ผัวสุดช้ำ เมียคบชู้ 5 คน ล่าสุดเป็นทนายจ้างมาฟ้องหย่า แถมแฟนชู้ส่งคลิปกอดจูบแฉ เครียดจนคิดจบชีวิต
ผู้ช่วยพยาบาล เล่าทั้งจุกอกถูกภรรยวัย 29 ปี นอกใจ แอบคบชู้ชายอื่นอีก 5 คน บัดสีแฟนชู้คนที่สามส่งรูปส่งคลิปกอดจูบมาฟ้อง รับเครียดถึงขั้นคิดจบชีวิต เคราะห์ดี พ่อตาแม่ยายกับแม่ห้ามทัน
เรื่องราวสุดเจ็บปวดหัวใจซึ่งเกิดขึ้นกับผู้ชายคนหนึ่งชื่อ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 27 ปี มีอาชีพเป็นผู้ช่วยพยาบาลโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เดินทางมาพร้อมกับพ่อตาและแม่ยายเพื่อเข้ามาขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังภรรยา อายุ 29 ปี อยู่กินกันมากว่า 7 ปี มีพยานรักลูกสาววัย 3 ขวบหนึ่งคน แอบนอกใจไปคบหามีสัมพันธ์ลับ ๆ กับชายอื่นกระทั่งตั้งท้องแต่แทนที่จะรู้สึกผิดปรากฎฝ่ายหญิงกลับเอาลูกที่เกิดกับสามีไปอยู่ด้วยกับกับชายคนใหม่ ซึ่งฝ่ายเอ สามีผู้สียหายยืนกรานชัดเจนต้องการฟ้องชู้ และขอสิทธิ์เลี้ยงดูลูกแต่เพียงผู้เดียว
เรื่องราวทั้งหมดนายเอเล่าคบกับแฟนมาตั้งแต่ปี 2560 จดทะเบียนสมรสกันปี 2562 และแต่งงานกันในปีถัดมา โดยฝ่ายหญิงมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปช่วงหลังจดทะเบียนฯ ประมาณปลายปี 62 จับได้ว่ามีชู้คนแรกและเป็นคนรู้จักของนายเอเองด้วย
ต่อมาปี 2563 ภรรยาไปทำงาน ส่วนฝ่ายชายเป็นคนเลี้ยงลูกและก็มาจับได้ว่ามีชู้คนที่ 2 หลังจากไปทำงานแล้วฝ่ายหญิงนิสัยเปลี่ยนเป็นเป็นคนละคน
สองครั้งที่ต้องรับรู้เรื่องเมียแอบปันใจ นายเอ ยอมรับเสียใจมากแต่ทนอยู่เพราะลูก ทว่าแทนที่อะไร ๆ จะดีขึ้นปรากฎตัวเองกลับต้องมาเจอปัญหาเดิม ๆ ซ้ำอีก
คราวนี้หนักถึงขั้นที่แฟนของชู้คนที่ 3 ส่งรูปและคลิป ลักษณะ กอด จูบ และนอนด้วยกัน ระหว่างแฟนตัวเองและชู้ และภาพถุงยางอนามัยมาให้ โดยเหตุเกิดช่วงตุลาคม 64
พอทราบเรื่อง “เอ” ยอมรับว่าเครียดมาก ตอนนั้นถึงขั้นไปร่ำลาลูกสาว พ่อตาแม่ยาและแม่ของตัวเอง หวังจะไปจบชีวิตที่สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เคราะห์ดีที่พ่อตาแม่ยายและแม่มาห้ามทัน
พิรุธคบชู้คนที่ 4 กับคนที่ 5 ฝ่ายหนึ่งเป็นหมอ อีกฝั่งรับบททนาย
เหตุการณ์ดำเนินมาถึงธันวาคม 2565 ภรรยาของนายเอก็ยังไม่เลิกพฤติกรรมแบบเดิม หนนี้หนักข้อถึงขั้นที่ภรรยาจ้างทนายความมาพูดคุย พอถามจะฟ้องหย่าเรื่องอะไร ภรรยาก็อ้างว่า นายเอที่เป็นนสามีคุกคามทางเพศลูกสาว ซึ่งทำให้ฝ่ายของสามี คือนายเอไม่พอใจมากเนื่องจากเลี้ยงดูลูกมาตั้งแต่เด็กจนโต
นอกจากนี้คนเป็นสามียังสงสัยชายที่มาช่วยเรื่องฟ้องหย่า เป็นนักกฎหมายจริงหรือไม่ เพราะพอไปหาประวัติกลับไม่พบข้อมูลใด ๆ กระทั่งกุมภาพันธ์ ปี 67 พ่อกับแม่ของแฟนเห็นว่าแฟนพาทนายคนนี้ มานอนที่บ้าน สามีก็ตกใจ และช่วงมีนาคมซึ่งเป็นช่วงวันเกิดของนายเอก็ดันเห็นว่าแฟนไปเที่ยวเมืองจีนกับชู้คนที่ 5 ถ่ายรูปลงโซเชียลกันอย่างเปิดเผยทั้งที่ยังไม่ได้จดทะเบียนหย้าร้าง แถมเอาลูกไปอยู่ที่บ้านของชู้คนที่ 5 ซึ่งฝ่ายชายพยายามขอพบลูกแต่ก็ถูกกีดกัน รวมถึงพ่อตาแม่ยายก็ถูกกีดกันไม่ให้พบหลาน
นายเอยืนยันภรรยาเป็นคนพูดว่า อย่ามายุ่งกับเธอและครอบครัวใหม่ ส่วนตายายแอบไปดูหลานก็ถูกข่มขู่-กีดกัน อีกฝ่ายอ้างรู้จักกับคนใหญ่คนโตใน จ.อยุธยา และผู้กำกับ สน. ในกรุงเทพฯ ทำให้ตนเองและพ่อตาแม่ยาย รู้สึกกลัวและกังวล
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ภรรยาโทรมาหาพ่อแม่บอกถูกชู้คนที่ 5 ทำร้าย เนื่องจากถูกจับได้ว่าไปมีชู้อีกคนซ้อนกัน ซึ่งเป็นชู้คนที่ 4 มีตำแหน่งเป็น “อาจารย์หมอ” ทำให้คนที่ 5 ระแวงและทำร้าย ตอนนี้แฟนก็ท้องกับชู้คนที่ห้าที่เป็นคนล่าสุดได้ 2 เดือน
ฝ่ายสามีสารภาพนอกจากต้องมาปวดใจกับการกระทำของอีกฝ่าย เจ้าตัวยังเจอผลกระทบเรื่อง “ค่าบ้าน” ที่แฟนไปกู้ธนาคาร 2.5 ล้านบาท แต่ช่วงหลังขาดส่ง 4-5 งวด นายเอต้องวางเงินส่วนตัว 80,000 บาท เพื่อจ่ายค่างวดบ้าน เพราะกลัวถูกยึดบ้าน จนตอนนี้ไม่จ่ายค่างวดบ้านแล้วตัดสินใจจะปล่อยให้ทางกฎหมายดำเนินการเพราะแฟนเอาเงินที่กู้และที่เหลืออยู่ไปใช้ส่วนตัวแล้ว
ผู้เสียหายย้ำชัดต้องการให้ช่วยเหลือเรื่องของการฟ้องชู้ เพราะต้องการดูแลบุตรแต่เพียงผู้เดียว อีกทั้งชู้คนล่าสุดยังมีพฤติกรรมข่มขู่ อ้างรู้จักกับคนใหญ่คนโต ซึ่งฝ่ายสามีกลัวเรื่องความไม่ปลอดภัย ขณะที่พ่อตาและแม่ยาย ระบุจากการพูดคุยกับลูกสาวต้องการเลิกทั้งชู้คนที่ 5 และนายเอ อยากเป็นอิสระกับทุกคน และออกมาเลี้ยงลูกคนเดียว ส่วนที่ออกมาร้องสายไหม พร้อมกับลูกเขยเพราะสงสารหลานและสงสารลูกเขยที่ต้องมาตกอยู่ในสภาพนี้.
อ่านข่าวเพิ่มเติม