สองนักท่องเที่ยวลักลอบตกปลา ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เจ้าหน้าที่เร่งล่าตัว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากกรณีเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2567 มีนักท่องเที่ยวชายหญิงนั่งตกปลาอยู่ที่บริเวณทุ่งกวาง ริมถนนธนะรัชต์ ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยมีชาวเน็ตตาดีจับภาพได้ โพสต์รูปลงเฟซบุ๊ก พร้อมระบุแคปชั่นว่า “ชิล ๆ วันเสาร์ ตกปลาหน่อย ณ ทุ่งกวาง 555 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่”
ล่าสุด วันที่ 2 กันยายน 2567 เพจเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ – Khao Yai National Park ได้ออกมาตำหนิและชี้แจงว่า การกระทำของนักท่องเที่ยวทั้งสองคนนั้นเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จากเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นการกระทำความผิดตามพรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 19 ภายในอุทยานแห่งชาติ ห้ามมิให้เข้าไปดำเนินกิจการเพื่อหาประโชยน์ ล่าสัตว์หรือรำเครื่องมือจับสัตว์เข้าไปภายในอุทยานแห่งชาติ ทางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ไม่ได้นิ่งนอนใจ ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามผู้กระทำความผิดเพื่อมารับทราบความผิดและดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
“ทำแบบนี้ ไม่น่ารักเลยนะคะ… จากภาพเหตุการณ์ดังกล่าว(วันที่ 31 สิงหาคม 2567) กรณีมีนักท่องเที่ยวสองรายนั่งตกปลาอยู่แหล่งน้ำ บริเวณทุ่งกวาง ถือเป็นกระทำความผิดตาม พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 19 ภายในอุทยานแห่งชาติ ห้ามมิให้บุคคลใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด
(๓) ล่อหรือนำสัตว์ป่าออกไปหรือกระทำให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการใด ๆ
(๖) เข้าไปดำเนินกิจการใด ๆ เพื่อหาผลประโยชน์
(๗) นำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใด ๆ เข้าไป
ซึ่งอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ไม่ได้นิ่งนอนใจ ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามผู้กระทำความผิดเพื่อมารับทราบความผิดและดำเนินการตามกฏหมายต่อไป…”
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เคยมีนักท่องเที่ยวคนใดกล้ากระทำพฤติกรรมเช่นนี้มาก่อน ถือเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบของอุทยานฯ ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่มีหลักฐานคือ รถยนต์ที่ขับเข้ามาในเขตอุทยานฯ นั้นเห็นเลขป้ายทะเบียนชัดเจน ณ ขณะนี้ กำลังเร่งตามตัวนักท่องเที่ยวทั้งสองมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะอ้างว่าไม่รู้ข้อกฎหมายไม่ได้ เนื่องจากการลักลอบตกปลานั้นส่งผลเสียต่อระบบนิเวศในธรรมชาติ
ภาพจาก Facebook : อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ – Khao Yai National Park
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คำทำนาย หลวงปู่ศิลา เตือนกรุงเทพจะน้ำท่วม ต้องอพยพไปอยู่เขาใหญ่
- หนุ่มตกปลา หวิดโดนฉุด เจอสาวสองแก้ผ้าริมน้ำ ชวนลวกก๋วยเตี๋ยว
- สาวช็อกเจอ ‘เบ็ดตกปลา’ ในอาหาร อึ้งยิ่งกว่า เจ้าของร้านอ้าง “เป็นเรื่องปกติ”
