โรงพยาบาลแจงสาเหตุเสียชีวิตไม่ได้เกิดจากฉีดยาแต่เกิดจากโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
จากกรณีลูกชายภารโรงโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เขาพนม จ.กระบี่ นายบุญชัย จีนหนู อายุ 34 ปีได้นำเอกสารหลักฐาน และคลิปวีดีโอเหตุการณ์ในห้องฉุกเฉิน เข้าร้องเรียน ที่ ศูนย์ดำรงธรรม จ.กระบี่ และสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ ให้ตรวจสอบกรณีการเสียชีวิตของผู้เป็นพ่อ คือนายสุมิตร จันหนู อายุ 59 ปี อาชีพนักการภารโรง อยู่บ้านเลขที่ 19 ม.9 ต.เขาพนม อ.เขาพนม จ.กระบี่ หลังญาติได้พาผู้ตาย ซึ่งมีอาการวิงเวียนศีรษะและอาเจียน ไปรักษาที่ รพ.แห่งหนึ่งใน จ.กระบี่ เมื่อคืนวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นผู้ตายอาการเริ่มทุเลา พูดคุยได้ปกติและเดินลงจากรถไป ขึ้นเปลผู้ป่วย ได้เองโดยไม่ต้องมีคนพยุง แต่พอเข้าห้องฉุกเฉิน พยาบาลก็ได้ฉีดยาให้ไม่ถึง 5 นาที เกิดอาการช๊อคกะทันหัน และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งทาง สาธารณสุข จ.กระบี่ ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ เตรียมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ขณะที่ ลูกชายผู้ตายยังข้องใจสาเหตุการตายในหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่มีแพทย์เวรในห้องฉุกเฉิน การให้พยาบาลฉีดยาผู้ป่วย รวมไปถึง เรื่องมาตรฐานการักษาพยาบาลของโรงพยาบาลของรัฐ และยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดโดยในวันนี้ จะนำเอกสารหลักฐานทั้งหมดเข้ายื่น ที่สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข อีกครั้ง เพื่อให้เกิดความกระจ่าง
ความคืบหน้าวันที่ 21 ธ.ค.61 ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อ ไปยังผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่เกิดเหตุ เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลดังกล่าวบอกว่า ไม่สะดวกในการให้สัมภาษณ์ออกสื่อ แต่ได้ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ทางโรงพยาบาลได้มีการไต่สวน และได้ชี้แจงญาติผู้เสียชีวิตไปแล้ว และได้ทำรายงานไปยังกระทรวงสาธารณสุขแล้ว แต่ทางญาติยังไม่เข้าใจ และยังติดใจอยู่ ก็ต้องเคารพสิทธิของญาติ เพราะเขาเป็นผู้สูญเสียพ่ออย่างกะทันหัน ทั้งนี้ได้มีการเชิญ ผู้ร้องเรียน และญาติๆมาพูดคุยทำความเข้าใจแล้ว รวมทั้งให้ดูคลิปวีดีโอวงจรปิดภายในห้องฉุกเฉินและเอกสารในการรักษา ด้วย ซึ่งยืนยันว่ากระบวนการรักษาเป็นไปตามมาตรฐาน พร้อมทั้งอธิบาย สาเหตุที่เกิดขึ้น ว่า เกิดจากคนไข้มีอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน โดยคนไข้เริ่มมีอาการมาประมาณ 4 ชั่วโมงแล้ว แต่เมื่อมีการฉีดยา ซึ่งเป็นที่ใช้รักษาอาการคลื่นไส้อาเจียน เข้าไป ทำให้ผู้ป่วย มีอาการทันที ก็เลยทำให้ญาติเข้าใจว่า เกิดจากสาเหตุยาตัวนั้น ที่ทำให้ป่วยเสียชีวิต ซึ่งทางโรงพยาบาลก็ได้เจาะเลือดไปตรววจพบว่าผู้ป่วยเป็นโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ส่วนกรณีที่คนไข้มีอาการแพ้อาหารเป็นพิษนั้น ก็น่าจะมีส่วน รวมทั้งพบว่าคนไข้มีประวัติโรคเกี่ยวกับความดันด้วย
ส่วนกรณีของแพทย์เวร ก็เข้ามาดูแลอาการคนไข้ทันทีหลังจากนั้นภายในเวลา1นาที ซึ่งทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ซึ่งก่อนการฉีดยาพยาบาลก็ได้ตรวจวัดความดัน ตรวจสติสัมปชัญญะ และซักประวัติเบื้องต้นเพื่อรายงานแพทย์ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ แต่จะให้แพทย์มานั่งในห้องฉุกเฉินตลอด24ชั่วโมงนั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะบุคลากรแพทย์มีไม่เพียงพอ แต่แพทย์ก็อยู่ใกล้ๆได้มาดูอาการคนไข้ทันที เพราะอยู่ด้านหลังห้องฉุกเฉิน แต่ในคลิปที่ญาติเอาไปเผยแพร่ผ่านสื่อนั้นเชื่อว่ามีการตัดต่อ เพราะคลิปต้นฉบับยังอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดได้อธิบายให้ทางญาติรับทราบแล้ว
ผู้อำนวยการโรงพยาบาล คนดังกล่าวให้ข้อมูลอีกว่า ที่ผ่านมาได้แจ้งญาติไปแล้วว่าอย่าเพิ่งเผาศพ เพื่อจะได้มีการตรวจพิสูจน์อย่างละเอียด แต่สุดท้ายก็เผาไปแล้ว ซึ่งทางโรงพยาบาลก็ยินดีให้ตรวจสอบ ไม่ได้มีการปกป้องลูกน้องแต่อย่างใด เพราะสถานพยาบาลต้องดูแลประชาชน หาดทางญาติจะไปร้องเรียน จะใช้สิทธิร้องเรียน อย่างไรนั้น เป็นสิทธิ์ที่กระทำได้ และพร้อมที่จะให้มีการตรวจสอบ โดยหน่วยงานที่เป็นคนกลาง และยืนยันว่าทุกอย่างดำเนินตามมาตรฐาน