ข่าวข่าวการเมือง

“ทักษิณ” ถูกจับตา ปมหารือตั้งนายกที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เสี่ยงเข้าข่ายครอบงำพรรค

ทักษิณ ชินวัตร โดนหมายหัว หลังมีสื่อเห็นผู้นำพรรคต่าง ๆ ขับรถเข้าไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้า หลังเศรษฐาโดนปลด คาดหารือตั้งนายกฯ คนใหม่ หมิ่นเหม่ข้อหาครอบงำพรรค มีสิทธิ์ถูกยุบถ้าโดนตรวจสอบ

อาจารย์อุ๋ย หรือ “ประพฤติ ฉัตรประภาชัย” อดีต สส. พรรคประชาธิปัตย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย โพสต์เดือดผ่านเฟซบุ๊ก ประพฤติ ฉัตรประภาชัย กรณีที่มีสื่อรายงานว่าพบเห็นรถตู้จำนวนมากขับเข้าออกที่ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” บ้านพักของ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งภายหลังได้มีการตรวจสอบทะเบียนและรายงานว่าเป็นรถของ นายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ รมช.สาธารณสุข และยังมีรายงานว่า อาจมีรถของนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยด้วย

ทักษิณ ชินวัตร ถูกกล่าวหาว่าครอบงำพรรคการเมือง เหตุเรียกผู้นำพรรคเข้าพบ หลังเศรษฐาหลุดจากตำแหน่ง

นายประพฤติซึ่งเป็นนักกฎหมาย จึงเห็นว่าการกระทำดังกล่าวที่เกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมง หลังจาก เศรษฐา ทวีสิน ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้พ้นจากตำแหน่งนายกฯ นั้น เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะคุณทักษิณไม่ใช่สมาชิกพรรคการเมืองใด ๆ จึงไม่มีอำนาจหน้าที่ในการเรียกประชุม ทว่าภาพที่เกิดขึ้นอาจทำให้คนอื่นเข้าใจได้ว่า การหารือเพื่อเสนอชื่อแคนดิเดตนายกคนที่ 31 มาจากคำบัญชาการของทักษิณ ซึ่งเข้าข่ายการครอบงำพรรค และอาจนำไปสู่การถูกยุบพรรคได้

“คุณทักษิณไม่ได้เป็น และไม่สามารถเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด ๆ ได้ เพราะขาดคุณสมบัติตามมาตรา 24 แห่ง พรป. ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ประกอบรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 98 เพราะเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในคดีทุจริต ดังนั้น การที่คุณทักษิณเทียบเชิญพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล มาร่วมหารือเพื่อตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่และจัดตั้งรัฐบาล จึงเข้าข่ายกระทำความผิดตามมาตรา 29 แห่งพรป. พรรคการเมือง ซึ่งกำหนดห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งไม่ใช่สมาชิกกระทำการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ”

“ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม มาตรา 108 กำหนดให้ผู้ที่ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 – 10 ปีนอกจากนี้ แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่ปล่อยให้คุณทักษิณซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรคเข้ามากระทำการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคตัวเอง ก็มีความผิดตามมาตรา 28 ของกฎหมายฉบับเดียวกัน ซึ่งมาตรา 92 กำหนดให้พรรคการเมืองที่ฝ่าฝืนต้องถูกยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรค ผมจึงขอฝากให้ กกต. พิจารณาเรื่องนี้โดยเร็ว”

อาจารย์อุ๋ยโพสต์เตือนทักษิณครอบงำพรรค
ภาพจาก : Facebook ประพฤติ ฉัตรประภาชัย

นอกจากนี้อาจารย์อุ๋ย ยังเสนออีกว่าการที่พรรคการเมืองยอมสิโรราบต่ออดีตนายกฯ ทักษิณ จะทำให้ความเชื่อมั่นของชาวต่างชาติที่มีต่อประเทศไทยลดลงหรือไม่ เพราะหากข่าวลือที่ว่าการเข้าพบในวันนั้น เป็นการประชุมเรื่องนายกคนใหม่เป็นเรื่องจริง ก็อาจทำให้ระบบนิติธรรมของประเทศถูกสั่นคลอน เพราะมีบุคคลทั่วไปจากนอกสภา เข้ามามีสิทธิและอำนาจในการชี้นิ้วเพื่อกำหนดชะตาการเมืองไทยได้

“ยิ่งไปกว่านั้น การที่พรรคร่วมรัฐบาล ไปหาคุณทักษิณ ซึ่งยังมีสถานะเป็นนักโทษคดีทุจริตถึงบ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่อเจรจาในการจัดตั้งรัฐบาล ผมก็ยังสงสัยว่านักลงทุนต่างชาติเขาจะมองเราอย่างไรที่ให้ปล่อยให้นักโทษในคดีทุจริตเป็นผู้นำในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี ซึ่งสวนทางกับมาตรฐานของสากลโลกในเรื่องระบบนิติธรรม”

“สหประชาชาติได้ประกาศให้หลักนิติธรรมเป็น 1 ใน 17 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ตั้งแต่ พ.ศ. 2558 เพราะหลักนิติธรรมที่เข้มแข็งจะทำให้นักลงทุนต่างชาติมีความมั่นใจในระบบกฎหมายของประเทศที่ตนจะมาลงทุน ไม่ต้องกังวลกับ ‘ต้นทุน’ หรือ cost ที่มองไม่เห็น และคาดการณ์ไม่ได้ ซึ่งอาจจะต้องหมดไปกับการคอร์รัปชันและการเผชิญกับอุปสรรคที่เกิดจากกฎหมายหรือการบังคับใช้กฎหมายที่บิดเบือน”

“สุดท้ายนี้ผมขอฝากให้ทุกฝ่ายตัดสินใจดำเนินกิจกรรมทางเมือง ภายใต้หลักนิติรัฐ นิติธรรม และยึดผลประโชน์ของชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง ด้วยความปรารถนาดี”

อาจารย์อุ๋ย ฟาดทักษิณ ปมครอบงำพรรคการเมือง
ภาพจาก : Facebook ประพฤติ ฉัตรประภาชัย

ภาพจาก : Facebook ประพฤติ ฉัตรประภาชัย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Woralada

นักเขียนเรื่องไลฟ์สไตล์ ข่าวบันเทิง และประเด็นการเมือง เวลาว่างชอบดูซีรีส์ อ่านวรรณกรรม และไปคอนเสิร์ตเพื่อต่อพลังงานชีวิต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button