เสรีพิศุทธ์ น้อยใจ ถอนตัวพรรคร่วม ถูกพท.ลืม
เสรีพิศุทธ์ แถลง ไม่ขอร่วมรัฐบาล หลังที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเสรีรวมไทยมีมติ 7 ต่อ 4 เสียง ให้ถอนตัว ยืนยันทำหน้าที่ฝ่ายค้านอิสระ ลั่น น้อยใจไม่ได้รับความสำคัญในการแก้ปัญหาตำรวจ
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม 2567 เวลา 10.30 น. ที่พรรคเสรีรวมไทย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แถลงกรณีถอนตัวออกจากการเป็นพรรครวมรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ เพราะน้อยใจที่พรรคเพื่อไทยมีแผนให้นายทักษิณดูแลงานตำรวจแทน โดยมองข้ามความเชี่ยวชาญของเขาซึ่งเป็นเป็นอดีต ผบ.ตร. มาก่อน
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เปิดเผยว่า ตนรู้สึกน้อยใจไม่ได้รับตำแหน่งควบคุมงานตำรวจ และเห็นว่าการจัดตั้งรัฐบาลวุ่นวาย ขัดแย้งกันเอง
“…คนนั้นก็อยากเป็นคนนี้ก็อยากเป็น พลังประชารัฐก็อยากเป็น เขาก็เอาบ้างไม่เอาบ้าง พรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทยขัดแย้งกันตลอดชีวิต แต่ก็อยากจะร่วมรัฐบาลให้ได้ ดังนั้นพรรคเพื่อไทย โดยน.ส.แพทองธารจะมีสติปัญญาอย่างไรในการบริหารตรงนี้ ไม่มีหรอก เป็นการบริหารโดยพ่อทั้งนั้น…”
นอกจากนี้ตนยังเชื่อว่าเชื่อว่านายทักษิณครอบงำการบริหารพรรคเพื่อไทย จนไม่สามารถวิจารณ์นโยบายรัฐบาลได้หากเป็นพรรคร่วม
“…เพราะพ่อเป็นคนมีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องรัฐธรรมนูญเป็นอย่างดี ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ครั้งที่แล้วปฏิวัติ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะมาอยู่ร่วมรัฐบาลได้อย่างไร และนายทักษิณ บอกกับตนตอนไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลตำรวจช่วงต้นปีว่า ยังไงก็ไม่เอาตระกูลวงษ์สุวรรณ…”
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เขารู้จักนิสัยของนักการเมืองคนอื่น ๆ ดี เนื่องจากเคยเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจด้วยกัน หลังจากที่พรรคของเขาได้ทำหน้าที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว เขาได้พิจารณาสถานการณ์และเห็นว่าแม้จะต้องการทำงานเพื่อประเทศ แต่ไม่มีโอกาสได้ทำ จึงได้หารือกับกรรมการบริหารพรรคเพื่อตัดสินใจว่าควรอยู่ร่วมรัฐบาลต่อหรือไม่ โดยคำนึงถึงความเหมาะสมและความต้องการทำงานเพื่อประชาชนเป็นหลัก
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ผ่านมา พรรคเสรีรวมไทยมีมติถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล เนื่องจากเห็นว่าภารกิจสนับสนุนพรรคเพื่อไทยเสร็จสิ้นแล้ว การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลจะทำให้ไม่สามารถวิจารณ์นโยบายรัฐบาลได้อย่างเต็มที่ พรรคต้องการเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป และแสดงศักยภาพของบุคลากรในพรรค
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยอมรับว่าน้อยใจที่ไม่ได้รับความสำคัญในการแก้ไขปัญหาตำรวจ เชื่อว่านายทักษิณมีอิทธิพลในการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทย และไม่ให้โอกาสเขาในการปฏิรูปตำรวจ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง