จะเป็นลม! จิตสำนึกเด็กไทย มีเซ็กซ์กับพ่อเรื่องปกติ นี่ยุคไหนแล้ว
หัวจะปวด! เด็กไทยโพสต์ มีเพศสัมพันธ์กับพ่อของตัวเอง ไม่ใช่เรื่องแปลก ยืนยันทำได้เพราะเป็นสิทธิในร่างกายตัวเอง ซ้ำตอกกลับชาวเน็ต “อย่าอยู่แต่ในกะลา”
ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์โพสต์ของเด็กสาวรายหนึ่ง ที่โพสต์สนับสนุนว่า “การมีเซ็กซ์กับพ่อตัวเองเป็นเรื่องปกติ” โดยเธอยังอ้างสิทธิเหนือร่างกายว่าจะทำอะไรก็ได้ พร้อมอ้างนี่มันยุคสมัยไหนแล้ว โต้กลับแรงถึงคนด่าว่าอยู่แต่ในกะลา
“การมี sex กับพ่อเป็นเรื่องปกตินะคะ อันนี้มันยุคไหนแล้วเอ่ยย อย่าอยู่แต่ในกะลาค่ะ sex มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์จ้า ฉันสสามารถมีอะไรกับใครก็ได้สิทธิ์ฉัน”
หลังข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ทำให้เรื่องนี้ถูกวิพากย์วิจารณ์อย่างหนัก ชาวเน็ตมองว่าการมีเพศสัมพันธ์มันคือเรื่องธรรมดาของมนุษย์ก็จริง แต่กับพ่อหรือแม่ของตัวเองมันดูจะไม่ใช่เรื่องปกติทั่วไปเหมือนอย่างที่เด็กสาวคนนี้โพสต์เอาไว้
“สายเลือดชิด” ก่อให้เกิดความผิดปกติทั้งทางพันธุกรรม และสติปัญญา
จากการสืบค้นข้อมูลพบว่า ในสมัยก่อนนั้นอาจมีเรื่องของการคลุมถุงชน หรือการแต่งงานกันเพื่อธุรกิจของ 2 ครอบครัว เพื่อสืบเชื้อสายวงศ์ตระกูลให้อยู่ในคนกลุ่มเดียวกันเพียงเท่านั้น หรือจะเรียกอีกอย่างว่า “เลือดชิด” แต่ในปัจจุบันนี้การจับคู่ระหว่างลูกหลานเชื้อสายเดียวกันมาแต่งงานกันเองนั้นไม่ค่อยจะเกิดขึ้นแล้ว
เหตุผลที่ไม่ควรแต่งงานกับคนที่มีเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกันนั่นก็เพราะว่า จะทำให้ยีนด้อยของทั้งพ่อและแม่มารวมอยู่ในตัวลูก และจะปรากฎเด่นชัดขึ้นมา นั่นจะทำให้ลูกที่ออกมาเกิดความผิดปกติทั้งทางพันธุกรรม และ/หรือทางสติปัญญา ซึ่งมีความเสี่ยงมากถึง 6% เมื่อเทียบกับคู่แต่งงานทั่วไปที่มีโอกาสลูกเกิดมาผิดปกติเพียงแค่ 3% เท่านั้น
ยกตัวอย่างเลือดชิดจากในสมัยราชวงศ์ฮับสเบิร์กที่แต่งงานกันภายในราชวงศ์จนเกิดการล่มสลายขึ้น โดยเหล่านักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเคยตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับรูปหน้าที่มีคางยื่นของสมาชิกในราชวงศ์ว่า น่าจะเกิดจากความผิดปกติของการสมรสกันเองในหมู่เครื่อญาติ
กระทั่งนักพันธุศาสตร์จากมหาวิทยาลัยซานเตียโกเดคอมโพสเตลา (University of Santiago de Compostela) ของสเปน ได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาลงในวารสาร Annals of Human Biology โดยแสดงหลักฐานยืนยันว่า คางที่ยื่นยาวหรือ “ขากรรไกรฮับสเบิร์ก” (Habsburg jaw) เป็นผลมาจากความอ่อนแอทางพันธุกรรมเนื่องจากสายเลือดชิดจริง แต่จะยื่นมากหรือน้อยไม่เท่ากัน
ความผิดปกติดังกล่าวปรากฏชัดเจนกับ พระเจ้าชาร์ลส์ที่สอง แห่งสเปน ซึ่งกษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์ฮับสเบิร์ก มีพระราชบิดาเป็นพระมาตุลา (ลุง) ในพระราชมารดา ซึ่งนอกจากใบหน้าที่มีขากรรไกรยื่นออกมาจนเสวยพระกระยาหารได้ลำบากแล้ว ยังทำให้พระวรกายแคระแกร็น พระพลานามัยไม่สมบูรณ์ รวมทั้งไม่สามารถมีรัชทายาทได้ เป็นเหตุให้ราชวงศ์ฮับสเบิร์กที่เคยเกรียงไกรต้องล่มสลายไปในที่สุด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง