ปปง.ยึดอายัดเรือฟินิกซ์แล้ว เตรียมพิจารณาขายทอดตลาด
ภูเก็ต – ปปง.ยึดอายัดเรือฟินิกซ์แล้ว เตรียมพิจารณาขายทอดตลาด เตรียมแถลงปิดคดีร่วมกับทางการจีนเร็วๆนี้ ชัดเจนแล้วเรือต่อไม่ได้มาตรฐาน ทำจีนตาย 47 ศพ
พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีเรือฟินิกซ์ล่ม เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีเรือฟินิกซ์ล่ม ที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิต 47 ราย ว่า ภายหลังที่มีการกู้เรือฟินิกซ์ขึ้นมาจากใต้ท้องทะเล ห่างจากเกาะเฮ จ.ภูเก็ต 2 ไมล์ทะเล และได้ลากจูงมาขึ้นคานที่รัตนชัยคานเรือ
ทางพนักงานสอบสวน รวมถึงผู้เชี่ยวชาญจากประเทศเยอรมันและประเทศจีน ได้เข้าเก็บพยานหลักฐานและทำการวิเคราะห์หาสาเหตุที่ทำให้เรือฟินิกซ์ล่มเสร็จทั้งหมดแล้วในขณะนี้ ซึ่งผลการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญและพยานหลักฐานต่างๆ ที่ตรวจพบ ตรงกับที่ทางพนักงานสอบสวนได้ส่งฟ้องร้องต่อศาลไปแล้วทั้งนั้น โดยพยานหลักฐานต่างๆที่จัดเก็บได้จากเรือฟินิกซ์ส่งเพิ่มเติมไปยังอัยการ เพื่อส่งให้ศาลพิจาณาต่อไป และหลักฐานที่เก็บได้จะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีเป็นอย่างมาก
รอง ผบ.ตร.กล่าวเพิ่มว่า ภายหลังจากที่พนักงานสอบสวนและผู้เชี่ยวชาญได้ทำการตรวจสอบเรือฟินิกซ์แล้วเสร็จ ได้มีการนำข้อมูลทั้งหมดไปพูดคุยกับทางกงสุลจีนแล้ว และทางกงสุลจีนก็มีความเชื่อมั่นในการทำงานและการตรวจสอบเรือของทางฝ่ายไทย ที่ทำงานร่วมกับทางฝ่ายจีน และผู้เชี่ยวชาญการต่อเรือจากเยอรมัน ซึ่งหลังจากนี้จะมีการนัดแถลงข่าวปิดคดีกับทางกงสุลจีนที่จังหวัดภูเก็ตอีกครั้งหนึ่งในเร็วๆนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวจีน ภายหลังเกิดเหตุเรือล่ม
ส่วนตัวเรือฟินิกซ์ที่ขณะนี้ขึ้นคานอยู่ที่รัตนชัยคานเรือนั้น พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ยึดอายัดเรือลำดังกล่าวไว้แล้ว เนื่องจากตัวเรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับฐานความผิด และภายหลังจากที่มีการตรวจสอบพยานหลักฐานแล้วเสร็จ
ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้แจ้งให้ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) เข้ามาดำเนินการมูลฐานความผิด คือ อายัดเรือลำนี้ไว้อยู่ในการดูแลของ ป.ป.ง.เพราะหลังจากนี้เรือลำดังกล่าวจะเข้าสู่การดำเนินการตามกฎมหาย ป.ป.ง.แล้ว ซึ่งทาง ป.ป.ง.กำลังพิจารณาว่าจะดูว่ารักษาอย่างไร หรืออจะขายทอดตลาดเพื่อรักษาระดับราคาของเรือไว้ เพราะหากเก็บไว้นานเรือจะเสื่อมสภาพและค่าเช่าคานเรือในการเก็บรักษาก็สูงอีกด้วย
ส่วนการแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องนั้น ก่อนหน้านี้ดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต ในขณะนั้นไปแล้ว ส่วนจะแจ้งความเอาผิดเจ้าหน้าที่ของรัฐอีกหรือไม่นั้น จะมีการดำเนินการอย่างแน่นอนตามพยานหลักฐานที่มี
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของพนักงานสอบสวนและผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อเรือทั้งไทย เยอรมัน และจีน ระบุว่าเรือฟินิกต่อไม่ได้มาตรฐาน เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรือล่ม ที่นอกเหนือจากคลื่นขนาดใหญ่ที่ซัดใส่ตัวเรือ โดยไม่ได้มาตรฐานตั้งแต่พิมพ์เขียวเรือ ไปจนถึงการต่อที่ไม่ได้มาตฐาน ไม่มีความสมดุลจนต้องนำแท่งซีเมนต์ไปถ่วงไว้ใต้ท้องเรือ เครื่องยนต์ ประตูผนึกน้ำ และอ่างซากูซี่บนดาดฟ้าเรือ เป็นต้น