เชลซีงานเข้า เผย ยูฟ่า ไม่นับเงินขายโรงแรมของโบห์ลี่ย์ รวมใน FFP
ดูเหมือนว่าการซิกแซกตัวเลขเงินในบัญชีของเจ้าของทีม เชลซี จะลำบากมากขึ้น เมื่อล่าสุดมีรายงานว่า ยูฟ่า จะไม่นับเงินจากการขายโรงแรมรวมใน FFP
ท็อดด์ โบห์ลี่ย์ และผู้ถือหุ้นคนอื่นๆได้เข้ามาซื้อสโมสร เชลซี เมื่อปี 2022 ซึ่งการมาของกลุ่มทีมจากอเมริกาทำให้ทีมดังจากกรุงลอนดอนใช้เงินเสริมทัพนักเตะไปแล้วกว่า 1 พันล้านปอนด์
แม้ว่าจะใช้เงินก้อนโตไปกับการเซ็นนักเตะใหม่ แต่เพื่อหลีกเลี่ยงการทำผิดกฎทางการเงิน ทำให้พวกเขาเลือกใช้เทคนิคการเซ็นสัญญานักเตะระยะยาว
นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยว่า พวกเขาได้ขาย เดอะ มิลลิเนียม และ คอปธอร์น 2 โรงแรมดังในสแตมฟอร์ด บริดจ์ ไปให้กับบริษัทในเครือ พร้อมรับเงินก้อนโต 76.5 ล้านปอนด์
โดยทาง พรีเมียร์ลีก ยังไม่ได้ปิดช่องว่างในการให้สโมสรขายสินทรัพย์ไปยังบริษัทในเครือ แล้วลงทะเบียนมาเป็นรายได้เพื่อให้เป็นไปตามกฎการเงิน
🚨 UEFA won’t allow clubs to declare income from assets being sold to sister companies. 💰❌
This means Chelsea will face a major challenge meeting UEFA’s financial rules this season.
(Source: @martynziegler) pic.twitter.com/1UX7BtEjtD
— Transfer News Live (@DeadlineDayLive) August 29, 2024
ทว่าล่าสุด The Times ได้มีการเปิดเผยว่า สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า (UEFA) ไม่อนุญาตให้สโฒสรต่างๆลงทะเบียนการขายทรัพย์สินให้กับบริษัทในเครือ เพื่อเป็นรายได้นับรวมกับกฎความยุติธรรมทางการเงินของพวกเขา (FFP) พร้อมกับยืนยันว่า คณะกรรมการอิสระจะต้องลงประเมินเป็นรายๆไป
เท่ากับว่า เชลซี ที่ขายทีมหญิงไปให้กับบริษัทแม่ของตัวเองด้วยนั้น มีปัญหากับการทำตามกฎการเงินของยูฟ่าในช่วงเวลาที่ถูกนับ และหากสุดท้ายมีการละเมิดก็อาจถูกลงดาบในฤดูกาลหน้า
ก่อนหน้านี้เชลซี เคยโดนปรับเงิน 8.6 ล้านปอนด์ เมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อน จากการละเมิดกฎการเงินของยูฟ่า ในข้อกล่าวหา การยื่นรายละเอียดทางการเงินที่ไม่สมบูรณ์ระหว่างปี 2012-2019
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ย้ำเพื่อความชัดเจน “มาเรสก้า” ลั่น แข้งส่วนเกินเชลซี ไม่มีสิทธิ์ลงเล่นซีซั่นนี้
- จบไปหนึ่ง บอร์นมัธ ประกาศยืมตัว “เกป้า” จากเชลซี อยู่เฝ้าเสาจนจบซีซั่นนี้
- สื่อโหม เชลซี พร้อมส่งแข้งส่วนเกิน 2 คนใหม่แมนยู หวังแลกตัว “ซานโช่”