‘เศรษฐา’ น้อมรับคำตัดสิน เสียใจถูกตัดสินว่าเป็นนายกไร้จริยธรรม
เศรษฐา น้อมรับคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ เสียใจถูกตัดสินว่าเป็นนายกไร้จริยธรรม มั่นใจว่าตนเป็นคนมีจริยธรรม ส่งความปรารถนาดีให้นายกฯคนต่อไป
นาย เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีเปิดใจให้สัมภาษณ์หลังศาลวินิจฉัยให้พ้นสภาพนายกรัฐมนตรี 5:4 กรณีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน ว่า ขอบคุณตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ให้โอกาสทุกฝ่ายชี้แจง ตนเคารพในคำวินิจฉัย โดยตลอดเวลาเกือบ 1 ปี พยายามทำทุกอย่างให้ทุกอย่าง ทำงานอย่างซื่อสัตย์สุจริต และยืนยันไม่ได้ทำตัวขัดแย้ง
เมื่อถามว่าคาดคิดไว้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ผลออกได้ทั้งซ้ายและขวา โดยไม่ได้คาดเดาผลที่จะออกมา ตนเสียใจเพราะจะถูกว่าเป็นนายกฯไม่มีจริยธรรม มั่นใจว่าตนเป็นคนมีจริยธรรม ซึ่งตนไม่ใช่คนแบบนั้น เสียใจไม่ใช่เพราะผลตัดสิน แต่ถูกมองว่าไม่มีจริยธรรม แต่ตนก็น้อมรับคำตัดสิน
ซึ่งบ้านเมืองมีคนเก่งอีกหลายท่าน โดยนายภูมิธรรมกำลังเดินทางกลับมาอยู่ หากไม่ทันยังมีนายสุริยะ ยืนยันตนไม่ใช่คนแบบนั้น ไม่เชื่อมีใครวางยา โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคงตัดสินตามข้อมูล ไม่เกี่ยวว่าเข็ดกับการเมือง
อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนขอให้ดำเนินต่อไปในการสรรหานายกคนต่อไป และขอส่งความปรารถดีกับนายกรัฐมนตรีคนต่อไป แม้กระทั้งช่วงรองนายกฯ จะสืบสานนโยบาย พาประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้า นั่นคือความตั้งใจสูงสุด ส่วนเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต แลนด์บริดจ์ ซอฟต์พาวเวอร์ ใครจะทำไม่ทำก็ขอให้เป็นเรื่องของรัฐมนตรีชุดต่อไป
พร้อมกันนี้ยังระบุว่าตนรู้สึกเป็นห่วง เข้าใจความซับซ้อนที่มีอยู่ในการบริหารจัดการประเทศ ทั้งปัญหายาเสพติด เรื่องอาชญากรรมไซเบอร์ก็เป็นห่วงอยู่ ราคาพืชผลก็เป็นห่วงอยู่ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันจบสิ้นแล้ว เพราะศาลรัฐธรรมนูญตัดสินแล้ว พร้อมบอกด้วยว่าไม่ได้คิดว่าถึงจุดสูงสุดไหม แต่คิดว่าเป็นเกียรติที่ได้ผลักดันชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและประเทศ แต่ในการเดินต่อไป ตนอายุ 62 คนยังทำอะไรได้อีกเยอะ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไม่รอด! ‘เศรษฐา’ พ้นเก้าอี้นายก ศาลรธน. ฟัน ผิดจริยธรรมร้ายแรง
- ‘ภูมิธรรม’ นั่งรักษาการแทน หลัง ‘เศรษฐา’ สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรีทันที
- เปิดประวัติ 9 ตุลาการศาลรธน. ถอดถอน “เศรษฐา” พ้นเก้าอี้นายกรัฐมนตรี