ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แถลงคืบหน้า ปมการเสียชีวิต ‘หมอเก่ง’ สภาพศพ ริมฝีปากดำคล้ำ ช่วงปลายเดือนที่แล้วมีประวัติสั่งซื้อ ‘ไซยาไนด์’ ด้านหนุ่มคนสนิท ‘นายยู’ ให้การไม่เป็นประโยชน์
สืบเนื่องจากกรณีการเสียชีวิตของ นายอุดมศักดิ์ ทองม้วน หรือ หมอเก่ง วัย 50 ปี เจ้าหน้าที่ รพ.สต.บางสระเก้า อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี ที่ก่อนหน้านี้ทางตำรวจได้รับแจ้งว่าหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ก่อนจะพบว่าได้ย้ายไปอยู่กับหนุ่มคนสนิท นามว่า นายชัยพร หรือ ยู วัย 34 ปี จนกระทั่งต่อมามีรายงานว่าถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาในช่วงกลางดึก ด้วยอาการปวดท้องรุนแรงและมีเลือดออกทวาร และสุดท้ายก็เสียชีวิต
วันนี้ 15 สิงหาคม 2567 เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. มีรายงานว่า พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว. พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยทีมกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมประชุมความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของหมอเก่ง โดยระบุว่า ขณะนี้พบตัว ‘นายชัยพร’ แล้ว ที่จังหวัดลำพูน โดยหลังจากทำการตรวจสอบประวัติ พบว่า นายยูเคยติดคุกเป็นเวลา 5 ปี ในคดีพรากผู้เยาว์
เบื้องต้นไม่พบประวัติว่า ชายผู้นี้เคยจัดหาแรงงานต่างด้าวส่งให้กับบริษัทและก่อเหตุยักยอกเงิน ตามที่กำลังตกเป็นข่าวแต่อย่างใด นอกจากนั้นก็ยังไม่พบว่า นายชัยพรเป็นผู้ปล่อยข่าวเรื่องตัวเองจะฆ่าตัวตายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเช่นกัน ทั้งสองประเด็นนี้ยังคงต้องสืบหาความจริงต่อไป
จากนี้จะต้องรอสอบปากคำนายชัยพรอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากเจ้าตัวอ้างว่า ง่วง พักผ่อนไม่เพียงพอ อีกทั้งเมื่อถามถึงรายละเอียดในที่เกิดเหตุก็อ้างว่าจำไม่ได้ และมักจะตอบปัดว่าผู้ตายเป็นคนรู้ความจริงทั้งหมด
สภาพศพ ‘หมอเก่ง’ ตรงกับความเชื่อคนโบราณ
สำหรับข้อสงสัยเกี่ยวกับสภาพศพว่า มีลักษณะต้องสงสัยหรือไม่ ทางพล.ต.ต.โชติวัฒน์ กล่าวว่า บริเวณริมฝีปากขิงหมอเก่งมีสีดำคล้ำ ซึ่งตามความเชื่อของคนโบราณแล้วนั้น การที่ศพมีปากดำคล้ำเช่นนี้อาจเป็นไปได้ว่า ได้รับยาพิษ แต่อย่างไรก็ตามก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ โดยจะต้องรอผลการชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
เปิดไทม์ไลน์การเสียชีวิตของ หมอเก่ง’
หมอเก่งหายตัวไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2567 และไปอยู่กับนายชัยพร หนุ่มคนสนิท โดยเช่าห้องพักอยู่ด้วยกันในจังหวัดนนทบุรี ต่อมาในเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 12 สิงหาคม ตำรวจสภ.รัตนาธิเบศร์ พบตัวหมอเก่งที่โรงแรมแห่งหนึ่ง โดยคุณหมอยืนยันว่ามาด้วยความสมัครใจ
เวลาประมาณ 18.25 น. หมอเก่งได้ส่งข้อความหาเพื่อนในทำนองสั่งเสีย ความว่า “ให้มาเตรียมเก็บศพ 2 ศพด้วย” ญาติจึงแจ้งตำรวจให้ไปตรวจสอบอีกครั้ง แต่หมอเก่งปฏิเสธที่จะคุยกับญาติ และขอออกจากห้องพักไปกับนายชัยพร ทั้งคู่ตั้งใจจะเดินทางไปยังจังหวัดลำพูน แต่แวะพักที่โรงแรม ในย่านบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งขณะนั้นเวลาประมาณ 22.30 น.
ต่อมาในเวลา 04.00 น. นายชัยพรได้โทรศัพท์แจ้งกู้ภัยว่า หมอเก่งปวดท้องอย่างรุนแรง โดยเมื่อไปถึงโรงพยาบาลเจ้าหน้าที่ได้ทำการปั๊มหัวใจอยู่ถึง 6 ครั้ง แต่สุดท้ายก็ยื้อชีวิตไว้ไม่ได้ โดยได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 67
อ้างอิงจากคำให้การของนายชัยพร เจ้าตัวอ้างว่า ในคืนวันเกิดเหตุทั้งคู่ได้สั่งอาหารมาทานในห้องพัก ได้แก่ เมนูส้มตำ ซุปหน่อไม้ และแกงเห็ด รวมถึงสั่งน้ำเปล่าและน้ำอัดลมด้วย ซึ่งหมอเก่งเป็นผู้เดียวที่ทานส้มตำ โดยหลังจากทานอาหารเสร็จ จู่ ๆ หมอเก่งก็มีอาการปวดท้องขั้นรุนแรง เมื่อหมอเก่งเข้าโรงพยาบาลก็รู้สึกเครียด จึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้าที่จังหวัดลำพูน
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจยังคงไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนายยู เนื่องจากไม่มีหลักฐานสำคัญมายืนยัน อีกทั้งเมื่อเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุก็พบว่า แม่บ้านได้นำกระป๋องน้ำอัดลมบางส่วนที่เป็นหลักฐานของคดีทิ้งไปแล้ว จึงจำเป็นต้องตรวจสอบจากพยานหลักฐานชิ้นอื่นแทน
จากการตรวจสอบพยานหลักฐานเบื้องต้น พบว่า หมอเก่งมีความคิดอยากฆ่าตัวตาย โดยเคยค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ‘ไซยาไนด์’ และ ‘สารหนู’ ทางอินเทอร์เน็ตเรื่อยมา ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 และมีการสั่งซื้อไซยาไนด์ ในวันที่ 31 กรกฎาคม แต่เมื่อสินค้ามาส่งในวันที่ 9 สิงหาคม 2567 ได้มีการกดยกเลิกและคืนเงินเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบแผงยาที่อยู่ภายในรถ และที่เกิดเหตุ พบว่าส่วนใหญ่เป็นยารักษาโรคประจำตัว อาทิเช่น ยาแก้ปวดหัวไมเกรน ยังไม่พบว่ามียาพิษแต่อย่างใด ดังนั้นตำรวจจึงยังไม่สรุปสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งคาดว่าต้องรอผลการสอบสวนเพิ่มเติมว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือมีผู้ทำให้เสียชีวิต ด้วยเหตุนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ใด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รู้แล้ว ‘แฟนหมอเก่ง’ หายไปไหน หลังเสียชีวิต ไม่ได้คิดหนี
- อาหารมื้อสุดท้าย ‘หมอเก่ง’ ก่อนปวดท้องรุนแรง จนหามส่งรพ.
- อาลัย ‘หมอเก่ง’ เสียชีวิตแล้ว หลานโพสต์ ต้องไม่ตายฟรี ผู้ชายหนี
