ประวัติ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายดัง ยื่นฟ้องพรรคก้าวไกล ล้มล้างการปกครอง
รู้จัก “ธีรยุทธ สุวรรณเกษร” ทนายความอิสระ ผู้ร้องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพิจารณา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกลเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง
จากกรณี เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2567 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ให้ยุบพรรคก้าวไกล และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี ฐานความผิดเข้าข่ายล้มล้างการปกครองจากการรณรงค์นโยบายแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 ซึ่งผู้ที่ฟ้องร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยพรรคก้าวไกลคือ “ธีรยุทธ สุวรรณเกษร” ทนายความอิสระ ผู้พิทักษ์กฎหมายมาตรา 112
ทนายดัง สู่นักร้องก้าวไกลล้มล้างการปกครอง
ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ เป็นที่รู้จักในแวดวงการเมืองจากบทบาทอดีตทนายความประจำ ‘พระพุทธะอิสระ’ หรือ สุวิทย์ ทองประเสริฐตั้งแต่ปี 2558 และเป็นที่สนใจอีกครั้งจากการยื่นฟ้องพรรคก้าวไกลในข้อหาล้มล้างการปกครองจากการรณรงค์นโยบายแก้ไขกฎหมายมาตรา 112
เส้นทางนักกฎหมายของธีรยุทธเริ่มต้นจากการเป็นลูกพ่อขุน เขาจบการศึกษาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และเริ่มว่าความมาตั้งแต่ปี 2543 ก่อนจะผันตัวเข้าสู่เส้นทางธรรมในปี 2556 โดยเข้าร่วมโครงการอุปสมบทหมู่ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม โดยมีพระพุทธะอิสระเป็นผู้บรรยายธรรม
เมื่อบวชครบ 2 เดือน เขาตัดสินใจลาสิกขาและกลับมาทำงานทนายความอีกครั้ง เนื่องจากได้รับการติดต่อจากญาติโยมให้กลับมาช่วยว่าความในคดีที่พระพุทธอิสระเรียกร้องให้ตรวจสอบ วัดธรรมกาย หลังจากคดีความเสร็จสิ้น เขาได้รับความไว้วางใจให้เป็นทนายความของพระพุทธอิสระและวัดอ้อน้อยเรื่อยมา
นอกจากนี้ ธีรยุทธยังเคยเป็นทนายความให้กับ ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่ตกเป็นโจทก์ในคดีฟ้องร้องวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน ฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา รวมทั้งฟ้องร้องนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ในความผิดฐานแจ้งความเท็จ และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
ธีรยุทธกับเส้นทางผู้ปกป้องม. 112
ธีรยุทธมีชื่อเสียงจากการเป็นหัวหอกในการแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่มีความเห็นต่างทางการเมือง ซึ่งได้รับมอบหมายจาก “พระพุทธะอิสระ” หรือ “สุวิทย์ ทองประเสริฐ” ให้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับนักการเมืองและนักกิจกรรมการเมืองในข้อหามาตรา 112 แก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 มาแล้วนับไม่ถ้วน ดังนี้
1. ในปี 2563 แจ้งความดำเนินคดีกับ 3 แกนนำคณะก้าวหน้า ได้แก่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ พรรณิการ์ วานิช กรณีบรรยายเรื่องงบประมาณของสถาบันพระมหากษัตริย์ และปิยบุตร แสงกนกกุล กรณีไลฟ์เฟซบุ๊กและกล่าวถึง 3 ข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมการเมืองเมื่อปี 2563 ในความผิดฐานร่วมกันยุยงปลุกปั่นฯ ตามประมวลกฎหมายอาญาม. 116
2. วันที่ 2 ธันวาคม 2563 แจ้งความดำเนินคดีกับนักเรียนสมาชิกกลุ่ม “คะน้าราดซอส” ที่ขึ้นปราศรัย ณ ห้าแยกลาดพร้าวในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 116 และอื่น ๆ รวม 8 ข้อหา
3. วันที่ 13 พฤศจิกายน 2564 แจ้งความดำเนินคดีกับ ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำกลุ่มราษฎรและประชาชนอีก 5 คน ความผิดฐานตั้งโต๊ะแถลงข่าวต้านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีล้มล้างการปกครอง ซึ่งมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 113 และ 116
4. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยการกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขณะดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล ความผิดฐานที่ใช้นโยบายการแก้ไขและยกเลิกมาตรา 112 ในการหาเสียงเลือกตั้ง
สาเหตุทำไมถึงยื่นยุบพรรคก้าวไกล
นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร กล่าวว่าสาเหตุที่เขายื่นฟ้องร้องให้ยุบพรรคพรรคก้าวไกล เนื่องจากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์และพรรคก้าวไกลหาเสียงโดยมีการเสนอร่างแก้ไขมาตรา 112 เขาจึงต้องการเรียกร้องให้ศาลตรวจสอบว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่ ทั้งนี้ยังต้องหารป้องกันความเสียหายร้ายแรงที่อาจจะเกิดแก่สถาบันฯ ถือเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม
จากนั้นเขาเริ่มศึกษาและอ้างอิงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ 2 คดีสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในอดีตมาเป็นบรรทัดฐานการยื่นคำร้องต่อศาลให้ยุบพรรคก้าวไกล ได้แก่ คดียุบพรรคไทยรักษาชาติ จากกรณีนำเสนอพระนามทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นนายกรัฐมนตรี ในปี 2562 และคดีชุมนุมหรือปรากฏการณ์ ‘ทะลุเพดาน’ ที่แฝงเจตนาล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในปี 2564
นอกจากนี้เขาเปิดใจถึงเบื้องหลังการยื่นฟ้องพรรคก้าวไกลในข้อหาล้มล้างการปกครองยืนยันว่าดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายด้วยตัวเองทั้งสิ้น เพียงแค่ต้องการทำหน้าที่ทนายความตามหลักกฎหมายและไม่ได้มีเจตนาทางการเมืองแอบแฝงหรือไม่มีผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้
ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2567 ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยคดีกกต. ร้องศาลรัฐธรรมนูญโดยมีหลักฐานที่สื่อว่าพรรคก้าวไกลมีพฤติกรรมล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและเข้าข่ายกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงมีคำสั่งให้ยุบพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดรายชื่อ 6 ผู้พิพากษาศาลรธน. ยุบ “ก้าวไกล” อ้างล้มล้างการปกครอง
- ปิดตำนาน “พรรคก้าวไกล” ย้อนประวัติ ความหวังคนรุ่นใหม่ สู่วันบดขยี้ ถูกยุบพรรค
- #ก้าวไกลไปต่อ พาติดแฮชแท็กร้อน “ข้าไม่ตาย” ปล่อยทีเซอร์เดินทางครั้งใหม่ หลังถูกยุบ