ประวัติ ‘บิ๊กอ๊อด’ พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาค 4 สู่ สส. พรรคเพื่อไทย
ทำความรู้จัก “พิศาล วัฒนวงษ์คีรี” อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 นายทหารผู้ช่ำชองเรื่องแก้ไขปัญหาภาคใต้ ที่ผันตัวจากขาราชการทราห มาเป็นนักการเมืองภายใต้สังกัดพรรคเพื่อไทย
พลเอกพิศาล วัฒนวงษ์คีรี หรือ “บิ๊กอ๊อด” อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 เกิดเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2492 พื้นเพเป็นคนจังหวัดเชียงใหม่ จบการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นจึงศึกษาต่อที่โรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 9 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่นที่ 20 และโรงเรียนเสนาธิการทหารบก
บิ๊กอ๊อดเคยผ่านการอบรมหลักสูตรทางทหารอย่างหลากหลาย เช่น หลักสูตรกระโดดร่ม หลักสูตรนายทหารสื่อสาร หลักสูตรสงครามทุ่นระเบิด ทำให้มีความสามารถและเข้าใจการฝึกยุทธวิธีต่าง ๆ ของทหารเป็นอย่างดี
หลังจบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อย พลเอกพิศาลได้เข้ารับราชการในตําแหน่งผู้บัญชาการหมู่ ม้าวิ่ง ปืนเล็ก ร้อยรางวัลปืน หัวหน้าชุดลาดตระเวน ระดับหมวดปืนเล็ก และอีกหลายตำแหน่งที่เริ่มไต่เต้าขึ้นมาตามอายุข้าราชการ เช่น อวบ.ร.1 พัน 2 รอ. ผบ.มว.ค.60 ร้อย อวบ. ร.1 พัน 2 รอ.
กระทั่งในปี 2523 พิศาล วัฒนวงษ์คีรี ได้รับราชการในพื้นภาคใต้ ด้วยตําแหน่ง ฝอ.3 ร.5 พัน 4 ผู้ช่วยหัวหน้ากองการกิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ 4, รองผู้บังคับ กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 5 กองทัพภาคที่ 4, ผู้บังคับกองพันที่ 4 กรมทหารราบที่ 5 กองทัพภาคที่ 4, รองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 5 กองทัพภาคที่ 4, รองผู้บังคับจังหวัดทหารบก จ.สุราษฎร์ธานี และได้รับตําแหน่งฝ่ายเสนาธิการประจําปลัด กระทรวงกลาโหม ในปี 2538
นอกจากนี้บิ๊กอ๊อด พิศาล ยังเคยรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการ ประจําผู้บังคับบัญชา พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ซึ่งเป็น ผบ.ทบ. ในขณะนั้น ก่อนที่จะมารักษาการตําแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4
หลังจากทํางานในฝ่ายเสนาธิการจนได้รับความไว้วางใจ พลโทพิศาล วัฒนวงษ์คีรี ก็ได้รับมอบหมายให้ดูแลราชการทางภาคใต้เป็นหลัก เพราะเคยมีประสบการณ์ในพื้นที่กว่า 15 ปี จึงทราบถึงปัญหาในภาคใต้เป็นอย่างดี ด้วยผลงานและคุณูปการต่าง ๆ ที่สั่งสมมา ในปี 2547 บิ๊กอ๊อดจึงได้รับโปรดเกล้าฯ ให้รับตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 ณ ค่ายอิงคยุทธบริหาร อําเภอหนองจิก หลังจากที่มารักษาการแทน พลโทพงษ์ ศักดิ์ เอกบรรณสิงห์ ได้เพียงไม่กี่วัน
อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ท่านนี้ ได้รับการกล่าวขานถึงผลงานแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในยุครัฐบาลของทักษิณ ชินวัตร เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงที่มีเหตุการณ์การชุมนุมที่อำเภอตากใบ
นอกจากชีวิตราชการทางทหารแล้ว พลเอกพิศาลยังเคยทำงานในฝ่ายบริหารของกระทรวงสำคัญของประเทศด้วย อาทิ ตำแหน่งที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์
ต่อมาในปี 2566 นายทหารระดับบิ๊กได้ก้าวเข้าสู่เส้นทางการเมืองอย่างเต็มตัว ด้วยบทบาท สส. ระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ซึ่งในท้ายที่สุดคะแนนเสียงของเอฟซีจากพรรค ก็ส่งให้ชื่อของพลเอกพิศาลได้เข้าสู่รัฐสภาไปอย่างเฉียดฉิว ในลำดับที่ 27 จากโควต้าทั้งหมด 29 คนของ สส. ปาร์ตี้ลิสต์จากพรรคเพื่อไทย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดในวันที่ 23 ส.ค. 67 ศาลจังหวัดนราธิวาสได้มีคำสั่งรับฟ้องคดีการสลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น พยายามฆ่าผู้อื่น กักขังหน่วงเหนี่ยว โดยมีครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้ง 9 คน ซึ่ง 1 ในนั้นมีชื่อของพล.ท.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ร่วมอยู่ด้วย และจะมีการสอบคำให้การในวันที่ 12 ก.ย. นี้
ภาพจาก : พรรคเพื่อไทย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง