สยามพารากอน เปิดโลกศิลปะ “New World of Luxury” นิยามใหม่แห่งลักซ์ชัวรี่
สยามพารากอน รังสรรค์ลักซ์ชัวรีนิยามใหม่ “New World of Luxury” เติมเต็มที่สุดแห่งประสบการณ์ศิลปะที่ทุกคนเข้าถึงได้กับ 9 สุดยอดงานศิลป์จากเหล่าศิลปินร่วมสมัยชั้นนำจากไทยและทั่วโลก
สยามพารากอน ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการรังสรรค์สุดยอดประสบการณ์เหนือระดับ จุดหมายปลายทางระดับโลกที่นำเสนอมิติใหม่แห่งสุนทรียประสบการณ์ “New World of Luxury” นิยามใหม่แห่งความลักซ์ชัวรี เนรมิตสยามพารากอนให้เป็นโลกแห่งศิลปะ กับ 9 ผลงานสร้างสรรค์จากเหล่าศิลปินระดับแนวหน้าทั้งไทยและนานาประเทศ ให้ศิลปะเป็นสุนทรียะที่ทุกคนสามารถสัมผัสและเข้าถึงได้
สยามพารากอน ฉีกกฎก้าวข้ามกรอบคำจำกัดความของ “ลักซ์ชัวรี่” ไปอีกขั้นด้วยการนำเสนอ “New World of Luxury” นิยามแห่ง “ลักซ์ชัวรี่” ในมิติใหม่ ที่เน้นการรังสรรค์ “สุดยอดประสบการณ์” ที่จะเติมเต็มมิติชีวิตและไลฟ์สไตล์ของผู้คนด้วยการนำเสนอ สุดยอดศิลปะ “Siam Paragon’s World Art Collective” (สยามพารากอน เวิลด์ อาร์ต คอลเลคทีฟส์) ที่เหล่าศิลปินระดับโลกมาร่วม Co-create ผลงานศิลปะร่วมสมัยสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับสยามพารากอนโดยเฉพาะ รวมทั้งรวบรวมผลงานจากเหล่าศิลปินร่วมสมัยระดับแนวหน้าทั้งจากไทยและนานาประเทศ ให้ทั้งคนไทยและผู้มาเยือนจากทั่วทุกมุมโลกสามารถสัมผัสและเข้าถึงศิลปะได้อย่างใกล้ชิด เชื่อมโยงประสบการณ์ระดับโลกสู่สยามพารากอน ให้ทุกคนเป็นพลเมืองของโลกศิลปะ
ชนิสา แก้วเรือน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารกลุ่มสร้างสรรค์และนวัตกรรม บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “สยามพารากอนครองความเป็นผู้นำในการรังสรรค์สุดยอดประสบการณ์เหนือระดับในหลากมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นผู้นำในด้านประสบการณ์ลักซ์ชัวรี ที่ทำให้สยามพารากอนครองอันดับหนึ่งในใจทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก และวันนี้สยามพารากอนได้ก้าวสู่การเป็น จุดหมายปลายทางระดับโลกที่นำเสนอสุดยอดประสบการณ์มิติใหม่ “New World of Luxury” ที่ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ลักซ์ชัวรี่หลากมิติ ที่ไม่ได้ตีกรอบอยู่แค่สินค้าและการช้อปปิ้งอีกต่อไป แต่จะกำหนดนิยาม และเป็นต้นแบบของการสร้างสรรค์ประสบการณ์ลักซ์ชัวรี่ใหม่ที่แตกต่าง น่าตื่นตา และไม่เหมือนใคร
สยามพารากอนเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลกที่ต้อนรับผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลกกว่า 150,000 – 200,000 คนต่อวัน เป็นศูนย์รวมที่ตอบสนองความต้องการของผู้คนในทุกไลฟ์สไตล์ นอกจากนี้ ยังเป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงศิลปินและผู้คนเข้าด้วยกัน ให้ศิลปะสามารถผสมผสานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันและไลฟ์สไตล์ที่ทุกๆคนสามารถสัมผัสและเข้าถึงได้ เราจึงได้ร่วม Co-Creation กับศิลปินระดับโลกในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะชิ้นพิเศษ ขึ้นที่สยามพารากอน รวมถึงนำผลงานศิลปะร่วมสมัยจากศิลปินระดับโลกมาให้ทุกคนได้สัมผัสและชื่นชม”
สุดยอดประสบการณ์ “Siam Paragon’s World Art Collective” นำเสนอ 9 ผลงานไฮไลท์ กับผลงาน art installation “Aurora” โดยศิลปิน visual artist ระดับโลกชาวฝรั่งเศส ปาสคาล ดอมบีส์ (Pascal Dombis) ซึ่งเป็นผลงาน Co-Creation ร่วมกับสยามพารากอนโดยเฉพาะ นำแรงบันดาลใจมาจากแสงเหนือ รังสรรค์ผลงานทรงวงกลมที่ดูคล้าย Color Wheel หรือ วงล้อทฤษฎีสี ด้วยเทคนิคเฉพาะตัวที่การจงใจป้อนข้อมูลให้ระบบอัลกอริทึมในคอมพิวเตอร์เกิดเหตุขัดข้อง เกิดผลลัพธ์เป็นลายเส้นเฉดสี การไล่สีที่ซ้อนกันแบบที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ซึ่งผลงาน ชิ้นนี้ชวนให้เกิดปฏิสัมพันธ์ให้ผู้ชมขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวเพื่อชื่นชมจากหลายมุมมอง ที่บริเวณชั้น 5 สยามพารากอน
สยามพารากอนยังรวบรวมผลงานสร้างสรรค์จากเหล่าศิลปินระดับแนวหน้าทั้งไทยและนานาประเทศให้ศิลปะเป็นสุนทรียะที่ทุกคนสามารถสัมผัสและเข้าถึงได้ อีกมากมาย ได้แก่ “Dylie” (ไดลี่) คาแรคเตอร์สีม่วงสุดน่ารักจาก JWON (เจ วอน) หรือ สรายุทธ คุระแก้ว นักวาดภาพ นักออกแบบคาแรคเตอร์ ศิลปินไทยรุ่นใหม่ไฟแรงผู้โดดเด่นในวงการอาร์ตทอยและของสะสม ตั้งอยู่บริเวณ ชั้น 4 ซึ่งเป็นผลงานที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อสยามพารากอนโดยเฉพาะเช่นกัน ประติมากรรมสีแดงโดดเด่น “Red Bubble” จากศิลปินเกาหลีร่วมสมัย Donghoon Oh (โอดงฮุน) ที่ได้รับ แรงบันดาลใจจากการเล่น เป่าฟองสบู่ของเด็กๆ ที่ชั้น 1, ผลงานประติมากรรมสำริด “Cascading Melody”
โดย John Helton (จอห์น เฮลตัน) ประติมากรชาวอเมริกัน ที่สื่อถึงความเป็นนิรันดร์ ณ ชั้น M, ประติมากรรม “The Way it Shapes You” จากศิลปินชาวเนเธอร์แลนด์ Pieter Obels (ปีเตอร์ โอเบลส์) ผู้สร้างสรรค์งานเหล็กหล่อที่ให้ความรู้สึกเบา อ่อนช้อย ลื่นไหล สื่อถึงการโลกสามารถเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติได้ ณ ชั้น 3, ผลงานดิจิตัล อาร์ต “Kinetic Waves” และ “Vortex” โดยศิลปินชาวฝรั่งเศสผู้บุกเบิกศิลปะแนวดิจิตัลอาร์ตมากว่า 40 ปี Miguel Chevalier (มิเกล เชอวาลิเยร์) ที่บริเวณชั้น 4
นอกจากนี้ ยังมี ประติมากรรมไม้ “ไม่มาไกลเพื่อถอยหลัง” โดย อินสนธิ์ วงค์สาม ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม) ปี พ.ศ. 2542 ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากการออกเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์ตามลำพัง เพื่อไปยังเมืองฟลอเรนซ์ บ้านเกิดของศ.ศิลป์ พีระศรี ณ ชั้น 2 และ ประติมากรรม “คิดถึง” โดย นฤทธ์ธรณ์ เศรษฐ์คุณารัฐ ที่สื่อถึง ความเหงาและความเดียวดายของมนุษย์ผ่านรูปทรงที่ถูกตัดทอนแล้ว โดยความรู้สึก อารมณ์ และจินตนาการ ที่ชั้น 1 และประติมากรรมน้องมะม่วง คาแรคเตอร์ไทยที่ดังไกลระดับอินเตอร์ วิศุทธิ์ พรนิมิต ศิลปินไทยชื่อดังที่บอกเล่าเรื่องราวภาพสะท้อนและมุมมองของตัวเราซึ่งมาจากการที่เรามองโลกอย่างไร ณ บริเวณชั้น 1
ร่วมสัมผัสสุดยอดประสบการณ์ของสุดยอดผลงานศิลป์ร่วมสมัยจากเหล่าศิลปินระดับโลกได้ทั่วพื้นที่สยามพารากอน พร้อมติดตามผลงานศิลป์ใหม่ๆ ที่จะมาจัดแสดงเพิ่มเติมในอนาคต ได้ที่ Facebook: SiamParagon
#SiamParagon #NewWorldof Luxury
ที่มา ข่าวประชาสัมพันธ์