายกินจุ หรือชอบลองอะไรใหม่ ๆ อาหารญี่ปุ่นก็พร้อมเสิร์ฟความอร่อยให้คุณได้ลิ้มลองอย่างหลากหลาย นี่คือ 5 อันดับอาหารญี่ปุ่นยอดฮิต ที่ต้องไปลองด้วยตัวเองจากเชฟต้นตำรับสักครั้ง
1. ซูชิ เมนูยอดฮิตที่ใคร ๆ ก็รู้จัก ข้าวปั้นหน้าต่าง ๆ ทั้งปลาแซลมอน ทูน่า กุ้ง หอย ปลาหมึก หรือไข่หวาน ที่สดใหม่และละลายในปาก
2. ราเมน บะหมี่น้ำซุปเข้มข้น ที่มีให้เลือกหลากหลายรสชาติ ทั้งซุปกระดูกหมู (ทงคตสึ) ซุปมิโซะ ซุปโชยุ หรือซุปเกลือ (ชิโอะ) ท็อปปิ้งด้วยหมูชาชู ไข่ต้มยางมะตูม และผักต่าง ๆ
3. เทปปันยากิ: สเต็กเนื้อ อาหารทะเล หรือผักต่างๆ ที่ปรุงสดๆ บนเตาร้อนๆ ต่อหน้าคุณ โดยเชฟผู้เชี่ยวชาญ พร้อมโชว์ลีลาการทำอาหารที่น่าตื่นตาตื่นใจ
4. เทมปุระ อาหารทะเลหรือผักชุบแป้งทอดกรอบ ที่มีความกรุบกรอบนอก นุ่มใน ทานคู่กับน้ำจิ้มรสเค็มหวาน
5. ยากิโทริ ไก่เสียบไม้ย่าง ที่มีให้เลือกหลากหลายส่วน ทั้งเนื้อ หนัง ตับ หรือหัวใจ ปรุงรสด้วยซอสรสเค็มหวาน ทานคู่กับเบียร์เย็นๆ คือที่สุด!
นอกจากเมนูยอดฮิตเหล่านี้ ญี่ปุ่นยังมีอาหารอร่อย ๆ อีกมากมายรอให้คุณไปค้นพบ ไม่ว่าจะเป็น ข้าวหน้าต่างๆ (ด้งบุริ) แกงกะหรี่ญี่ปุ่น โอโคโนมิยาก ทาโกะยากิ และอีกมากมาย
หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทางทั่วโลก คือระบบขนส่งสาธารณะที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดแห่งหนึ่ง ไม่ว่าคุณจะอยากไปชมซากุระบานที่เกียวโต ปีนภูเขาไฟฟูจิ หรือช้อปปิ้งสุดเหวี่ยงที่โตเกียว ก็สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายและตรงเวลา นี่คือ 3 ขนส่งสาธารณะ ที่จะทำให้คุณเดินทางได้อย่างรวดเร็วและคุ้มค่า
1. รถไฟ หัวใจหลักของการเดินทางในญี่ปุ่น คือ รถไฟ ที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ ตั้งแต่รถไฟความเร็วสูง ชินคันเซ็น ที่พาคุณซิ่งไปยังเมืองต่างๆ ด้วยความเร็วกว่า 300 กม./ชม. ไปจนถึง รถไฟท้องถิ่น ที่จะพาคุณไปสัมผัสเสน่ห์ของเมืองเล็ก ๆ และชนบทอันงดงาม
2. รถไฟใต้ดิน ในเมืองใหญ่ ๆ อย่างโตเกียวและโอซาก้า รถไฟใต้ดิน คือทางเลือกที่ดีที่สุดในการเดินทาง เพราะรวดเร็ว สะดวก และเข้าถึงทุกจุดสำคัญในเมือง แม้จะเป็นครั้งแรกที่ไปญี่ปุ่น คุณก็สามารถใช้บริการได้ง่าย ๆ ด้วยป้ายบอกทางและแผนที่ที่ชัดเจน
3. รถบัส หากคุณอยากชมวิวสวย ๆ ระหว่างทาง รถบัส ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ นอกจากนี้ ยังมี รถบัสท่องเที่ยว ที่พาคุณไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆ อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีระบบขนส่งอื่่น ๆ อื่นๆ ที่สามารถเลือกได้ตามไลฟ์สไตล์ หรือสถานที่ ที่จะไป ได้แก่ แท็กซี่ เดินทางได้สะดวกสบาย แต่มีราคาค่อนข้างสูง เหมาะสำหรับการเดินทางระยะสั้นหรือเมื่อคุณมีสัมภาระเยอะ
การปั่นจักรยาน เป็นทางเลือกที่สนุกและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการสำรวจเมืองเล็ก ๆ หรือย่านที่พักอาศัย นอกจากได้สำรวจเมือง
เดินทางด้วยเรือ หากคุณต้องการสัมผัสบรรรยากาศ แบบใหล้ชิดธรรมชาติ แม่น้ำ ลำคลอง หรือเดินทางไปยังเกาะต่าง ๆ ของญี่ปุ่นสามารถเดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่ได้เช่นกัน
คำแนะนำเพิ่มเติม ให้ซื้อบัตร Japan Rail Pass ถ้าคุณวางแผนจะเดินทางด้วยรถไฟเยอะ ๆ การซื้อบัตรนี้จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก และใช้แอปพลิเคชันนำทาง มีแอปฯ มากมายที่ช่วยวางแผนการเดินทางและค้นหาเส้นทางได้ง่าย ๆ เช่น Google Maps, Hyperdia, และ Jorudan ศึกษาเส้นทางและเวลาเดินรถล่วงหน้า พื่อให้การเดินทางของคุณราบรื่นและไม่เสียเวลา
2. เวียดนาม ฟรีวีซ่าคนไทย 30 วัน
“ซินจ่าว ก๋ามเอิน อันเกิมเชือ” เวียดนาม คือดินแดนแห่งรอยยิ้มและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ กำลังก้าวขึ้นมาเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยความหลากหลายที่ลงตัว ทั้งธรรมชาติที่สวยงามตระการตา วัฒนธรรมที่ผสมผสานอย่างลงตัว และอาหารรสเลิศที่ใครได้ลิ้มลองก็ต้องติดใจ แถมยังเป็นสวรรค์ของนักเดินทางสายประหยัด เพราะค่าครองชีพที่นี่ต่ำมาก! เคยกินข้าวจานละ 17 บาทด้วยถ้าเทียบเป็นเงินไทย รสชาติก็ถูกปาก
แนะนำ 10 คำคัพท์เวียดนามง่าย ๆ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการท่องเที่ยว ดีไม่ดีได้ลดแลกแจกแถมฉ่ำ
ถ้าคุณหลงเสน่ห์เวียดนาม นี่ 5 จุดหมายที่ต้องไปเช็คอิน
1. เมืองเก่าฮานอย ย้อนเวลาหาอดีตในย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมโคโลเนียลฝรั่งเศสสีสันสดใส ร้านค้าเก่าแก่ที่ซ่อนเรื่องราว และวัดวาอารามที่งดงาม หลงทางในตรอกซอกซอยเล็ก ๆ แล้วค้นพบร้านกาแฟเก๋ๆ หรือร้านอาหารท้องถิ่นรสเด็ด อย่าลืมแวะชมทะเลสาบคืนดาบและชมการแสดงหุ่นกระบอกน้ำที่เป็นเอกลักษณ์ของเวียดนาม
2. อ่าวฮาลอง มรดกโลกทางธรรมชาติที่งดงามตระการตา ล่องเรือชมความงามของภูเขาหินปูนรูปทรงแปลกตาที่โผล่พ้นน้ำทะเลสีเขียวมรกต สัมผัสบรรยากาศอันเงียบสงบและสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด หรือจะพายเรือคายัคสำรวจถ้ำและหมู่เกาะต่างๆ ก็เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ
3. เมืองโบราณฮอยอัน เมืองมรดกโลกที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของอดีต เดินเล่นชมบ้านเรือนเก่าแก่ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ร้านค้าขายของที่ระลึกที่เต็มไปด้วยงานฝีมือและผ้าไหมคุณภาพเยี่ยม และอย่าลืมแวะถ่ายรูปกับสะพานญี่ปุ่นอันโด่งดัง ยามค่ำคืน เมืองโบราณฮอยอันจะสว่างไสวไปด้วยโคมไฟหลากสี สร้างบรรยากาศโรแมนติกสุดๆ
4. ชายหาดญาจาง สวรรค์ของคนรักทะเล! ที่นี่คุณจะได้สัมผัสหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใส และกิจกรรมทางน้ำมากมาย ทั้งดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก พายเรือคายัค หรือจะนั่งชิลๆ ริมหาดชมพระอาทิตย์ตกดินก็ฟินไม่แพ้กัน
5. ดานัง เมืองชายฝั่งที่กำลังมาแรง มีทั้งชายหาดสวยงาม แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และสะพานมังกรสุดอลังการที่พ่นไฟและน้ำได้! นอกจากนี้ ดานังยังเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางไปยังเมืองมรดกโลกอย่างฮอยอัน และเมืองบานาฮิลล์ที่มีสวนสนุกและสะพานมือทองอันโด่งดัง
3 อันดับ อาหารเวียดนาม ลิ้มรสชาติความอร่อยที่ไม่เหมือนใคร
1. เฝอ จานเด็ดที่ใครมาเวียดนามก็ต้องลอง! เฝอคือก๋วยเตี๋ยวน้ำซุปรสชาติกลมกล่อม ที่มีให้เลือกทั้งเนื้อวัว (เฝอเนื้อ) และเนื้อไก่ (เฝอไก่) เส้นเหนียวนุ่ม น้ำซุปหอมกรุ่นจากการเคี่ยวนานหลายชั่วโมง เสิร์ฟพร้อมผักสดนานาชนิด เช่น โหระพา ผักชีฝรั่ง ถั่วงอก และใบสะระแหน่ เพิ่มรสชาติด้วยพริกสด มะนาว และซอสต่างๆ ตามชอบ ใครชอบรสจัดจ้านก็ปรุงเพิ่มได้ตามใจ
2. บั๋นหมี่ ขนมปังสไตล์ฝรั่งเศสที่ถูกนำมาปรับให้เข้ากับรสชาติเวียดนามอย่างลงตัว ขนมปังกรอบนอกนุ่มใน สอดไส้ด้วยหมูย่าง หมูหยอง ตับบด หรือไก่ย่าง ราดด้วยซอสสูตรพิเศษและเพิ่มความสดชื่นด้วยผักดองและพริกสด บั๋นหมี่เป็นอาหารที่อิ่มอร่อยและราคาไม่แพง หาซื้อได้ง่ายตามร้านข้างทางทั่วเวียดนาม
3. แหนมเนือง จริง ๆ ไม่ใช่แหนมเปรี้ยว ๆ ที่คนไทยคิดกัน แต่เป็นการเรียกเพี้ยนมาจากคำว่า แนมเนื๊อง แนมคือหมูบด ปรุงรส เป็นแท่ง ๆ คล้ายไส้กรอก เนื๊องคือเอาไปย่างหรือทอด เมนูยอดฮิตที่ใคร ๆ ก็ติดใจ หมูย่างรสชาติเข้มข้น หอมเครื่องเทศ ทานคู่กับแผ่นแป้งญวนเหนียวนุ่ม ผักสดนานาชนิด และน้ำจิ้มรสเด็ดที่ทำจากถั่วลิสงคั่ว บอกเลยว่าอร่อยจนต้องร้องขอชีวิต!
นอกจากนี้ เวียดนามยังมีอาหารอร่อย ๆ อีกมากมายที่รอให้คุณไปค้นพบ ไม่ว่าจะเป็น
- bún chả (บุ๋นจ่า) หมูย่างหอม ๆ เสิร์ฟพร้อมเส้นหมี่ น้ำจิ้ม และผักสด
- cơm tấm (เกิมเติ๋ม) ข้าวหักกับหมูย่าง ไข่ดาว และเครื่องเคียงต่าง ๆ
- gỏi cuốn (ก่อยก๋วน) ปอเปี๊ยะสดไส้กุ้ง หมู และผักสด
- bánh xèo (แบ๋งแส่ว) ขนมเบื้องญวนไส้กุ้ง หมู และถั่วงอก
- chè (แจ่) ขนมหวานเวียดนามที่มีให้เลือกหลากหลายชนิด
เคล็ดลับสายกินชาวไทย อาหารเวียดนามบางชนิดจะมีรสชาติที่จืด โดยเฉพาะทางภาคเหนือ ฮานอย แนะนำให้พก น้ำปลาขวดเล็ก น้ำจิ้มสุกี้ น้ำจิ้มซีฟู้ด ไปด้วย บางร้านจะมีเครื่องปรุงใหอยู่แล้ว เช่น พริก กระเทียม มะนาวลูกเล็กของเวียดนาม ถ้าแซบไม่พอก็พกไอเท็มไปปรุงเพิ่มได้เลย สายหิวดึกพกบะหมี่กึ่งสะเร็จรูปหรือน้ำพริกเล็ก ๆ ที่ขายตามร้านสะดวกซื้อไปด้วย เพราะที่โน่นร้านค้าปิดไวมาก 2-3 ทุ่มก็ทยอยปิดแล้ว
ระบบขนส่งในประเทศเวียดนาม
1.เครื่องบิน ถ้าคุณมีเวลาน้อย หรือต้องการเดินทางระหว่างเมืองใหญ่ ๆ ที่อยู่ห่างไกลกัน เครื่องบิน คือตัวเลือกที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด เวียดนามมีสายการบินภายในประเทศหลายแห่งให้บริการ ทั้งสายการบินแห่งชาติอย่าง Vietnam Airlines และสายการบินต้นทุนต่ำอย่าง Vietjet Air และ Bamboo Airways
2.รถไฟ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการเดินทางในเวียดนาม โดยเฉพาะเส้นทางสายเหนือ-ใต้ ที่จะพาคุณลัดเลาะไปตามชายฝั่งทะเล ชมวิวทิวทัศน์สวยๆ ของชนบทและเมืองต่างๆ รถไฟมีทั้งแบบตู้นอนและแบบนั่งธรรมดา เหมาะสำหรับนักเดินทางที่อยากสัมผัสวิถีชีวิตของชาวเวียดนามอย่างใกล้ชิด
3.รถบัส ถ้าคุณมีงบจำกัด หรืออยากสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่น รถบัส คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ และราคาไม่แพง แถมยังมีรถบัสแบบนอน (sleeper bus) ให้บริการในเส้นทางไกลๆ อีกด้วย
4.มอเตอร์ไซด์ สำหรับสายลุยที่ชอบความอิสระ การเช่ามอเตอร์ไซค์ ขับเองก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศและวิถีชีวิตของชาวเวียดนามอย่างใกล้ชิด แต่ต้องระมัดระวังในการขับขี่ และควรมีประสบการณ์ในการขับขี่มอเตอร์ไซค์มาก่อน
5.แท็กซี่ หาง่ายในเมืองใหญ่ ๆ และสะดวกสบายสำหรับการเดินทางระยะสั้นๆ หรือเมื่อคุณมีสัมภาระเยอะ แต่ควรเลือกใช้บริการจากบริษัทที่มีชื่อเสียง เพื่อความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการถูกโกงค่าโดยสาร
3. ไต้หวัน ฟรีวีซ่าคนไทย 14 วัน
ไต้หวัน ดินแดนแห่งความหลากหลายที่รอให้คุณมาสัมผัส คือเกาะเล็ก ๆ ที่อัดแน่นไปด้วยเสน่ห์อันหลากหลาย ไม่ว่าคุณจะเป็นสายธรรมชาติ สายวัฒนธรรม หรือสายกิน เที่ยวไต้หวันตอบโจทย์ทุกสไตล์! ภูเขาสูงตระหง่าน ทะเลสาบสีมรกต ป่าไม้เขียวขจี และชายฝั่งทะเลที่สวยงาม รอให้คุณมาสัมผัส ใครชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ที่นี่มีครบ! ทั้งเดินป่า ปีนเขา ขี่จักรยาน หรือจะดำน้ำดูปะการังก็ฟินสุด ๆ
ไต้หวันมีวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างจีน ญี่ปุ่น และชนพื้นเมืองได้อย่างลงตัว ทำให้เกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าค้นหา ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอารามสวยงาม ตลาดกลางคืนสุดคึกคัก หรือเทศกาลต่าง ๆ ที่มีสีสันตลอดทั้งปี ชาวไต้หวันขึ้นชื่อเรื่องความเป็นมิตรและมีน้ำใจ พวกเขายินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยรอยยิ้มและความช่วยเหลือ ทำให้คุณรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง เหมือนได้มาเยี่ยมบ้านเพื่อนสนิท
3 แลนด์มาร์คสำคัญห้ามพลาดเมื่อไปไต้หวัน
1. จิ่วเฟิ่น หมู่บ้านโบราณบนเขาที่อบอวลไปด้วยเสน่ห์และกลิ่นอายแห่งอดีต เดินเล่นชมตรอกซอกซอยแคบๆ ที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าเก่าแก่ จิบชาหอมกรุ่น พร้อมชมวิวทะเลสุดโรแมนติกยามพระอาทิตย์ตกดิน
2. ทะเลสาบสุริยันจันทรา ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน ล้อมรอบด้วยขุนเขาและผืนป่าเขียวขจี ล่องเรือชมวิวทิวทัศน์อันงดงาม หรือจะปั่นจักรยานรอบทะเลสาบก็ฟินสุดๆ
3. เกาะหลาน (嶼) เกาะเล็กๆ ทางใต้ของไต้หวัน ที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมชนเผ่าพื้นเมืองไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ดำน้ำดูปะการังสีสันสดใส ชมประเพณีการล่าปลาบิน และสัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวเกาะ
และยังมีอีกมากมาย: นอกจากสถานที่ยอดฮิตเหล่านี้ ไต้หวันยังมีธรรมชาติสวยๆ อีกเพียบ! ไม่ว่าจะเป็นอุทยานแห่งชาติหยางหมิงซาน ภูเขาอาลีซาน ชายฝั่งทะเล Yehliu Geopark และอีกมากมาย รอให้คุณไปค้นพบด้วยตัวเอง
ถ้าคุณเป็นสายกิน เที่ยวไต้หวันคือสวรรค์ของคุณ! เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องสตรีทฟู้ดอร่อย ๆ ที่มีให้เลือกละลานตาในราคาสบายกระเป๋า ไม่ว่าจะเป็นเมนูคาวหวาน หรือของทานเล่น ก็มีให้เลือกชิมจนพุงกางแน่นอน นี่คือ 5 เมนูเด็ดที่ต้องลอง
1. หมูตุ๋น (Lu Rou Fan) ข้าวสวยร้อน ๆ ราดด้วยหมูสามชั้นตุ๋นจนเปื่อยนุ่ม รสชาติเค็มหวานกลมกล่อม เป็นเมนูง่าย ๆ แต่อร่อยจนต้องเบิ้ล
2. ไก่ทอด XXL ไก่ทอดชิ้นใหญ่ กรอบนอกนุ่มใน รสชาติเข้มข้นถึงเครื่องเทศ กินเพลินจนหยุดไม่อยู่
3. ชานมไข่มุก เครื่องดื่มยอดฮิตของไต้หวัน ที่มีร้านดังให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะชอบแบบหวานน้อย หวานมาก หรือใส่ท็อปปิ้งอะไร ก็อร่อยลงตัว
4. แพนเค้กต้นหอม แป้งบางกรอบ สอดไส้ไข่และต้นหอม ทอดจนเหลืองกรอบ หอมอร่อย กินเพลินๆ ได้ทั้งวัน
5. เต้าหู้เหม็น เมนูสุดท้าทายสำหรับใครหลายคน แต่ถ้าลองแล้วจะติดใจ! เต้าหู้ทอดกรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยซอสสูตรพิเศษ รสชาติเข้มข้น หอมเครื่องเทศ
ยังมีอีกอาหารอื่น ๆ มากมายนอกจากเมนูยอดฮิตเหล่านี้ ไต้หวันยังมีสตรีทฟู้ดอร่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น หอยทอด บะหมี่เนื้อ ไส้กรอกไต้หวัน น้ำแข็งไส ไอศกรีมมะม่วง และอีกมากมาย รอให้คุณไปค้นพบและลิ้มลองด้วยตัวเอง
คำแนะนำเพื่อการสัมผัสความเป็นไต้หวันที่แท้ทรู ต้องไปตลาดกลางคืน เพราะตลาดกลางคืนคือแหล่งรวมสตรีทฟู้ดที่ดีที่สุด คุณจะได้พบกับอาหารหลากหลายชนิดในราคาที่เป็นมิตรกับกระเป๋ ลองชิมหลายๆ อย่าง อย่ากลัวที่จะลองอะไรใหม่ๆ คุณอาจจะค้นพบเมนูโปรดที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน และอย่าลืมต่อราคา บางร้านคุณสามารถต่อรองราคาได้เล็กน้อย ถ้ารู้สึกว่าราคามันแพงไป อย่าเขินที่จะลองถามดู
ด้านระบบขนส่งในไต้หวันถือว่าสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพสูงค่ะ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย มีตัวเลือกหลากหลายให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม
1. รถไฟความเร็วสูง (Taiwan High Speed Rail – THSR) เชื่อมต่อเมืองใหญ่ๆ ทางฝั่งตะวันตกของเกาะ เช่น ไทเป ไถจง และเกาสง เดินทางรวดเร็วและสะดวกสบาย เหมาะสำหรับการเดินทางระยะไกล
2. รถไฟธรรมดา (Taiwan Railways Administration – TRA) ให้บริการครอบคลุมทั่วทั้งเกาะ มีทั้งรถไฟธรรมดาและรถไฟท้องถิ่น เหมาะสำหรับการเดินทางชมวิวทิวทัศน์และสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่น
3. รถไฟฟ้าใต้ดิน (Mass Rapid Transit – MRT) ให้บริการในเมืองใหญ่ๆ เช่น ไทเป และเกาสง สะดวก รวดเร็ว และราคาไม่แพง หมาะสำหรับการเดินทางภายในเมือง
4. รถบัส มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วทั้งเกาะ มีทั้งรถบัสประจำทางและรถบัสนำเที่ย เหมาะสำหรับการเดินทางไปยังสถานที่ท่วงเที่ยวที่รถไฟอาจไม่ถึง
5. รถแท็กซี่ หาง่ายในเมืองใหญ่ๆ สะดวกสบาย แต่ราคาค่อนข้างสูง เหมาะสำหรับการเดินทางระยะสั้นหรือเมื่อต้องการความสะดวกเป็นพิเศษ
6. จักรยาน เป็นที่นิยมในเมืองใหญ่ ๆ หลายแห่งมีเลนจักรยานและบริการเช่าจักรยานสาธารณะ เหมาะสำหรับการเที่ยวชมเมืองในระยะใกล้และสัมผัสบรรยากาศท้องถิ่น
ไอเท็มเสริมและสิ่งที่นักเดินทางต้องมี
1. EasyCard บัตรเติมเงินที่ใช้กับระบบขนส่งสาธารณะส่วนใหญ่ในไต้หวัน สะดวกและประหยัด
2. Taiwan Tourist Shuttle บริการรถบัสนำเที่ยวที่เชื่อมต่อสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม
3. แอปพลิเคชัน มีแอปพลิเคชันมากมายที่ช่วยในการวางแผนการเดินทางและตรวจสอบตารางเวลา เช่น Google Maps, Taiwan Railways, Taipei Metro
4. สิงคโปร์ ฟรีวีซ่าคนไทย 30 วัน
ใครมีวันหยุดน้อย แต่อยากเที่ยวต่างประเทศแบบจัดเต็ม ต้องไม่พลาด “สิงคโปร์” ประเทศเล็ก ๆ ที่อัดแน่นไปด้วยความสนุกและความหลากหลาย บินแค่ 2 ชั่วโมงกว่า ๆ ก็ถึงแล้ว แถมยังเที่ยวได้ครบทุกสไตล์ ทั้งสายชิลล์ สายกิน สายผจญภัย หรือจะพาครอบครัวมาพักผ่อน ก็มีที่เที่ยวให้เลือกเพียบ!
สิงคโปร์อาจเป็นประเทศเล็กๆ แต่เรื่องที่เที่ยวบอกเลยว่าไม่เล็กตาม! ไม่ว่าคุณจะชอบธรรมชาติ สวนสนุก ช้อปปิ้ง หรือประวัติศาสตร์ ที่นี่มีครบจบในที่เดียว แถมเดินทางสะดวกสุดๆ อีกด้วย
6 แลนด์มาร์คห้ามพลาด
1.Gardens by the Bay สวนพฤกษศาสตร์สุดอลังการที่ไม่ควรพลาด! เดินเล่นชม Flower Dome โดมดอกไม้ขนาดใหญ่ที่มีพืชพรรณจากทั่วโลก หรือจะตื่นตาตื่นใจไปกับ Supertree Grove ต้นไม้ยักษ์ประดิษฐ์ที่สูงตระหง่าน ยิ่งตอนกลางคืนมีการแสดงแสงสีเสียงยิ่งสวยงามเข้าไปใหญ่
2.Marina Bay Sands โรงแรมหรูหรา สัญลักษณ์ของสิงคโปร์ ที่มีสระว่ายน้ำอินฟินิตี้พูลบนชั้นดาดฟ้า วิวเมืองแบบ 360 องศา คือที่สุด! แถมยังมีคาสิโน ร้านอาหาร และแหล่งช้อปปิ้งครบครัน
3.Sentosa Island เกาะสวรรค์ของคนรักความสนุก! ที่นี่มีทั้ง Universal Studios Singapore สวนสนุกระดับโลก S.E.A. Aquarium พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และชายหาดสวยๆ ให้คุณได้พักผ่อนหย่อนใจ
4.Chinatown ย่านเมืองเก่าของชาวจีนที่เต็มไปด้วยสีสันและกลิ่นอายวัฒนธรรม เดินเล่นชมวัดวาอารามเก่าแก่ แวะชิมอาหารอร่อยๆ ที่มีให้เลือกหลากหลาย หรือจะซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านก็ได้
5.Little India ย่านที่มีสีสันของชาวอินเดีย เดินเล่นชมร้านค้าขายเครื่องเทศและผ้าสวยงาม หรือจะแวะทานอาหารอินเดียรสจัดจ้านก็ได้
6.Orchard Road: ถนนช้อปปิ้งชื่อดังของสิงคโปร์ ที่นี่มีห้างสรรพสินค้าและร้านค้าแบรนด์เนมมากมายให้คุณได้ช้อปปิ้งจนกระเป๋าฉีก!
สิงคโปร์ไม่ได้มีดีแค่ตึกสูงระฟ้าและสวนสวย ๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นสวรรค์ของนักชิม ที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยจากหลากหลายวัฒนธรรม ทั้งอาหารท้องถิ่นรสเด็ด อาหารจีนต้นตำรับ อาหารมาเลย์รสจัดจ้าน และอาหารอินเดียกลิ่นหอมกรุ่น เตรียมท้องให้พร้อม แล้วไปตะลุยกินของอร่อย 5 อันดับกันเลย!
1.ข้าวมันไก่ จานเด็ดประจำชาติสิงคโปร์ ไก่เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟพร้อมข้าวมันหอมๆ และน้ำจิ้มรสเด็ด ใครมาสิงคโปร์ต้องไม่พลาด!
2.ลักซา ก๋วยเตี๋ยวเส้นหนานุ่มในน้ำซุปกะทิรสเผ็ดเข้มข้น ใส่กุ้ง หอยแครง เต้าหู้ทอด และไข่ต้ม เป็นเมนูฟิวชั่นที่ผสมผสานรสชาติจีนและมาเลย์ได้อย่างลงตัว
3.ชิลลี่แครป ปูตัวโต ๆ ผัดซอสพริกเผ็ดหวาน เนื้อปูสดหวานเข้ากันได้ดีกับซอสเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมหมั่นโถวทอด เป็นเมนูที่ต้องลอง!
4.โรตีปราตา โรตีแผ่นบางกรอบ ทานคู่กับแกงกะหรี่รสเข้มข้น เป็นอาหารเช้าหรือของว่างยอดนิยมของชาวสิงคโปร์
5.คายา โทสต์ (Kaya Toast) ขนมปังปิ้งกรอบๆ ทาด้วยสังขยาใบเตยหอมหวานและเนย เป็นเมนูง่ายๆ แต่อร่อยจนต้องขอเบิ้ล
นอกจากเมนูยอดฮิตเหล่านี้ สิงคโปร์ยังมีอาหารอร่อยๆ อีกเพียบ! ไม่ว่าจะเป็น บักกุ๊ดเต๋, ข้าวหมกไก่, สะเต๊ะ โรจัก, Nasi Lemak และอีกมากมาย รอให้คุณไปค้นพบและลิ้มลองด้วยตัวเอง
เคล็ด(ไม่)ลับสำหรับสายกินสายช้อป ต้องไป Hawker Center, Hawker Center ที่นี่คือศูนย์อาหารขนาดใหญ่ ที่รวบรวมร้านอาหารท้องถิ่นอร่อยๆ ไว้มากมาย ในราคาเป็นมิตรกับกระเป๋า ลองชิมอาหารจากร้านรถเข็น สตรีทฟู้ดสิงคโปร์ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยและราคาถูก ลองเปิดใจและสัมผัสประสบการณ์การกินแบบท้องถิ่นดู และอย่าลืมดื่มน้ำมะพร้าว ดับกระหายคลายร้อน ที่มีขายทั่วไปในสิงคโปร์
ด้านระบบขนส่งสาธารณะของสิงคโปร์ขึ้นชื่อว่าดีเยี่ยมและปลอดภัยสูง ไม่ว่าคุณจะอยากไปไหน ก็สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายและอุ่นใจ
ที่นี่ MRT (รถไฟฟ้าใต้ดิน) เป็นหัวใจหลักของการเดินทางในสิงคโปร์ ที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วเกาะ ทำให้การเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เป็นเรื่องง่าย แค่มีบัตร EZ-Link ก็แตะเข้า-ออกได้สบายๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องซื้อตั๋วหลายรอบ
รถบัส เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยให้คุณประหยัดงบ แถมยังมีเส้นทางให้เลือกเยอะมาก ครอบคลุมพื้นที่ที่ MRT อาจเข้าไม่ถึง แนะนำให้โหลดแอปฯ Moovit มาช่วยวางแผนการเดินทาง จะได้ไม่หลงทาง
แท็กซี่ ถ้าการเดินทางด้วยอยากเดินทางแบบส่วนตัว หรือมีสัมภาระเยอะ แท็กซี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ราคาก็จะสูงกว่า MRT หรือรถบัสพอสมควร
สิงคโปร์มีค่าครองชีพค่อนข้างสูง ควรวางแผนงบประมาณให้ดี เลือกพักโฮสเทลหรือโรงแรมราคาประหยัด และลองหาอาหารอร่อย ๆ ใน Hawker Center ที่ราคาไม่แพง ที่สำคัญคือ ที่นี่มีกฎหมายที่เข้มงวด ควรศึกษาข้อมูลก่อนเดินทาง เช่น ห้ามทิ้งขยะไม่เป็นที่ ห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ และห้ามนำหมากฝรั่งเข้าประเทศ
5. เกาะบาหลี อินโดนีเซีย ฟรีวีซ่าคนไทย 30 วัน
บาหลี ขึ้นชื่อว่าเป็น เกาะสวรรค์แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เที่ยวครบรส ทั้งสายชิลล์ สายผจญภัย และสายบุญ บาหลี ไม่ได้เป็นแค่เกาะสวยในอินโดนีเซีย แต่เป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยความหลากหลายที่ลงตัว ทั้งชายหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าใส ภูเขาไฟตระการตา วัดวาอารามอันศักดิ์สิทธิ์ และวัฒนธรรมฮินดูที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายไหน บาหลีก็พร้อมมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้คุณ
บาหลีค่าครองชีพไม่แพง ทั้งที่พัก อาหาร และสินค้าต่าง ๆ มีราคาหลากหลาย เหมาะสำหรับนักเดินทางทุกงบประมาณ ไม่ว่าจะแบ็คแพ็คเกอร์หรือนักท่องเที่ยวสายหรู ก็เที่ยวบาหลีได้สบาย ๆ ชาวบาหลีขึ้นชื่อเรื่องความเป็นมิตรและยิ้มแย้มแจ่มใส คุณจะรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเองตลอดการเดินทาง
7 จุดเช็คอินห้ามพลาด
1. อูบุด (Ubud) ใจกลางศิลปะและวัฒนธรรมของบาหลี ที่นี่คุณจะได้สัมผัสวิถีชีวิตแบบบาหลีแท้ๆ เดินเล่นในป่าลิง Ubud Monkey Forest ที่มีลิงแสมกว่า 600 ตัวอาศัยอยู่ ชมนาข้าวขั้นบันได Tegallalang ที่เขียวขจีสุดลูกหูลูกตา และเยี่ยมชมวัดวาอารามสวยงาม เช่น วัด Saraswati และ Pura Gunung Lebah
2. กูตา (Kuta) เมืองชายหาดสุดฮิตที่ไม่เคยหลับใหล! ที่นี่มีหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใส และคลื่นลูกใหญ่ เหมาะสำหรับการเล่นเซิร์ฟ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร บาร์ และแหล่งช้อปปิ้งมากมายให้เลือกสรร ใครชอบความคึกคักและแสงสี ต้องมาที่นี่เลย!
3. เซมินยัก (Seminyak) หากคุณมองหาความหรูหราและความสงบ เซมินยักคือคำตอบ! ที่นี่มีชายหาดที่สวยงามและเงียบสงบกว่ากูตา พร้อมด้วยร้านอาหาร บาร์ และร้านค้าสุดชิคมากมาย ให้คุณได้พักผ่อนและดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดเอ็กซ์คลูซีฟ
4. นูซา ดูอา (Nusa Dua) เมืองตากอากาศที่หรูหราและเงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนและฮันนีมูน ที่นี่มีชายหาดส่วนตัวของโรงแรมหรูหลายแห่ง สนามกอล์ฟระดับโลก และกิจกรรมทางน้ำต่างๆ ให้คุณได้เพลิดเพลิน
5. ทานาห์ ล็อต (Tanah Lot) วัดฮินดูที่ตั้งอยู่บนโขดหินกลางทะเล เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่โด่งดังที่สุดของบาหลี ชมความงามของวัดและวิวพระอาทิตย์ตกดินสุดอลังการที่จะทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืม
6. ภูเขาไฟบาตูร์ (Mount Batur) ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ เหมาะสำหรับนักผจญภัยที่ต้องการปีนเขาและชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามเหนือทะเลหมอก
7. นาข้าวขั้นบันได Tegallalang สัมผัสความงดงามของนาข้าวขั้นบันไดที่เขียวขจีสบายตา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของบาหลี เดินเล่นชมวิว ถ่ายรูปสวยๆ หรือจะนั่งจิบกาแฟชมวิวก็ฟินสุด ๆ
บาหลี ไม่ได้มีดีแค่ธรรมชาติและวัฒนธรรม แต่ยังเป็นสวรรค์ของนักชิมอีกด้วย! อาหารบาหลีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผสมผสานรสชาติและวัตถุดิบจากท้องถิ่นได้อย่างลงตัว ไม่ว่าคุณจะเป็นสายไหน ก็ต้องหลงรักอาหารบาหลีแน่นอน!
ลิ้มรส 4 อาหารบาหลีต้นตำรับ
1.Nasi Campur จานเด็ดที่รวมความอร่อยไว้ในจานเดียว ข้าวสวยร้อนๆ เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงหลากหลาย ทั้งไก่สะเต๊ะ หมูทอดกรอบ ผักผัด และไข่ดาว รสชาติกลมกล่อมลงตัว ใครชอบความหลากหลายต้องลอง!
2.Sate Lilit สะเต๊ะสไตล์บาหลีที่ไม่เหมือนใคร เนื้อสัตว์บดละเอียดผสมเครื่องเทศ ปั้นเป็นแท่งยาวแล้วนำไปย่างบนก้านตะไคร้ กลิ่นหอมชวนน้ำลายสอ รสชาติเข้มข้นถึงเครื่องเทศ
3.Babi Guling หมูหันบาหลีที่ย่างทั้งตัวจนหนังกรอบ เนื้อนุ่มละลายในปาก หมักด้วยเครื่องเทศสูตรพิเศษ ทำให้มีกลิ่นหอมและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ใครชอบหมูหันต้องไม่พลาด!
4.Lawar สลัดบาหลีรสจัดจ้าน ทำจากเนื้อสัตว์สับ ผัก และเครื่องเทศหลากชนิด รสชาติเผ็ดร้อนถึงใจ เหมาะสำหรับคนที่ชอบอาหารรสจัด 5.Jimbaran Seafood: สัมผัสบรรยากาศสุดโรแมนติกริมชายหาด Jimbaran พร้อมลิ้มรสอาหารทะเลสดๆ ที่ย่างบนเตาถ่าน กุ้ง หอย ปู ปลา สดหวานอร่อย คู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด
และยังมีอาหารท้องถิ่นอีกมากมาย! อาทิ
- Nasi Goreng ข้าวผัดสไตล์อินโดนีเซีย รสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นกระทะ
- Mie Goreng บะหมี่ผัดสไตล์อินโดนีเซีย อร่อยไม่แพ้ข้าวผัด
- Gado-gado สลัดผักราดซอสถั่วเข้มข้น อร่อยและดีต่อสุขภาพ
- Pisang Goreng กล้วยทอดกรอบนอกนุ่มใน ทานคู่กับไอศกรีมก็เข้ากันได้ดี
เคล็ดลับสายกิน อย่าพลาดโอกาสในการลองอาหารท้องถิ่นของบาหลี ที่มีรสชาติและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ลองเดินสำรวจตลาดและร้านอาหารริมทาง คุณจะได้พบกับอาหารอร่อย ๆ ในราคาที่เป็นมิตรกับกระเป๋า เปิดใจลองอาหารใหม่ ๆ บาหลีมีอาหารหลากหลายสไตล์ให้เลือกสรร อย่ากลัวที่จะลองอะไรใหม่ ๆ คุณอาจจะค้นพบเมนูโปรดที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
ด้านการเดินทางในบาหลี จะค่อนข้างมีตัวเลือกไม่เยอะเหมือนกับที่อื่น
1. รถเช่า ถ้าอยากเที่ยวบาหลีแบบอิสระ ไปไหนก็ได้ตามใจ รถเช่าคือคำตอบ! แต่เตรียมใจไว้เลยว่าการจราจรในบางพื้นที่ โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวยอดฮิต อาจจะติดขัดหน่อยนะ แนะนำให้เผื่อเวลาเดินทางไว้เยอะๆ หรือเลือกใช้บริการรถเช่าพร้อมคนขับก็สะดวกดี
2. มอเตอร์ไซค์ สำหรับสายลุยที่ชอบความคล่องตัว มอเตอร์ไซค์คือเพื่อนคู่ใจ! ซอกแซกไปได้ทุกซอกทุกมุม แถมยังประหยัดงบอีกด้วย แต่ต้องระวังเรื่องความปลอดภัยกันด้วยนะ สวมหมวกกันน็อคทุกครั้ง และขับขี่ด้วยความระมัดระวัง
3. แท็กซี่ ถ้าไม่อยากขับเอง แท็กซี่ก็เป็นตัวเลือกที่สะดวกสบาย แต่ก่อนขึ้นรถ อย่าลืมต่อราคากันให้เรียบร้อย หรือจะเลือกใช้บริการเรียกรถผ่านแอปฯ อย่าง Grab หรือ Gojek ก็ได้ สะดวกและราคาแน่นอน
4. รถบัส บาหลีมีรถบัสสาธารณะให้บริการ แต่เส้นทางและตารางเวลาอาจจะไม่แน่นอนเท่าไหร่ เหมาะสำหรับคนที่ใจเย็นและมีเวลาเหลือเฟือ
ข้อควรรู้ก่อนไปบาหลี ช่วง High Season คนเยอะนะ ถ้าไปช่วงกรกฎาคม-สิงหาคม หรือธันวาคม-มกราคม เตรียมใจไว้เลยว่านักท่องเที่ยวจะเยอะมาก ควรจองที่พักและตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าจะดีที่สุด
สภาพอากาศแบบอากาศร้อนชื้น คนเป็นภูมิแพ้ต้องระวัง บาหลีมีสภาพอากาศแบบร้อนชื้นตลอดปี อย่าลืมพกครีมกันแดด หมวก ร่ม และเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี
ต้องเคารพวัฒนธรรมท้องถิ่น เวลาเข้าวัด ควรแต่งกายสุภาพ ไม่สวมเสื้อผ้าที่เปิดเผยเกินไป และไม่ควรสัมผัสศีรษะของผู้อื่น เพราะถือเป็นการไม่สุภาพ
เอเชียยังมีอีกหลายประเทศที่รอให้คุณไปค้นพบ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายชิลล์ สายผจญภัย หรือสายกิน ก็มีประเทศที่เหมาะกับสไตล์ของคุณรออยู่ เพียงแค่เตรียมตัวให้พร้อม วางแผนการเดินทางให้ดี แล้วออกไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้นในดินแดนเอเชียกันเลย!
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- รีวิว 15 น้ำตกใกล้กรุงเทพ แจกพิกัด แพลนเที่ยวได้ทุกวันหยุด
- รีวิว โรงแรมเซ็นทารา อยุธยา ที่พัก Pet Friendly วิวหลักล้าน รูฟท็อปบาร์สุดหรู
- สร้างความทรงจำสุดประทับใจกับครอบครัวด้วย “Family Getaway Package” ที่ โฟร์พอยท์ส บาย เชอราตัน ภูเก็ต ป่าตอง บีช รีสอร์ท
