สภาตีตกญัตติ สอบจริยธรรมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ชี้มีเรื่องอื่นด่วนกว่า
วุฒสิภาตีตก คำร้องญัตติสอบจริยธรรมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรณี อุดม พูดเย้ยพรรคก้าวไกล ที่ประชุมชี้มีเรื่องอ่วนที่ด่วนกว่า
จากที่ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เพื่อขอให้วุฒิสภามีการตรวจสอบจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หลังมีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนหนึ่ง แสดงความเห็นบนเวทีสาธารณะในเชิงส่อเสียด เย้ยหยันพรรคการเมืองที่ถูกยุบ หรือกรณีที่ นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “ยุบปั๊บ เอ้า ไปเปิดพรรคใหม่ได้ เอ้า ไม่ข้องใจแล้วหรือ? เมื่อวานร้องไห้อยู่ พรรคเราจะไปแล้ว อย่างนู้นอย่างนี้ โอ้ สองวันเลิก จากน้ำตาเป็นเสียงหัวเราะ ยักไหล่แล้วไปต่อ เงิน 20 ล้าน” เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานั้น
ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว ถูกสารธารณชนตั้งคำถามถึงการแสดงออกของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จึงขอให้วุฒิสภาได้พิจารณาเป็นเรื่องด่วน พร้อมให้ที่ประชุมลงมติส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้ทำการตรวจสอบจริยธรรมกันเองของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
โดยนายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. ได้ลุกขึ้นอภิปราย เพื่อตั้งข้อสังเกตว่า ญัตติที่น.ส.นันทนา เสนอเป็นเรื่องด่วนจริงหรือไม่ ตนเห็นว่าเรื่องด่วนในตอนนี้ คือ เรื่องของประชาชนที่ประสบอุทกภัย จึงเห็นว่าญัตติดังกล่าวไม่เหมาะสม เนื่องจากเป็นการพาดพิงบุคคลภายนอก และหากน.ส.นันทนา ต้องการจะตรวจสอบอย่างถูกต้องจริงๆ ควรไปยื่นตรวจสอบตามกรรมกรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
เช่นเดียวกับ นายอลงกต วรกี สว. อภิปรายเห็นว่า กรณีที่กรรมการองค์กรอิสระหรือตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ควรไปยื่นเรื่องตรวจสอบกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ด้านพล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย สว. อภิปรายว่า ญัตติที่ น.ส.นันทนา เสนอนั้น สส.ได้เสนอเรื่องโดยตรงต่อสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว และเห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องด่วน ยังมีเรื่องเร่งด่วนมากกว่านี้ และไม่ควรไปพาดพิงถึงบุคคลภายนอก
ขณะที่นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว. อภิปรายเห็นว่า ญัตติตามที่ น.ส.นันทนา เสนอเป็นเรื่องด่วน และวุฒิสภาควรใช้ดุลยพินิจให้ทุกญัตติที่มีการเสนอมาเป็นเรื่องด่วน เพื่อให้วุฒิสภาได้อภิปรายตรวจสอบ โดยเฉพาะกรรมการองค์กรอิสระ ที่วุฒิสภาเป็นผู้แต่งตั้งกรรมการองค์กรอิสระ
ทั้งนี้ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา ได้วินิจฉัยให้น.ส.นันทนา เสนอญัตติด่วนได้ แต่ต้องใช้มติของวุฒิสภาตัดสินว่าจะพิจารณาญัตติด่วนดังกล่าวหรือไม่ โดยผลการลงคะแนนพบว่าเสียงข้างมาก 118 เสียง ไม่เห็นด้วยกับญัตติดังกล่าว ต่อ 37 เสียง และงดออกเสียง 12 เสียง ทำให้ญัตติดังกล่าว ต้องตกไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง