เช็คอิน “เกาะสวรรค์” เที่ยวโลกใต้ทะเล สำหรับนักดำน้ำในไทย
เกาะสำหรับดำน้ำในไทย ปี 2567 ปะการังสวย น้ำใส ปลานานาพันธุ์
หมู่เกาะตามชายฝั่งทะเลของประเทศไทย ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจและเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยเฉพาะการดำน้ำที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เพราะคุณสามารถสัมผัสกับโลกใต้ทะเลได้อย่างง่ายดาย จุดดำน้ำในประเทศไทยมีอยู่มากมาย และแต่ละแห่งมีความโดดเด่นและความงามที่แตกต่างกันไป ในบทความนี้เราจะพาคุณไปสำรวจ 20 จุดดำน้ำที่สวยงามที่สุดในไทย สำหรับผู้ที่หลงรักการดำน้ำและต้องการค้นพบความงามใต้ท้องทะเลไทย
1. เกาะแสมสาร ฝืนทะเลสวยใกล้กรุงเทพ
ประเดิมกันที่ แสมสาร เกาะที่อยู่ในอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี สามารถเดินทางจากกรุงเทพแค่ไม่กี่ชั่วโมง มีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่มีความงดงามทางธรรมชาติ และความสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์อยู่มาก และเป็นหนึ่งในจุดดำน้ำตื้นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะแนวปะการังหลากสีสัน รวมไปถึงฝูงปลานานาชนิด ผู้ที่อยากเริ่มต้นดำน้ำมักนิยมมาที่เกาะแห่งนี้ ซึ่งเกาะนี้มีบริษัททัวร์ดำน้ำให้บริการหลายเจ้า นอกจากดำน้ำก็ยังมีกิจกรรมให้ทำมากมาย เช่น นั่งเรือท้องกระจกดูปะการัง พายเรือคายัค ฯลฯ
หากคุณวางแผนจะไปดำน้ำที่เกาะแสมสาร ถ้าไปกับเจ้าหน้าที่ฐานทัพเรือสัตหีบ มีค่าธรรมเนียมข้ามเกาะ โดยค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป) อยู่ที่ 300 บาท และสำหรับเด็ก (ความสูง 110 ซม. ขึ้นไปและอายุไม่เกิน 18 ปี) อยู่ที่ 220 บาท ส่วนเด็กที่มีความสูงต่ำกว่า 110 ซม. จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมข้ามเกาะ ค่าธรรมเนียมนี้รวมค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทยแล้ว ส่วนค่าทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การดำน้ำดูปะการัง (50 บาท), การนั่งเรือกระจก (20 บาท), และการพายเรือคายัค (100 บาท/ชั่วโมง) จะต้องชำระแยกต่างหาก หากคุณเลือกไปดำน้ำกับบริษัทเอกชน ค่าธรรมเนียมข้ามเกาะจะรวมอยู่ในแพ็กเกจทั้งหมดแล้ว
2. เกาะมันนอก ความสวยงามที่ไม่แพ้ทะเลใต้เลย
สำหรับผู้ที่หลงรักการดำน้ำ จังหวัดระยองเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ไม่ควรพลาด ด้วยน้ำทะเลที่ใสสะอาด โดยเฉพาะหมู่เกาะมัน ถือเป็นสวรรค์ของท้องทะเลภาคตะวันออก เป็นจุดหมายที่ยอดเยี่ยมสำหรับการดำน้ำตื้นและการชมปะการัง หมู่เกาะมันประกอบด้วยเกาะมันใน เกาะมันกลาง และเกาะมันนอก ที่มีความสวยงามของธรรมชาติอย่างโดดเด่น ทั้งหาดทราย น้ำทะเล แนวปะการัง และความหลากหลายของสัตว์น้ำ
โดยเฉพาะ “เกาะมันกลาง” ซึ่งเป็นจุดที่เหมาะที่สุดสำหรับการดำน้ำ เนื่องจากมีแนวปะการังที่สวยงามมากมาย และบางช่วงเมื่อระดับน้ำลดจะมีทะเลแหวกให้เดินเล่นได้ ส่วน “เกาะมันใน” เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะมัน มีศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และยังมีอ่าวที่น่าสนใจหลายแห่งบนเกาะ เช่น อ่าวต้นมะขาม อ่าวหินโขดหญ้า อ่าวโกงกาง และอ่าวหน้าบ้าน
3. เกาะช้าง ดำน้ำราคาหลักร้อย แต่ได้สัมผัสความสวยงามแบบระดับหลักล้าน
เกาะช้าง ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ในจังหวัดตราด บนเกาะจะแบ่งโซนที่เลี้ยวซ้าย-เลี้ยวขวา ซึ่งสองฝั่งนี้ได้จะให้ประสบการณ์ท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน ใครชอบเที่ยวหาดทรายสวย ๆ ขาว ๆ เล่นน้ำได้ มีร้านอาหารให้ดินเนอร์ยามค่ำริมทะเล มีที่พักหรู ๆ ติดชายหาด ต้องมาฝั่งขวา ส่วนทางซ้ายจะเป็นป่าชายเลนผืนใหญ่และชุมชนของชาวบ้านที่นี่
ส่วนคนที่ต้องการดำน้ำควรไปฝั่งขวาและเดินทางไปที่ บ้านบางเบ้า ท่าเรือจุดหลักที่จะพาคุณไปสัมผัสน้ำทะเลใสสะอาด และทรัพยากรทางทะเลหลากหลาย โดยเฉพาะปะการังและสัตว์น้ำนานาชนิด หมู่เกาะยอดนิยมบนเกาะช้าง ได้แก่ เกาะยักษ์ใหญ่ เกาะยักษ์เล็ก เกาะรัง เกาะหวาย ฯลฯ ที่เต็มไปด้วยปะการังอ่อนและปะการังแข็งหลากสีสัน รวมถึงฝูงปลานานาชนิด จึงเป็นสวรรค์ของคนรักการดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก
4. หมู่เกาะง่าม ชมปะการังสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติแบบจัดเต็ม
หมู่เกาะง่าม ตั้งอยู่ในทะเลชุมพร ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่มากมาย และเป็นแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงระดับโลก เริ่มที่ เกาะหลักง่าม ที่อยู่ทางใต้สุดของหมู่เกาะชุมพร จะเป็นกองหินที่โผล่พ้นน้ำ และเป็นจุดดำน้ำลึกที่สวยที่สุดของหมู่เกาะง่าม ความลึกจะอยู่ที่ 30-70 ฟุตค่ะ สามารถดำน้ำได้ทั้วรอบเกาะเลย ส่วนปะการังจะมีทั้งสีขาว น้ำตาล และ สีเหลือง หลากหลายสี
จุดไฮไลท์ของการดำน้ำบนหมู่เกาะง่าม คือ บริเวณ “เกาะง่ามน้อย” ที่มีน้ำทะเลใส มองจากเรือลงไปก็เห็นตัวปลาได้แบบชัดเจน และ “เกาะง่ามใหญ่” เกาะหินที่มีขนาดใหญ่ เป็นจุดที่มีปะการังหลากสีสัน รวมถึงดอกไม้ทะเล เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดำน้ำชมปะการัง
5. เกาะหลักแรด แหล่งอาศัยของฝูงปลา และแนวปะการังสุดงดงาม
เมื่อมาเที่ยวทะเลชุมพรอีกหนึ่งจุดดำน้ำที่ห้ามพลาด คงหนีไม่พ้น เกาะหลักแรด หรือ เกาะแรด เกาะหินปูนที่มีลักษณะคล้ายแรด ไม่มีชายหาด แต่มีดอกไม้ทะเลสีสันสดใส แนวปะการังสวยงาม โดยเฉพาะปะการังครก และยังเป็นแหล่งอาศัยของฝูงปลาสวยงามนานาชนิด รวมถึงปลิงทะเลสร้อยไข่มุกที่หาชมได้ยากผสานกับความสวยของน้ำทะเลสีมรกต
6. หมู่เกาะสุรินทร์ สวรรค์ของนักดำน้ำ
หมู่เกาะสุรินทร์ เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ตั้งอยู่ในจังหวัดพังงา ประกอบด้วย 4 เกาะหลัก ได้แก่ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะไข่ และเกาะตองกวน ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านความงดงามของธรรมชาติใต้ทะเล ด้วยความหลากหลายของปะการังและสัตว์ทะเลต่าง ๆ เช่น ปลาไหลไฟฟ้า ปลากระเบน ปลาฉลามวาฬ เต่าทะเล และฉลามครีบดำ
จุดดำน้ำที่ได้รับความนิยมในหมู่เกาะสุรินทร์ ได้แก่ อ่าวไม้งาม อ่าวช่องมะรู อ่าวผักเบี้ย และอ่าวแม่ยาย ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการดำน้ำในหมู่เกาะสุรินทร์คือระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน เนื่องจากสภาพอากาศดี น้ำทะเลใสทำให้มองเห็นแนวปะการังได้อย่างชัดเจน
7. เกาะไข่ เกาะสวย น้ำทะเลใสจนต้องร้องว้าว
เกาะไข่ จังหวัดพังงา เป็นหมู่เกาะเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของหมู่เกาะสุรินทร์ เป็นเกาะเอกชนที่ประกอบไปด้วยเกาะไข่ใน เกาะไข่นอก และเกาะไข่นุ้ย ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสสะอาด และแนวปะการังอุดมสมบูรณ์ จุดเด่นของการดำน้ำตื้นที่เกาะไข่ คือความใสของน้ำทะเล ทำให้มองเห็นแนวปะการังและฝูงปลาได้อย่างชัดเจน
ไฮไลท์ของเกาะนี้คือ เกาะไข่ใน ที่มีหาดทรายขาวละเอียด สะอาดสะอ้าน และน้ำใสสามารถดำน้ำตื้นได้ มีทั้ง ปะการัง แผ่นปะการังจาน แต่ที่ไม่ควรพลาด คือ ฝูงปลาหลากสี หลายชนิด ซึ่งเกาะไข่ใน จะถูกเรียกอีกชื่อว่า เกาะแมว เพราะบนเกาะนั้นมีน้องแมวที่ชาวบ้านบนเกาะนำไปเลี้ยง จนออกลูกออกหลานมามากมายหลายตัว ด้วยความที่น้ำทะเลไม่ลึกมาก และกระแสน้ำไม่แรง เกาะไข่ จึงเป็นจุดดำน้ำที่เหมาะสำหรับมือใหม่พึ่่งหัด
8. หมู่เกาะสิมิลัน สรวงสวรรค์ผืนน้ำและผืนทราย
หมู่เกาะสิมิลัน จุดดำน้ำที่อยู่กลางทะเลอันดามัน มีแนวปะการังเขากวางขนาดใหญ่ทอดยาว อุดมไปด้วยปลาทะเลนานาชนิด เช่น ปลาไหลสวน ปลาเสือดาว ปลานกแก้ว ปลาผีเสื้อ นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวหินเรือใบ แลนด์มาร์คหลักที่ไม่ควรพลาด
โดยฤดูการท่องเที่ยวบนเกาะสิมิลันจะมีการเปิดเกาะให้เที่ยวได้ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนจนถึงเมษายน ของทุกปี และจะปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคมเนื่องจกเป็นหน้ามรสุม ส่วนค่าเข้าอุทยานชาวไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท / ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท
9. เกาะพีพี หมู่เกาะทะเลสวย สวรรค์แห่งท้องทะเลใต้
เกาะพีพี สถานที่ท่องเที่ยวทะเลสวยงามติดอันดับต้น ๆ ของไทยหรือของโลก ประกอบด้วยประกอบด้วย 2 เกาะใหญ่ๆ คือ เกาะพีพีดอน และ เกาะพีพีเล และเกาะเล็กๆข้างเคียง คือ เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ , เกาะพีพีดอน และ เกาะพีพีเล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลัก มีลักษณะเป็นเวิ้ง หรือ อ่าวใหญ่ ที่ภายในมีหาดทรายขาวสะอาด ไม่ใช่แค่มีหาดทรายขาวและน้ำทะเลใสเหมือนแก้วคริสตัลเท่านั้น แต่ลึกลงไปใต้ท้องทะเลยังมีความสวยงามของแนวปะการัง ฝูงปลา และสัตว์น้ำแสนสวยอาศัยอยู่อย่างชุกชุม
ไฮไลต์ของที่นี่คือ ฉลามหูดำนับร้อยตัวที่อาศัยตามหาดต่าง ๆ ซึ่งเข้ามาอาศัยอยู่ในช่วงที่ปิดหาดเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีฉลามเสือดาว ม้าน้ำ และสัตว์น้ำอีกหลากหลายชนิด
10. หมู่เกาะห้อง ชมวิว 360 องศาในน่านน้ำทะเลอันดามัน
เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นหมู่เกาะหินปูนขนาดใหญ่ แต่ให้ความเงียบสงบและไม่วุ่นวาย เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวน้อยไม่แออัดเท่าที่อื่น ๆ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จังหวัดกระบี่ ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่มากมาย เช่น เกาะห้อง เกาะผักเบี้ย เกาะเหลาลาดิง เกาะเหลาเหรียม เกาะปากกะ ฯลฯ น้ำทะเลสวยใส มีความอุดมสมบูรณ์ของปะการังใต้ทะเล อีกทั้งยังเต็มไปด้วยฝูงปลาหลากชนิด จึงทำให้หมู่เกาะห้องเป็นจุดดำน้ำที่มีชื่อเสียงมาก เหมาะทั้งการดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก
ไฮไลท์ของเกาะนี้อีกที่ คือ จุดชมวิวเกาะห้อง 360 องศา คุณสามารถชมทะเลไทยจากมุมสูง โดยจุดชมวิวนี้จะต้องเดินเท้าขึ้นเขาไปประมาณ 300 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 20-30 นาที แต่มีบันไดสะดวกสบายตลอดทาง
11. เกาะไม้ท่อน อีกหนึ่งพิกัดในภูเก็ต ที่นักท่องเที่ยวชอบดำน้ำไม่ควรพลาด
เกาะไม้ท่อน เกาะเล็ก ๆ ที่เป็นเกาะส่วนตัว เปิดให้เที่ยวได้แบบไปเช้า-เย็นกลับ โดดเด่นด้วยความงามของหาดทรายขาวละเอียด สามารถนอนชิลอาบแดด มีน้ำทะเลใสราวกับกระจก และแนวปะการังน้ำตื้นที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้เกาะไม้ท่อนได้รับฉายาว่าเป็นมัลดีฟส์เมืองไทย และกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะคู่รักที่มักจะมาฮันนีมูนกันบนเกาะแห่งนี้ จนถึงเรียอีกชื่อว่า Honeymoon Island
12. เกาะราชาใหญ่ การันตีความสวยงามด้วยหาดทรายขาวละเอียด
อีกหนึ่งจุดดำน้ำของจังหวัดภูเก็ตที่คุณไม่ควรพลาด ประกอบไปด้วยอ่าวทั้งหมด 5 อ่าวบนเกาะ ได้แก่ อ่าวปะตก อ่าวสยาม อ่าวทือ อ่าวหลา และอ่าวขอนแค ซึ่งอ่าวปะตกเป็นจุดดำน้ำตื้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดบนเกาะราชาใหญ่ ลักษณะเป็นอ่าวรูปเกือกม้า น้ำทะเลใสสะอาด มองเห็นพื้นทรายได้อย่างชัดเจน บริเวณรอบอ่าวมีแนวปะการังอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งปะการังเขากวาง ประการังอ่อน ที่หาดูได้ยาก สามารถดำน้ำตื้นเพื่อชมความสวยงามของปะการังและฝูงปลาได้อย่างเพลิดเพลิน
13. เกาะหลีเป๊ะ สวรรค์ของคนรักทะเล
เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล เป็นหนึ่งในจุดดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกอีกหนึ่งแห่งที่สวยที่สุดในไทย เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล หากต้องการดำน้ำที่เกาะหลีเป๊ะจะต้องรู้ว่าตัวเองต้องการดำน้ำลึกหรือดำน้ำตื้น เพราะที่นี่แบ่งจุดดำน้ำออกเป็น 3 โซน ได้แก่ โซนใน โซนนอก และโซนตะวันออก
โดยจุดเด่นของการดำน้ำตื้นที่เกาะหลีเป๊ะนั้นคือความอุดมสมบูรณ์ของแนวปะการัง และสัตว์ทะเลนานาชนิด หากต้องการดำน้ำตื้น “โซนใน” เป็นโซนที่เหมาะมากที่สุด เพราะน้ำไม่ลึกมาก เหมาะกับมือใหม่หัดดำน้ำ จุดดำน้ำของโซนในที่ห้ามพลาด เช่น ร่องน้ำจาบัง เกาะหินงาม เกาะอาดัง เกาะราวี เกาะยาง ส่วน “โซนนอก” น้ำทะเลจะลึกขึ้นมาหน่อย เหมาะกับผู้ที่มีประสบการณ์การดำน้ำ และโซนสุดท้ายคือ “โซนตะวันออก” เป็นจุดที่มีความลึกมากที่สุดและยังเป็นเขตสงวนธรรมชาติด้วย
14. เกาะกระดาน อันซีนชายหาดที่ดีที่สุดในโลก
เกาะกระดาน ไม่ได้เป็นเพียงจุดดำน้ำตื้น สวยที่สุดในไทยเท่านั้น แต่ยังถูกจัดอันดับว่าเป็น ชายหาดดีที่สุดในโลกของปี 2023 โดย World Beach Guide จากประเทศอังกฤษอีกด้วย หากใครนึกไม่ออกว่าเกาะกระดานสวยงามเพียงไร ก็ขอให้นึกถึงการจัดงานวิวาห์ใต้สมุทรที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งจุดที่ว่านั้นก็คือเกาะกระดานบ้านเรานี่เลย โดยคู่บ่าวสาวจะได้สวมชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์ เดินลงไปใต้น้ำ บรรยากาศโรแมนติก สวยงาม น่าประทับใจเป็นอย่างมาก
ไฮไลท์สำคัญของเกาะกระดานก็คือหาดอ่าวเหนียง ซึ่งเป็นจุดดำน้ำยอดนิยม มีทั้งปะการังสมอง ปะการังเขากวาง ปะการังอ่อนหนามแดง และฝูงปลาหลากหลายชนิดให้ได้ใกล้ชิดและถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกกัน
15. เกาะเต่า แหล่งดำน้ำติดอันดับโลก
เกาะเต่า เกาะสวรรค์กลางทะเลอ่าวไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องของการดำน้ำ เป็นอีกหนึ่งจุดดำน้ำสวยที่สุดในไทย และมีจุดดำน้ำตื้นที่น่าสนใจมากมาย เช่น “อ่าวมะม่วง” ที่มีชายหาดขนาดเล็กที่มีแนวปะการังสวย ๆ พร้อมน้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ และปลาน้อยใหญ่มากมาย ทั้งปลาเขียวพระอินทร์ ปลานกแก้ว ปลาสากหางเหลือง “อ่าวไลท์เฮาส์” ที่มีทั้งหนอนต้นคริสต์มาส ปะการัง ปลานกแก้ว ปลาเทวดา ปลาผีเสื้อ ปลาโนรีครีบยาว ปลาสากหางเหลือง อ่าวฉลาม ที่มีฉลามครีบดำ เต่าตนุ ให้ได้เห็นแบบใกล้ชิด หรือจะเป็น “เกาะนางยวน” ที่อยู่ไม่ไกลกับเกาะเต่า แต่เต็มไปด้วยปลาหลากสีสัน
16. เกาะนางยวน มรกตความงามกลางอ่าวไทย
เกาะนางยวน ตั้งอยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเช่นกัน ส่วนมากผู้คนนิยมมาถ่ายรูป ชมหาดทรายที่สวยงาม และดำน้ำตื้นกัน เพราะสามารถเห็นปะการัง ฝูงปลา และสัตว์ทะเลนานาชนิดได้ในระยะน้ำตื้น เป็นเกาะที่มีทิวทัศน์ที่สวยงามราวกับเกาะสวรรค์ ที่จัดอันดับเป็นหนึ่งใน 10 เกาะที่สวยที่สุดในโลก
17. เกาะพะงัน สถานที่ท่องเที่ยว ที่ไม่ได้มีดีแค่ฟูลมูลปาร์ตี้
เกาะพะงันเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะฟูลมูนปาร์ตี้ แต่นอกจากความสนุกของฟูลมูนปาร์ตี้แล้ว เกาะพะงันยังเป็นจุดดำน้ำตื้นที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งในอ่าวไทย มีแนวปะการังสวยงามและอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะบริเวณ “เกาะม้า” เกาะเล็ก ๆ ที่เป็นแหล่งดำน้ำตื้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดบนเกาะพะงัน มีแนวปะการังที่สวยงาม และปลาเล็กปลาน้อยหลากชนิด อีกทั้งยังมีเกาะตรงกลางที่มีทางเดินเป็นหาดทราย ทอดยาวเชื่อมกับชายฝั่ง สามารถถ่ายรูปเล่นได้ด้วย นอกจากนี้ ยังมี “หาดขวด” อีกหาด ที่สามารถดำน้ำดูปะการังได้ แถมยังคงความเป็นธรรมชาติไว้สูงมาก
18. เกาะสามเส้า มุมถ่ายรูปสะพานหินธรรมชาติท่ามกลางท้องทะเลสุดงดงาม
เกาะสามเส้า เป็นเกาะเล็ก ๆ ในอ่าวไทย เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะอ่างทอง โดยมีลักษณะเป็นเกาะสามเกาะเชื่อมติดกัน และมีสะพานหินธรรมชาติยื่นโค้งออกไปในทะเล จึงเป็นที่มาของชื่อเกาะสามเส้า โดยเกาะสามเส้าเป็นเกาะที่มีความสวยงามของธรรมชาติ ทั้งชายหาด น้ำทะเล และแนวปะการังใต้น้ำ เหมาะสำหรับการพักผ่อน เล่นน้ำทะเล พายเรือคายัค และดำน้ำตื้น สำหรับแนวปะการังที่เกาะสามเส้าก็ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ อุดมไปด้วยปะการังอ่อนและแข็งหลากสีสัน
19. เกาะทะลุ หนึ่งที่เที่ยวทางทะเล นักท่องเที่ยวนิยมมาดำน้ำ
ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามของท้องทะเลอ่าวไทย เกาะทะลุ อีกหนึ่งสวรรค์ของคนรักการดำน้ำตื้น และได้ชื่อว่าเป็นทะเลที่สวยที่สุดในจังหวัดอีกด้วย โดยเกาะทะลุตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร มีลักษณะเป็นเกาะหินปูนขนาดใหญ่ มีช่องทะลุขนาดใหญ่อยู่บริเวณกลางเกาะ ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลและคลื่นลม จึงทำให้ได้ชื่อว่าเกาะทะลุนั่นเอง
นอกจากนี้ เกาะทะลุยังมีจุดเด่นอีกคือ แนวปะการังน้ำตื้นที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะ “อ่าวกรวด” ที่มีปลาเยอะที่สุด ทั้งปลาการ์ตูน ปลานกแก้ว ปลาผีเสื้อ ปลาสลิดทะเล ปลากล้วย พร้อมปะการังนานาชนิด อีกพิกัดแนะนำ “หาดเทียน” เป็นจุดที่มีปะการังเยอะที่สุด ทั้งปะการังโขด ปะการังผักกาด และนอกจากการดำน้ำตื้นแล้ว เกาะทะลุยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจให้ได้ทำ เช่น พายเรือคายัค เล่นน้ำทะเล เดินป่า ชมพระอาทิตย์ตกดิน ฯลฯ
20. เกาะพยาม มัลดีฟส์เมืองไทย ที่ท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องพยาม
เกาะพยาม เกาะมีขนาดใหญ่รองจาก เกาะช้าง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดระนองอีกแห่งหนึ่ง ฉายามัลดีฟส์เมืองไทยที่ได้รับเกิดจากมุมหนึ่งของเกาะ บริเวณบลูส์สกาย รีสอร์ท ที่พักสวยคล้ายมัลดีฟส์ เหมาะกับคนชอบนอนริมนน้ำมองท้องฟ้า กลางป่าชายเลน ภูเขา จึงกลายเป็นเกาะสวรรค์ของใครหลายๆ คน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง